บล.ไทยพาณิชย์ คาดแนวโน้มตลาดหุ้นปี 59 จะสดใส เหตุได้อานิสงส์จากการเปิด AEC การลงทุนภาครัฐฯ เริ่มอัดเม็ดเงินสู่ระบบหลังเกิดความล่าช้าจากที่ต้องปรับปรุงระบบจัดซื้อจัดจ้างที่ต้องปลอดการทุจริตคอร์รัปชัน ช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ และดึงเงินต่างชาติให้กลับมา ลุ้นดัชนี 6 เดือนแรกอยู่ที่ 1,600-1,700 จุด
นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS กล่าวว่า ในปี 2559 จะดีขึ้นกว่าในปีนี้ พร้อมทั้งคาดการณ์ถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์คาดการณ์เบื้องต้นว่าในครึ่งแรกของปี 2559 จะปรับตัวขึ้นอยู่ที่ระดับ 1,600-1,700 จุด แต่หากทุกอย่างเติบโตดีกว่าคาดไว้แล้วดัชนีฯ ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปถึงระดับ 1,800 จุด โดยมีจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,200 จุด ส่วนการเติบโตของกำไรสุทธิ/หุ้น (EPS Growth) จะอยู่ที่ 12% หรือ 95 บาทต่อหุ้น บน P/E 15 เท่าจากปีนี้ที่ 74 บาทต่อหุ้น
สำหรับปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดจากมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวดีขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และมีเสถียรภาพที่ชัดเจนมากขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่อาจจะยังมีความล่าช้าของการเบิกจ่ายในปีนี้จากที่ต้องแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
ด้านการลงทุนภาคเอกชนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ในปี 2559 นั้น จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่น และดึงดูดนักลงทุนให้กลับมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ส่วนภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง 20% ในปี 2559 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกสำหรับเศรษฐกิจ และตลาดหลักทรัพย์ฯ
นอกจากนี้ ในสิ้นปี 2558 ประเทศไทยจะเริ่มก้าวเข้าสู่การเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างเป็นทางการ โดยปัจจัยดังกล่าวจะเป็นผลดีต่อธุรกิจไทยที่จะเข้าขยายตลาดผู้บริโภคผ่านการลงทุนในกลุ่ม AEC โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศ CLMV
โดยปี 2559 จะได้เห็นกระแสข่าวเกี่ยวกับการมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะการขยายตลาดของบริษัทจดทะเบียนไทยไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ที่มีแนวโน้มจะเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายตามรายได้ที่สูงขึ้นจากการขยายตัวของสังคมเมือง
ด้านทิศทางราคาน้ำมันเชื่อว่าจะปรับเพิ่มขึ้นราว 10% จากราคาเฉลี่ยที่ 51 เหรียญ/บาร์เรลในปี 2558 เนื่องจากที่ผ่าน ไม่มีการสำรวจแหล่งน้ำมันใหม่ๆ ส่วนแหล่งเก่าๆ ที่เคยมีก็เริ่มทยอยปิดกิจการจากความไม่คุ้มค่าในการลงทุน อย่างไรก็ตาม บล.ไทยพาณิชย์ มองว่าแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันน่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วง 6 เดือนท้ายของปี 2559 และหุ้นกลุ่มพลังงานจะน่าสนใจ เพราะจะมีกำไรจากการสำรองน้ำมันที่เคยคาดจะมีผลขาดทุนในปีนี้กว่า 60,000 ล้านบาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยในประเทศเชื่อว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นจนกว่าจะถึงปี 2017 แล้ว
นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS กล่าวว่า ในปี 2559 จะดีขึ้นกว่าในปีนี้ พร้อมทั้งคาดการณ์ถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์คาดการณ์เบื้องต้นว่าในครึ่งแรกของปี 2559 จะปรับตัวขึ้นอยู่ที่ระดับ 1,600-1,700 จุด แต่หากทุกอย่างเติบโตดีกว่าคาดไว้แล้วดัชนีฯ ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปถึงระดับ 1,800 จุด โดยมีจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,200 จุด ส่วนการเติบโตของกำไรสุทธิ/หุ้น (EPS Growth) จะอยู่ที่ 12% หรือ 95 บาทต่อหุ้น บน P/E 15 เท่าจากปีนี้ที่ 74 บาทต่อหุ้น
สำหรับปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดจากมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวดีขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และมีเสถียรภาพที่ชัดเจนมากขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่อาจจะยังมีความล่าช้าของการเบิกจ่ายในปีนี้จากที่ต้องแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
ด้านการลงทุนภาคเอกชนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ในปี 2559 นั้น จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่น และดึงดูดนักลงทุนให้กลับมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ส่วนภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง 20% ในปี 2559 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกสำหรับเศรษฐกิจ และตลาดหลักทรัพย์ฯ
นอกจากนี้ ในสิ้นปี 2558 ประเทศไทยจะเริ่มก้าวเข้าสู่การเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างเป็นทางการ โดยปัจจัยดังกล่าวจะเป็นผลดีต่อธุรกิจไทยที่จะเข้าขยายตลาดผู้บริโภคผ่านการลงทุนในกลุ่ม AEC โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศ CLMV
โดยปี 2559 จะได้เห็นกระแสข่าวเกี่ยวกับการมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะการขยายตลาดของบริษัทจดทะเบียนไทยไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ที่มีแนวโน้มจะเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายตามรายได้ที่สูงขึ้นจากการขยายตัวของสังคมเมือง
ด้านทิศทางราคาน้ำมันเชื่อว่าจะปรับเพิ่มขึ้นราว 10% จากราคาเฉลี่ยที่ 51 เหรียญ/บาร์เรลในปี 2558 เนื่องจากที่ผ่าน ไม่มีการสำรวจแหล่งน้ำมันใหม่ๆ ส่วนแหล่งเก่าๆ ที่เคยมีก็เริ่มทยอยปิดกิจการจากความไม่คุ้มค่าในการลงทุน อย่างไรก็ตาม บล.ไทยพาณิชย์ มองว่าแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันน่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วง 6 เดือนท้ายของปี 2559 และหุ้นกลุ่มพลังงานจะน่าสนใจ เพราะจะมีกำไรจากการสำรองน้ำมันที่เคยคาดจะมีผลขาดทุนในปีนี้กว่า 60,000 ล้านบาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยในประเทศเชื่อว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นจนกว่าจะถึงปี 2017 แล้ว