ASTVผู้จัดการรายวัน - เทศกาลเจปีนี้คาดคึกคักมากกว่าทุกปี เหตุมีปัจจัยเสริม มีเจ2รอบครั้งแรกในรอบ132 ปี เซเว่นอีเลฟเว่น วางแผนดักกำลังซื้อเจ หวังโตปีนี้ 20% โกย 600 ล้านบาท
นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจปี 2557 นี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายในช่วงการจำหน่ายอาหารเทศกาลเจในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นไว้ที่ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปีที่แล้วที่มีรายได้จากเจประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2555 ประมาณ 10%
สาเหตุที่ปีนี้ตั้งเป้าเติบโตมากถึง 20% เนื่องจากมี 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. ปีนี้มีช่วงเทศกาลกินเจ 2 รอบ เป็นครั้งแรกในรอบ 132 ปี ตามที่คนจีนเรียกว่า หยุ่ง ง้วย คือ มีเดือน 9 จำนวน 2 ครั้ง จึงทำให้มีโอกาสจำหน่ายมากขึ้น คือ รอบแรกตามเทศกาลวันที่ 24 กันยายน - 2 ตุลาคม และอีกรอบคือตามศรัทธา วันที่ 24 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน รวมทั้งหมด 18 วัน มากกว่าทุกปีที่มีเฉลี่ย 10 วันเท่านั้นเอง 2.การที่ปีนี้มีการเพิ่มเมนูอาหารเจเข้ามากขึ้นกว่า 400 เมนู จากปีที่แล้วที่มี 300 เมนู ในทุกกลุ่ม ทั้งเครื่องดื่ม อาหารหลัก อาหารทานเล่น และยังมีเมนูใหม่มากกว่า 30 รายการด้วย และ 3. จำนวนสาขาของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่มากขึ้นด้วย ทำให้โอกาสการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นด้วย จากทั้งหมด 8,000 สาขาทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม จังหวัดที่คาดว่าจะมีเทศกาลเจที่คึกคักและใหญ่ทีสุดก็คงเป็นจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในส่วนของเซเว่นอีเลฟเว่นเองก็มีสาขาที่ภูเก็ตมากกว่า 200 สาขา ก็ได้มีการเตรียมสต๊อกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มเจไว้พร้อมแล้วเช่นกันเหมือนกับสาขาอื่นทั่วประเทศ แต่ยอมรับว่าบางเมนูไม่มีจำหน่ายทุกส่าขาเพราะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของทำเลและพฤติกรรมผู้บริโภคในย่านนั้น เช่น ผัดหมี่ซั้วเจ ราคา 35 บาทจำหน่ายแค่ 3,600 สาขา ข้าวผัดกระเพราเจ ราคา 35 บาท จำหน่ายแค่ 4,100 สาขา ข้าวกะเพราเป็ดเจ ราคา 35 บาท จำหน่ายใน 4,100 สาขาเท่านั้น
ส่วนราคาจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเจในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จะใช้การตั้งราคาไม่สูงมากนัก เพื่อให้เกิดการซื้อง่ายขึ้น โดยหวังยอดขายในแง่จำนวนมากกว่า เพื่อให้ฐานกว้างขึ้น ซึ่งราคาสินค้าเจมีตั้งแต่ 29-35 บาท บาทเป็นราคาที่ทรงตัวเท่ากับปีที่แล้ว นอกนั้นก็มีการจัดโปรโมชั่นเป็นชุดด้วย
ขณะที่ปัจจัยเสริมก็มีเช่น การที่ผู้บริโภคที่มีอายุน้อยลงเช่น อายุ 20 ปีขึ้นไป หันมาทานเจมากขึ้น แม้ว่าคนไทยจะทานเจมากที่สุดในช่วงวันเฉลี่ย 4 วันแรกก็ตาม แต่เมื่อเซเว่นมีการทำโปรโมชั่น รวมทั้งการจัดคู่อาหาร ก็ทำให้ยอดขายขยับตามไปด้วย โดยปัจจุบันนี้ รายได้จากการจำหน่ายอาหารเจมีสัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้รวมทั้งหมดต่อสาขา ขณะที่สัดส่วนอาหารเจของบริษัทฯเองมีประมาณ 10% ส่วนอีก 90% เป็นของซัพพลายเออร์
นายยุทธศักดิ์ กล่าวด้วยว่า จากตัวเลขเมื่อปี 2556 พบว่า คนไทยทานเจในช่วงเทศกาลเจสูงขึ้น และมีการใช้จ่ายเพื่อซื้ออาหารและเครื่องดื่มช่วงเทศกาลเจเพิ่มมากกว่า 10% โดยประเมินว่า มูลค่าที่ใช้จ่ายทางด้านค่าอาหารและเค่รืองดื่มเจในกรุงเทพฯมีประมาณ 3,200 ล้านบาท อัตราการเติบโตของตลาดอาหารและเครื่องดื่มเจในกรุงเทพฯมีประมาณ 14.3% ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มเฉลี่ยอยู่ที่ 200 บาทต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 10% โดยที่คนกรุงเทพฯมากกว่า 27% ทานเจทุกมื้อซึ่งเติบโต 35% และจำนวน 44% กินเจบางมื้อ ลดลง 12% ทั้งนี้คาดว่าในปี 2557 มูลค่าการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลเจจะมีประมาณ 42,000 ล้านบาท เติบโต 6.2% ซึ่งเท่ากับค่าเฉลี่ยในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา
นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจปี 2557 นี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายในช่วงการจำหน่ายอาหารเทศกาลเจในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นไว้ที่ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปีที่แล้วที่มีรายได้จากเจประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2555 ประมาณ 10%
สาเหตุที่ปีนี้ตั้งเป้าเติบโตมากถึง 20% เนื่องจากมี 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. ปีนี้มีช่วงเทศกาลกินเจ 2 รอบ เป็นครั้งแรกในรอบ 132 ปี ตามที่คนจีนเรียกว่า หยุ่ง ง้วย คือ มีเดือน 9 จำนวน 2 ครั้ง จึงทำให้มีโอกาสจำหน่ายมากขึ้น คือ รอบแรกตามเทศกาลวันที่ 24 กันยายน - 2 ตุลาคม และอีกรอบคือตามศรัทธา วันที่ 24 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน รวมทั้งหมด 18 วัน มากกว่าทุกปีที่มีเฉลี่ย 10 วันเท่านั้นเอง 2.การที่ปีนี้มีการเพิ่มเมนูอาหารเจเข้ามากขึ้นกว่า 400 เมนู จากปีที่แล้วที่มี 300 เมนู ในทุกกลุ่ม ทั้งเครื่องดื่ม อาหารหลัก อาหารทานเล่น และยังมีเมนูใหม่มากกว่า 30 รายการด้วย และ 3. จำนวนสาขาของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่มากขึ้นด้วย ทำให้โอกาสการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นด้วย จากทั้งหมด 8,000 สาขาทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม จังหวัดที่คาดว่าจะมีเทศกาลเจที่คึกคักและใหญ่ทีสุดก็คงเป็นจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในส่วนของเซเว่นอีเลฟเว่นเองก็มีสาขาที่ภูเก็ตมากกว่า 200 สาขา ก็ได้มีการเตรียมสต๊อกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มเจไว้พร้อมแล้วเช่นกันเหมือนกับสาขาอื่นทั่วประเทศ แต่ยอมรับว่าบางเมนูไม่มีจำหน่ายทุกส่าขาเพราะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของทำเลและพฤติกรรมผู้บริโภคในย่านนั้น เช่น ผัดหมี่ซั้วเจ ราคา 35 บาทจำหน่ายแค่ 3,600 สาขา ข้าวผัดกระเพราเจ ราคา 35 บาท จำหน่ายแค่ 4,100 สาขา ข้าวกะเพราเป็ดเจ ราคา 35 บาท จำหน่ายใน 4,100 สาขาเท่านั้น
ส่วนราคาจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเจในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จะใช้การตั้งราคาไม่สูงมากนัก เพื่อให้เกิดการซื้อง่ายขึ้น โดยหวังยอดขายในแง่จำนวนมากกว่า เพื่อให้ฐานกว้างขึ้น ซึ่งราคาสินค้าเจมีตั้งแต่ 29-35 บาท บาทเป็นราคาที่ทรงตัวเท่ากับปีที่แล้ว นอกนั้นก็มีการจัดโปรโมชั่นเป็นชุดด้วย
ขณะที่ปัจจัยเสริมก็มีเช่น การที่ผู้บริโภคที่มีอายุน้อยลงเช่น อายุ 20 ปีขึ้นไป หันมาทานเจมากขึ้น แม้ว่าคนไทยจะทานเจมากที่สุดในช่วงวันเฉลี่ย 4 วันแรกก็ตาม แต่เมื่อเซเว่นมีการทำโปรโมชั่น รวมทั้งการจัดคู่อาหาร ก็ทำให้ยอดขายขยับตามไปด้วย โดยปัจจุบันนี้ รายได้จากการจำหน่ายอาหารเจมีสัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้รวมทั้งหมดต่อสาขา ขณะที่สัดส่วนอาหารเจของบริษัทฯเองมีประมาณ 10% ส่วนอีก 90% เป็นของซัพพลายเออร์
นายยุทธศักดิ์ กล่าวด้วยว่า จากตัวเลขเมื่อปี 2556 พบว่า คนไทยทานเจในช่วงเทศกาลเจสูงขึ้น และมีการใช้จ่ายเพื่อซื้ออาหารและเครื่องดื่มช่วงเทศกาลเจเพิ่มมากกว่า 10% โดยประเมินว่า มูลค่าที่ใช้จ่ายทางด้านค่าอาหารและเค่รืองดื่มเจในกรุงเทพฯมีประมาณ 3,200 ล้านบาท อัตราการเติบโตของตลาดอาหารและเครื่องดื่มเจในกรุงเทพฯมีประมาณ 14.3% ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มเฉลี่ยอยู่ที่ 200 บาทต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 10% โดยที่คนกรุงเทพฯมากกว่า 27% ทานเจทุกมื้อซึ่งเติบโต 35% และจำนวน 44% กินเจบางมื้อ ลดลง 12% ทั้งนี้คาดว่าในปี 2557 มูลค่าการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลเจจะมีประมาณ 42,000 ล้านบาท เติบโต 6.2% ซึ่งเท่ากับค่าเฉลี่ยในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา