ASTVผู้จัดการรายวัน - คาดโค้งสุดท้ายปี 57 ตลาดคอนซูเมอร์โปรดักส์แข่งดุ หลังผู้บริโภคชะลอการซื้อร่วม 8 เดือน “สหพัฒน์” อัดงบโฆษณา-การตลาด 300 ล้านบาท พร้อมเข็นสินค้าใหม่เจาะตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หวังดันยอดเข้าเป้า 3 หมื่นล้านบาท โตเพียง 4% จากเดิมที่ตั้งไว้ 10%
นางผาสุก รักษาวงศ์ กรรมการรองผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการของเครือสหพัฒน์ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปี 2557 ว่า ยังคงอยู่ในภาวะทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2556 หรือมีการเปลี่ยนแปลงบวกลบไม่เกิน 1% โดยคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปี 2557 จะสามารถทำยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 3 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 4% จากที่ทำได้ 2.8 หมื่นล้านบาทในปี 2556 ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่มีปรับลดลงจากเดิมที่กำหนดว่าจะต้องเติบโตขึ้นประมาณ 10% เนื่องจากไม่คาดว่าสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศไทยจะยืดเยื้อมากนัก
เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นและมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น จึงทำให้มั่นใจว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคจะเริ่มกลับมาและส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น ทั้งยังคาดว่าช่วงเวลา 4 เดือนที่เหลือของปี 2557 จะเป็นช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภค-บริโภคจะเริ่มทำตลาดและแข่งขันกันอย่างรุนแรงเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ต้องการ
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เครือสหพัฒน์ มีการปรับและชะลอแผนงานต่างๆ เพื่อรอช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนที่เริ่มเดินหน้าโครงการต่างๆ ทั้งในแง่การออกผลิตภัณฑ์ใหม่และการส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ ล่าสุดเพิ่งเปิดตัว “มาม่า คัพ เอ็กซตร้า” 3 รสชาติ ก่อนที่จะมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่คือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในเซ็กเม้นต์ใหม่โดยชูจุดเด่นเป็น “เครื่องสำอางที่ดื่มได้” ภายใต้ชื่อ “Starr infiniti by bsc” โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 8 ต.ค.ศกนี้
“ช่วงเวลา 4 เดือนจากนี้ สหพัฒน์ จะทำตลาดอย่างครบวงจร โดยมีการเพิ่มงบประมาณการตลาดในช่วงนี้เป็น 300 ล้านบาทในการทำการตลาดครบวงจร หลังจากที่ใช้สื่อ บีโลว์ เดอะไลน์ เป็นหลักในช่วงครึ่งปีแรก โดยเร็วๆ นี้จะมีการเปิดตัวภาพยนต์โฆษณาชุดใหม่อย่างน้อย 2 ผลิตภัณฑ์คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า และน้ำดื่ม Mont Fleur โดยมั่นใจว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายรวมของ สหพัฒน์ ให้เติบโตขึ้นอย่างน้อย 10% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557”
นางผาสุก กล่าวด้วยว่า เครือสหพัฒน์ ยังมีการทบทวนแผนการลงทุนในเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี โดยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นการลงทุนนอกเครือเพิ่มมากขึ้น เช่น อาจจะเป็นในลักษณะการร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นในแต่ละประเทศ พร้อมเร่งการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในประเทศเวียดนามและกัมพูชาเพิ่มเติมจากที่มีอยู่ในประเทศเมียนมาร์ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการจนแล้วเสร็จตั้งแต่ช่วงต้นปี 2558 เป็นต้นไป
อนึ่ง ปัจจุบัน เครือสหพัฒน์ มีสินค้าอุปโภค-บริโภค ประมาณ 80 แบรนด์ รวมประมาณ 2 พันเอสเคยู โดยแต่ละปีจะมีนโยบายในการเพิ่มเอสเคยูใหม่ๆ พร้อมปรับลดจำนวนลงประมาณ 20% เพื่อเน้นประสิทธิภาพการจำหน่ายมากขึ้น
นางผาสุก รักษาวงศ์ กรรมการรองผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการของเครือสหพัฒน์ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปี 2557 ว่า ยังคงอยู่ในภาวะทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2556 หรือมีการเปลี่ยนแปลงบวกลบไม่เกิน 1% โดยคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปี 2557 จะสามารถทำยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 3 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 4% จากที่ทำได้ 2.8 หมื่นล้านบาทในปี 2556 ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่มีปรับลดลงจากเดิมที่กำหนดว่าจะต้องเติบโตขึ้นประมาณ 10% เนื่องจากไม่คาดว่าสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศไทยจะยืดเยื้อมากนัก
เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นและมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น จึงทำให้มั่นใจว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคจะเริ่มกลับมาและส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น ทั้งยังคาดว่าช่วงเวลา 4 เดือนที่เหลือของปี 2557 จะเป็นช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภค-บริโภคจะเริ่มทำตลาดและแข่งขันกันอย่างรุนแรงเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ต้องการ
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เครือสหพัฒน์ มีการปรับและชะลอแผนงานต่างๆ เพื่อรอช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนที่เริ่มเดินหน้าโครงการต่างๆ ทั้งในแง่การออกผลิตภัณฑ์ใหม่และการส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ ล่าสุดเพิ่งเปิดตัว “มาม่า คัพ เอ็กซตร้า” 3 รสชาติ ก่อนที่จะมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่คือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในเซ็กเม้นต์ใหม่โดยชูจุดเด่นเป็น “เครื่องสำอางที่ดื่มได้” ภายใต้ชื่อ “Starr infiniti by bsc” โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 8 ต.ค.ศกนี้
“ช่วงเวลา 4 เดือนจากนี้ สหพัฒน์ จะทำตลาดอย่างครบวงจร โดยมีการเพิ่มงบประมาณการตลาดในช่วงนี้เป็น 300 ล้านบาทในการทำการตลาดครบวงจร หลังจากที่ใช้สื่อ บีโลว์ เดอะไลน์ เป็นหลักในช่วงครึ่งปีแรก โดยเร็วๆ นี้จะมีการเปิดตัวภาพยนต์โฆษณาชุดใหม่อย่างน้อย 2 ผลิตภัณฑ์คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า และน้ำดื่ม Mont Fleur โดยมั่นใจว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายรวมของ สหพัฒน์ ให้เติบโตขึ้นอย่างน้อย 10% ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557”
นางผาสุก กล่าวด้วยว่า เครือสหพัฒน์ ยังมีการทบทวนแผนการลงทุนในเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี โดยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นการลงทุนนอกเครือเพิ่มมากขึ้น เช่น อาจจะเป็นในลักษณะการร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นในแต่ละประเทศ พร้อมเร่งการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในประเทศเวียดนามและกัมพูชาเพิ่มเติมจากที่มีอยู่ในประเทศเมียนมาร์ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการจนแล้วเสร็จตั้งแต่ช่วงต้นปี 2558 เป็นต้นไป
อนึ่ง ปัจจุบัน เครือสหพัฒน์ มีสินค้าอุปโภค-บริโภค ประมาณ 80 แบรนด์ รวมประมาณ 2 พันเอสเคยู โดยแต่ละปีจะมีนโยบายในการเพิ่มเอสเคยูใหม่ๆ พร้อมปรับลดจำนวนลงประมาณ 20% เพื่อเน้นประสิทธิภาพการจำหน่ายมากขึ้น
