xs
xsm
sm
md
lg

“ฉัตรชัย”นัดผู้ผลิตถกตรึงราคาสินค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“ฉัตรชัย”เตรียมนัดผู้ประกอบการสินค้าหารือ ก่อนตัดสินใจขอความร่วมมือตรึงราคาต่อหรือไม่ ยันไม่ปรับเป้าส่งออกปีนี้ 3.5% หวังใช้เป็นเป้าทำงาน พร้อมสั่งทูตพาณิชย์เร่งทำยอด ส่วนปีหน้ามั่นใจโต 4% มั่นใจข้าวราคาไม่ตก หลังมีมาตรการรับมือ ยันจะแทรกแซงเท่าที่จำเป็น เผยจะระบายข้าวในสต๊อกต่อเนื่อง

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้กับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ในการเดินทางเข้าทำงานวันแรก เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) ว่า ได้เตรียมที่จะเชิญผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคมาหารือถึงแนวทางความร่วมมือในการดูแลราคาสินค้า เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ซึ่งหลังจากการหารือแล้วจะทำให้ทราบว่าควรต่ออายุมาตรการตรึงราคาสินค้าออกไปอีกจากเดิมที่มาตรการขอความร่วมมือจะสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 30 พ.ย.นี้หรือไม่

“การต่ออายุมาตรการ ต้องดูสถานการณ์ก่อน โดยจะเรียกผู้ประกอบการสินค้ามาคุย เพื่อสร้างความเข้าใจ ซึ่งยอมรับว่าราคาสินค้ามีความผันผวน แต่อยากให้ทุกคนนึกถึงผลประโยชน์ของชาติ ยืนยันว่าผมไม่ใช่นักการเมือง ไม่มีผลประโยชน์ระหว่างเจรจากับเอกชนแน่นอน”พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว

พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า สำหรับการดูแลภาคการส่งออก ได้เร่งรัดให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะการหาตลาดใหม่ในการส่งออก เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าไทยเพิ่มขึ้น และจะให้ความสำคัญกับการผลักดันการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน และการส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

“ปีนี้ยังคาดว่าการส่งออกจะโตได้ที่ 3% กว่าๆ และจะไม่มีการปรับเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 3.5% เพราะเป็นเป้าทำงาน หากผลักดันเต็มที่แล้วทำได้ไม่ถึงเป้า ก็ไม่เป็นไร ส่วนปี 2558 ตั้งเป้าไว้ว่าจะโตได้ 4% แต่ผมอยากผลักดันให้ส่งออกโตถึง 10% ด้วยซ้ำ”พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว

พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า การดูแลราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะสินค้าข้าว ยืนยันว่าจะไม่เน้นการใช้มาตรการแทรกแซง แต่หากจำเป็นต้องแทรกแซง ก็จะใช้มาตรการแทรกแซงให้น้อยที่สุด แต่จะเน้นการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตให้ชาวนามากกว่า โดยเป้าหมายของการดูแลข้าวฤดูกาลใหม่ให้ชาวนา ตั้งเป้าราคาข้าวเปลือกควรอยู่ที่ 8,500-9,000 บาท/ตัน ซึ่งขณะนี้มีมาตรการรองรับในดูแลราคาไว้แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจะส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาของตลาด

ส่วนข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล 18 ล้านตัน ยืนยันว่าจะไม่มีการหยุดระบาย ยังระบายอย่างต่อเนื่อง แต่จะเป็นช่องทางไหนต้องดูภาวะตลาด ซึ่งขณะนี้ มีหลายรูปแบบที่ใช้ ทั้งการขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) การขายให้กับเอกชน โดยในช่วงที่ข้าวผลผลิตข้าวใหม่ออกสู่ตลาด ก็จะเน้นขายไปในตลาดต่างประเทศ
ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์มีการทำงานร่วมกับเอกชนในการหาตลาดข้าวไว้รองรับข้าวฤดูกาลใหม่ที่จะผลักดันราคาให้เพิ่มขึ้น ทั้งตลาดอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอิหร่าน ที่ล่าสุดปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับประเทศอิหร่านแล้ว และอาจมีการขายข้าวให้ โดยในเดือนพ.ย.ไทยได้เชิญอิหร่านมาเจรจาซื้อขายข้าวเพิ่มเติม

“การขายข้าวให้จีน ล่าสุดได้มีการเจรจากับคอฟโก ในส่วนสัญญาเดิมที่ได้ตกลงกันไว้ 1 ล้านตัน และได้ส่งมอบไปแล้ว 1 แสนตัน เหลืออีก 9 แสนตัน ซึ่งหลังจากได้เจรจากันใหม่ ก็ได้ผลประโยชน์จากการขายข้าวให้คอฟโกเพิ่มขึ้น”

สำหรับการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ยังคงให้เดินหน้าเจรจาต่อไป เพราะแม้คู่เจรจาบางประเทศ เช่น สหภาพยุโรป (อียู) แจ้งว่าจะไม่เจรจากับไทย แต่คิดว่าการค้ากับการเมือง ต้องแยกออกจากกัน และเรื่องการค้า เชื่อว่าสุดท้ายจะมีการกลับมาเจรจาระหว่างกันแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น