นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย กรณีที่ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคฯ และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคฯ และอดีตส.ส.ของพรรคฯทั้งหมด กรณีไม่ได้แจ้งหนี้เงินบำรุงพรรค หรือเงินบริจาคพรรค หลังพ้นจากความเป็นส.ส.ว่า การดำเนินการของนายเรื่องไกร เป็นเพราะได้รับไฟเขียวจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าจะวางมือ และหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง จึงไม่เป็นความจริง และการร้องต่อ ป.ป.ช. ของนายเรืองไกร จึงไม่มีผลใดๆเพราะการให้เงินบำรุงพรรคของส.ส.คนละ 2 หมื่นบาท เปรียบเหมือนลูกกตัญญู จึงไม่ผิดกฎหมายใดๆ และที่ผ่านมา นายเรืองไกร เคยร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และได้ยกคำร้องไปแล้ว รวมทั้งที่ไปยืนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งล่าสุด พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดี ดีเอสไอ ยืนยันจะไม่ดำเนินการใดๆ ในเรื่องนี้ เพราะรู้ข้อเท็จจริงว่าไม่เป็นความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง
นายวัชระ กล่าวต่อว่า การที่นายเรืองไกร ไปร้องต่อ ป.ป.ช. ถือเป็นการใช้สิทธิที่มีนัยยะแอบแฝงทางการเมือง ถ้าแน่จริงควรตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มกฤษดานคร ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งให้ธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้จำนวน 9 พันล้านบาท โดยมีเงินเข้าบัญชีนายพานทองแท้ ชินวัตร จำนวน 26 ล้านบาทนั้น เป็นค่าอะไร และควรตรวจสอบงบประชาสัมพันธ์ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในปีงบประมาณ 56 ว่าได้ให้งบประมาณกับสถานีโทรทัศน์ วอยซ์ทีวี 25.3 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ลงนามผูกพันบริษัทคือ นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร นายเรืองไกร ควรตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชน ว่าเพราะเหตุใด เงินจึงไหลไปเข้กระเป๋า นายพานทองแท้
นายวัชระ กล่าวต่อว่า การที่นายเรืองไกร ไปร้องต่อ ป.ป.ช. ถือเป็นการใช้สิทธิที่มีนัยยะแอบแฝงทางการเมือง ถ้าแน่จริงควรตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มกฤษดานคร ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งให้ธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้จำนวน 9 พันล้านบาท โดยมีเงินเข้าบัญชีนายพานทองแท้ ชินวัตร จำนวน 26 ล้านบาทนั้น เป็นค่าอะไร และควรตรวจสอบงบประชาสัมพันธ์ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในปีงบประมาณ 56 ว่าได้ให้งบประมาณกับสถานีโทรทัศน์ วอยซ์ทีวี 25.3 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ลงนามผูกพันบริษัทคือ นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร นายเรืองไกร ควรตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชน ว่าเพราะเหตุใด เงินจึงไหลไปเข้กระเป๋า นายพานทองแท้