ASTVผู้จัดการรายวัน - รองผบ.ตร.ด้านความมั่นคง ชี้วิดีโอคลิปของ "กริชสุดา" แค่ลมปาก แต่มีหลักฐานมัดเอาผิดได้ ท้า "ถาวร" ปูดชายชุดดำต้องมีหลักฐานมาประกอบ
วานนี้ (14 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่มีวิดีโอคลิปของ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือ เปิ้ล ที่ออกมาปฏิเสธ ว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้างวานชายชุดดำ 5 คนที่ถูกตำรวจจับกุมได้เมื่อวันที่ 11ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า เรื่องนี้ น.ส.กริชสุดา มีสิทธิที่จะออกมาปฏิเสธ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ตนไม่ได้กล่าวหา ว่า น.ส.กริชสุดา เป็นผู้จ้างวานชายชุดดำ แต่เนื่องจากการตรวจค้นบ้านพักของน.ส.กริชสุดา พบสลิปการโอนเงินที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโอนเงินให้หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เท่านั้น จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า น.ส.กริชสุดา อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า เงินที่โอนเข้าบัญชีมานั้นเป็นเงินค่าอะไร หรือเป็นเงินที่ทาง นปช. ชอบเรียกว่า เงินเยียวยาก็ได้ ซึ่งเราก็ไม่ทราบจุดประสงค์ของเงินในจำนวนดังกล่าว โดยขอให้ตำรวจจับกุมตัว น.ส.กริชสุดา ให้ได้ก่อน จึงจะทราบว่าเงินตรงนี้เป็นเงินค่าอะไร อย่างไรก็ตาม ทางเรายังไม่ทราบแน่ชัดว่า ขณะนี้ น.ส.กริชสุดา พักอาศัยอยู่ที่ประเทศไหนด้วย
ส่วนกรณีที่นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาระบุว่าชายชุดดำมีอยู่จริง โดยมีก่อนหน้านี้มี 4 คนที่ติดต่อนายถาวรและบอกเล่าข้อเท็จจริงว่ามีใครบ้างอยู่เบื้องหลัง พร้อมกับขอเงินหลายล้านเพื่อแลกกับการเปิดเผยความลับ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบถึงข้อเท็จจริง แต่ถ้าหากต้องการเข้าให้การกับตำรวจ ก็ต้องมีการเตรียมหลักฐาน ไม่ใช่มาพูดจาว่า ตัวเองเป็นชายชุดดำ แต่กลับไม่มีหลักฐานมายืนยันว่า ในวันที่เกิดเหตุอยู่ที่ไหน ทำอะไรบ้าง ซึ่งต้องมีหลักฐานมายืนยันให้แน่ชัด และหากประสานขอเข้าให้การกับตำรวจ ทางเราก็จะต้องมีการเช็คข่าวให้รอบด้าน เพื่อไม่ให้ถูกหลอก และเพื่อความชัดเจนของคดีอีกด้วย.
วานนี้ (14 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่มีวิดีโอคลิปของ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือ เปิ้ล ที่ออกมาปฏิเสธ ว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้างวานชายชุดดำ 5 คนที่ถูกตำรวจจับกุมได้เมื่อวันที่ 11ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า เรื่องนี้ น.ส.กริชสุดา มีสิทธิที่จะออกมาปฏิเสธ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ตนไม่ได้กล่าวหา ว่า น.ส.กริชสุดา เป็นผู้จ้างวานชายชุดดำ แต่เนื่องจากการตรวจค้นบ้านพักของน.ส.กริชสุดา พบสลิปการโอนเงินที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโอนเงินให้หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เท่านั้น จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า น.ส.กริชสุดา อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า เงินที่โอนเข้าบัญชีมานั้นเป็นเงินค่าอะไร หรือเป็นเงินที่ทาง นปช. ชอบเรียกว่า เงินเยียวยาก็ได้ ซึ่งเราก็ไม่ทราบจุดประสงค์ของเงินในจำนวนดังกล่าว โดยขอให้ตำรวจจับกุมตัว น.ส.กริชสุดา ให้ได้ก่อน จึงจะทราบว่าเงินตรงนี้เป็นเงินค่าอะไร อย่างไรก็ตาม ทางเรายังไม่ทราบแน่ชัดว่า ขณะนี้ น.ส.กริชสุดา พักอาศัยอยู่ที่ประเทศไหนด้วย
ส่วนกรณีที่นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาระบุว่าชายชุดดำมีอยู่จริง โดยมีก่อนหน้านี้มี 4 คนที่ติดต่อนายถาวรและบอกเล่าข้อเท็จจริงว่ามีใครบ้างอยู่เบื้องหลัง พร้อมกับขอเงินหลายล้านเพื่อแลกกับการเปิดเผยความลับ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบถึงข้อเท็จจริง แต่ถ้าหากต้องการเข้าให้การกับตำรวจ ก็ต้องมีการเตรียมหลักฐาน ไม่ใช่มาพูดจาว่า ตัวเองเป็นชายชุดดำ แต่กลับไม่มีหลักฐานมายืนยันว่า ในวันที่เกิดเหตุอยู่ที่ไหน ทำอะไรบ้าง ซึ่งต้องมีหลักฐานมายืนยันให้แน่ชัด และหากประสานขอเข้าให้การกับตำรวจ ทางเราก็จะต้องมีการเช็คข่าวให้รอบด้าน เพื่อไม่ให้ถูกหลอก และเพื่อความชัดเจนของคดีอีกด้วย.