xs
xsm
sm
md
lg

ชมรมเคเบิล-ดาวเทียมถกกสทช. ช่อง3ดิ้นจอดำ จับตาอุทธรณ์ยื้อเวลา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ช่อง3เตรียมมาตรการรับมือหากเกิด"จอดำ"ทั้งประชาสัม พันธ์ แนะนำเข้ารับชมในช่อง 3 ออริจินอล และการรับชมผ่านหนวดกุ้ง ด้านชมรมดาวเทียม-เคเบิล นัดหารือ "สุภิญญา"วันนี้ (10 ก.ย.) เพื่อหาทางออกไม่ให้กระทบผู้ประกอบการจานดาวเทียมฯ โยนให้กทสช.ทำตัววิ่งเหตุจอดำ เพราะจากคำสั่ง จับตาอาจทำเรื่องอุทธรณ์ต่อกสทช. พร้อมยื่นหนังสือคัดค้านการเรียงช่องใหม่ของทีวีดิจิตอล โอดเป็นแค่ลูกเลี้ยง ลั่นขอความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการแข่งขันกันอย่างแท้จริง แจงเพิ่งเรียงช่องใหม่ แค่ 4 เดือน จะให้เรียงใหม่อีก หวั่นกระทบผู้บริโภค สร้างความสับสน และเพิ่มต้นทุนในการเรียงช่องใหม่

จากกรณีที่มติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)ของ กสทข. เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา มีมติ 3 ต่อ 2 เสียง ให้ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ห้ามนำสัญญาณภาพและเสียงของช่อง 3 ออริจินอลไปออกอากาศผ่านดาวเทียมและเคเบิลท้องถิ่น ภายใน 15 วัน

ความคืบหน้าล่าสุด ในส่วนของทางช่อง3เอง จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ที่เป็นเจ้าของช่อง 3 ออริจินอล ได้รับคำชี้แจงเพียงว่า ทางช่อง3เองตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือมีสัญญาณอะไรออกมา ทุกอย่างยังนิ่งอยู่ เชื่อว่าผู้บริหารน่าจะกำลังมีการปรึกษาหารือกันอยู่

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางสถานีฯได้เตรียมความพร้อมรับมติของทางกสท. หากเกิดกรณีจอดำขึ้น โดยจะมีการประชาสัมพันธ์เป็นตัวหนังสือวิ่งอยู่บนหน้าจอช่อง3ให้ประชาชนรับทราบว่า หากไม่สามารถรับชมช่อง3ออริจินอลได้ ยังมีช่องทางการรับชม ช่อง 3 ออริจินอล ได้อีกหลายทาง เช่น 1. แอพลิเคชั่นบนมือถือ ทั้งระบบ IOS , Android และWP 2.ออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ช่อง3 และ 3.การรับชมผ่านหนวดกุ้ง เป็นต้น

ทั้งนี้ ในส่วนของของเจ้าของแพลทฟอร์มและผู้ประกอบการเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม โดยนายมานพ โตการค้า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด ผู้ทำธุรกิจจานดาวเทียมสีส้ม ภายใต้แบรนด์ IPM และประธานชมรมผู้ประกอบการโทรทัศน์โครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิล กล่าวว่า ในวันนี้ (10 ก.ย.) ตนและผู้ประกอบการโครงข่ายจานดาวเทียมและเคเบิลทีวี จะเข้าพบ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช.เพื่อขอร้องให้หาแนวทางในการหารือกับทางผู้บริหารช่อง3 ต่อไป เพื่อมิให้ผู้ประกอบการจานดาวเทียมและเคเบิลทีวีได้รับความเดือดร้อนไปด้วย และหากช่อง3 จะเกิดจอดำขึ้นมาจริงๆ ก็คงต้องมีการอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ ด้วยการขึ้นตัววิ่งด้านล่างจอทีวี ว่าเป็นคำสั่งจาก กสทช.ที่จะส่งผลให้ทีวีช่อง3จอดำ

“มติของทางกสท.ที่ออกมานั้น ทางผู้ประกอบการเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมพร้อมที่จะปฏิบัติตาม โดยมองว่ากลุ่มผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบทางอ้อม ขณะที่ผู้ชมจะเป็นผู้ที่ได้รับกระทบโดยตรง โดยในเรื่องจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งจากมติของกสท.ของ กสทช.หรือไม่ ที่ให้ถอดผังรายการสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ในระบบอนาล็อกออกจากช่องรายการนั้น คงต้องรอหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการก่อน และคงต้องหารือกับน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. ก่อน เพื่อหารือทางออกร่วมกัน ไม่ให้มีผลกระทบกับประชาชน หากมีการถอดผังรายการช่อง 3 ออกจากช่องดาวเทียมและเคเบิล"

ส่วนกรรมการอีก 4 คน ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลมีความต้องการหารือร่วมด้วย หากมีความเป็นไปได้

ชมรมดาวเทียมฯค้านการเรียงช่องใหม่

วานนี้ (9 ก.ย.) ทางกลุ่มของชมรมผู้ประกอบการโทรทัศน์โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เพื่อคัดค้านการออกประกาศฉบับใหม่ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเรียงช่อง ตามมติ ของกสท.เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา

โดยนายมานพ กล่าวว่า การที่ชมรมฯออกมายื่นหนังสือคัด ค้าน แสดงให้เห็นว่าไม่เห็นด้วยกับมติของ กสท.ที่บอกให้เรียงช่องใหม่ จากเดิมที่ผู้ประกอบการจะเรียงช่อง 1-10 เอง ขณะที่ช่องของทีวีดิจิตอลจะเรียงตั้งแต่ช่อง 11-46 ซึ่งเรื่องนี้ผู้ประกอบการดาวเทียมและเคเบิลเพิ่งจัดเรียงช่องตามนี้ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่เพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น มติ กสท.ก็ออกมากำหนดให้มีการเรียงช่องใหม่อีก คือ ให้ช่อง 1-36 เป็นช่องของทีวีดิจิตอล หากเป็นเช่นนี้มันจะมีผลกระทบทำให้ผู้บริโภคสับสนและผู้ประกอบการดาวเทียมและเคเบิลก็ต้องมีต้นทุนในการเรียงช่องใหม่อีกจึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม

ขณะที่นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล ประธาน บริษัท เจริญยิ่ง (888) จำกัดกล่าวว่า สิ่งที่ออกมาเรียกร้องคือต้องการขอความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการดาวเทียมและเคเบิลซึ่งล้วนเป็นผู้ประกอบการที่ลงทุนกันเอง การเรียกร้องครั้งนี้ต้องการสู้เพื่อให้หนังสือที่ชมรมฯยื่นเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบการพิจารณาเมื่อมีการประชาพิจารณ์ ซึ่งชมรมฯขอต่อสู้ไม่ให้มีการเรียงช่องใหม่

“เราเป็นเหมือนลูกเลี้ยง ที่เป็นลูกติดมากับแม่ พอพ่อเลี้ยงมีลูกใหม่คือทีวีดิจิตอล เขาก็ลืมลูกเลี้ยงอย่างเราที่มาก่อน อย่างเรื่องแจกคูปอง เพื่อสนับสนุนให้ดูดิจิตอล โดยไม่สนใจเรา เราก็ไม่เคยว่าอะไร เราเงียบมาตลอด แต่มาตอนนี้ก็ยังเอื้อประโยชน์เรื่องการเรียงช่องใหม่ให้ทีวีดิจิตอลอีก โดยไม่ถามความเห็นเราก่อนเลย ทั้งๆที่ราก็สามารถพูดคุยกันเองได้อยู่แล้ว ทำไมต้องมีมติเพื่อจะออกประกาศเรื่องนี้ มันไม่เป็นธรรมกับเราเลย กสท.ควรปล่อยให้ทีวีดิจิตอล ดาวเทียม เคเบิล หรือแม้แต่ก้างปลา แข่งขันกันเองจะดีกว่า เอาง่ายๆขนาดประกาศที่ กสทช.ออกเรื่องมัสต์แครี่ว่าเราต้องออกอากาศรายการของทีวีดิจิตอลด้วย เราก็ยังต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเดือนละ 3 หมื่นบาทต่อช่อง หากออกอากาศครบ 36 ช่อง ก็คิดเป็นรายจ่ายที่ต้องเสียไปโดยไม่ได้รับการเยียวยาใดๆเลยถึงเดือนละล้านบาท ตอนนี้กล่องดิจิตอลก็ยังไม่แจก คนก็ยังไม่ได้ดูในวงกว้าง ทำไมต้องให้คนส่วนใหญ่ที่ดูดาวเทียมอยู่แต่เดิมประมาณ 45 ล้านคน มาปรับตามทีวีดิจิตอลซึ่งยังไม่มีคนดูด้วย ”.
กำลังโหลดความคิดเห็น