เรกูเลเตอร์ส่งผลสอบกัลฟ์ฯ กินรวบไอพีพีรอบ 3 ยื่นให้ “คตร.” ตัดสินใจลงดาบหรือไม่แล้ว ย้ำพิจารณาทุกประเด็นที่เคลือบแคลง ขณะที่ สร.กฟผ.จี้เรกูเลเตอร์ล้มประมูลสถานเดียว วงในลือหึ่ง! เจรจานอกรอบเดินคนละครึ่งทาง ต่อรองหั่นกำลังผลิตจาก 5 พัน MW เหลือ 2.5 พัน MW ด้านกัลฟ์ฯ ยันไม่จริง มั่นใจไม่ผิด
นายไกรสีห์ กรรณสูต กรรมการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการประมูลรับซื้อไฟจากเอกชนรายใหญ่ (IPP) รอบที่สาม ที่มีผู้ชนะรายเดียวคือบริษัท Independent Power Development ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บ.กัลฟ์ เอนเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ กับ บ.มิตซุยแอนด์คัมปะนี (ไทยแลนด์) จำกัด กำลังผลิต 5,000 เมกะวัตต์ (MW) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ส่งรายงานการตรวจสอบทั้งหมดเสนอไปยังคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) แล้ว
“คตร.ได้มีหนังสือมายังเรกูเลเตอร์เพื่อให้ทำการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และล่าสุดได้ส่งเรื่องให้ คตร.ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นคงจะต้องรอให้ คตร.เป็นผู้ตัดสินใจ คงบอกผลสรุปไม่ได้ แต่เราก็ได้ทำข้อสรุปในประเด็นต่างๆ ที่เป็นที่กังขามากที่สุดสรุปไปให้” นายไกรสีห์กล่าว
สำหรับประเด็นสำคัญๆ ที่ได้พิจารณาคือ การเปิดประมูลว่ามีเงื่อนไขอย่างไร และได้ทำตามกำหนดในเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในร่างสัญญา หรือ TOR หรือไม่ รวมถึงการพิจารณาที่ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายมากน้อยเพียงใด เหตุผลของการไม่ผ่านเทคนิคมีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด รวมถึงประเด็นว่ามีการผูกขาดอย่างไร เป็นต้น โดยยอมรับว่าเทคนิคของโรงไฟฟ้าก็เป็นไปตามหลักสากล แต่วิธีการคัดเลือกจะต่างจากการประมูล IPP สองรอบที่ผ่านมา
นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สร.กฟผ.ได้ยื่นหนังสือถึงเรกูเลเตอร์โดยสาระสำคัญต้องการให้พิจารณาล้มประมูลโครงการดังกล่าวเนื่องจากการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่โปร่งใสและมีการเอื้อให้บริษัทฯ ได้รับการพิจารณาเพียงรายเดียว เพราะตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพีขณะนั้นกำหนดให้มีโรงไฟฟ้าเอกชนกำลังการผลิต 900 เมกะวัตต์เข้าระบบตั้งแต่ปี 2564-2569 รวม 5,400 เมกะวัตต์ แต่ปรากฏว่าการประมูลผู้ชนะจะนำไฟฟ้าเข้าระบบปีละ 1,250 เมกะวัตต์ เป็นเวลา 4 ปี รวม 5,000 เมกะวัตต์ กำลังผลิตที่หายไป 400 เมกะวัตต์ทำอย่างไรเพราะไม่เป็นไปตามแผน
“การไม่ได้ทำตามแผนพีดีพีซึ่งมีมติ ครม.รองรับเป็นการปฏิบัติที่ผิดระเบียบหรือไม่ ขณะเดียวกัน การที่กัลฟ์ฯ ได้รายเดียวจะผูกขาดหรือไม่ และที่สำคัญสถานีแรงสูงของ กฟผ.คือปลวกแดงและฉะเชิงเทราสามารถรับโหลดได้ 2,700 เมกะวัตต์ แต่กัลฟ์ฯ จะนำเข้าถึง 5,000 เมกะวัตต์ใครจะรับผิดชอบในการขยายสถานีไฟฟ้า ซึ่งเรื่องนี้เราก็เตรียมยื่นหนังสือถึง รมว.พลังงานและทุกส่วนที่เกี่ยวข้องจนกว่า “คตร.” จะตัดสินใจออกมา” นายศิริชัยกล่าว
แหล่งข่าวจากวงการพลังงานกล่าวว่า หลังจากที่เรกูเลเตอร์ได้ยื่นเรื่องผลการตรวจสอบโครงการไอพีพีส่งไปยัง คตร.แล้วเกิดกระแสข่าวลือว่าได้มีการเจรจาตกลงกันรอบนอกที่จะให้กัลฟ์ฯ เหลือกำลังการผลิตที่ชนะประมูลไอพีพี 5,000 เมกะวัตต์เพียง 50% หรือประมาณ 2,500 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเพียงพอกับโหลดของ กฟผ.ที่จะรองรับได้ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาโดยให้เดินคนละครึ่งทาง แต่อย่างไรก็ตามคงจะต้องรอ “คตร.” ตัดสินและประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
แหล่งข่าวจากบริษัทกัลฟ์ฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเพราะทางเรกูเลเตอร์หรือแม้แต่ตัวแทนรัฐบาลไม่เคยนำประเด็นการลดกำลังการผลิตมาเจรจาแต่อย่างใด และบริษัทฯ ยืนยันว่าได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าไปแล้วหากยกเลิกจะต้องมีเงื่อนไขว่าบริษัทฯ ผิดจริงตามสัญญา โดยเฉพาะต้องผลิตไม่ได้ตามแผนระยะเวลาที่กำหนด
