ASTVผู้จัดการรายวัน-"อภิสิทธิ์"ร่วมเปิดตัวหนังสือ "มหากาพย์โกงข้าว" ยกเป็นคู่มือแฉขบวนการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่เจาะลึกทุกซอกทุกมุม "หมอวรงค์"แนะ ครม."บิ๊กตู่"ใช้เป็นคัมภีร์ป้องกันโกง และมีทางออกให้ชาวนาอย่างยั่งยืน ลุ้นอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดี "ปู" โกงข้าววันนี้ "เด็จพี่"โวย ปชป. มีวาระซ่อนเร้น เปิดตัวหนังสือบังหน้า หวังชี้นำคดีจำนำข้าว ร้อง คสช. จัดการฐานขัดคำสั่งห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรม "ปนัดดา"ปูดผลตรวจข้าว78%ไม่มีคุณภาพ
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (3 ก.ย.) น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำการเปิดตัวหนังสือ"มหากาพย์โกงข้าว" ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึก เสนีย์ ปราโมช โดยมีแขกรับเชิญมาร่วมงานจำนวนมาก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรครปะชาธิปัตย์ ได้เป็นประธานเปิดตัวหนังสือดังกล่าว โดยกล่าวว่า น.พ.วรงค์ รับภาระในเรื่องตรวจสอบโครงการจำนำข้าวที่สร้างปัญหาตั้งแต่กระบวนการผลิต ตลาดข้าว การค้า และภาระด้านการเงินการคลัง ในวันที่ 4 ก.ย.ที่จะถึงนี้ จะเป็นวันสำคัญที่อัยการจะตัดสินเกี่ยวกับคดีทุจริตจำนำข้าว ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทุจริตทั้งหมด ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นเฉพาะเรื่องเดียว คือ ภาระด้านงบประมาณในปี 2558 ต้องใช้เงินประมาณ 7.2 หมื่นล้านไปกับการใช้หนี้ ธ.ก.ส.เป็นความสูญเสียโอกาสที่เกิดขึ้น เพราะเงินดังกล่าวไม่ได้ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยยังต้องจัดเงินให้ธ.ก.ส.ในจำนวนเท่านี้ อีก 5-7 ปี ตนจึงหวังว่า จะไม่ต้องมีหนังสือแบบนี้ออกมาอีกในประเทศไทย แต่ขอให้ใช้หนังสือนี้เป็นคู่มือ เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นอีก
ด้านน.พ.วรงค์ กล่าวถึงเหตุผลในการเขียนหนังสือว่า เกิดจากปัญหาโครงการจำนำข้าว ที่มีการโกงในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การลงทะเบียนเกษตรกร กลางน้ำ คือ โรงสี การเก็บรักษาข้าว และปลายน้ำ คือ การระบายข้าว และยังมีการบิดเบือนกลไกตลาดจนทำลายอุตสาหกรรมข้าวไทยทั้งระบบ ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถชี้แจงได้แม้แต่เรื่องเดียว แต่เมื่อจะนำต้นฉบับไปจัดพิมพ์ กลับไม่มีสำนักพิมพ์ใดกล้าทำ จึงขอขอบคุณ นายศักดิ์ชัย กาย บรรณาธิการนิตยสารลิป ที่รับจัดพิมพ์จนกระทั่งออกมาเป็นรูปเล่ม ซึ่งอยากให้ประชาชนได้ซื้อมาอ่าน เพราะเชื่อว่าจะมีการบิดเบือนเรื่องนี้ในอนาคต
หนังสือเล่มนี้จะเป็นหลักฐาน และเป็นคำตอบเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยจะวางแผงในวันที่ 5 ก.ย. ในราคาเล่มละ 310 บาท นำรายได้ไปใช้ในการศึกษาวิจัยเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยให้เด็กไทยพูดภาษาอังกฤษได้ โดยต้องเรียนตั้งแต่อนุบาล ซึ่งมีการทำโครงการนำร่อง ในโรงเรียนวัดแห่งหนึ่งเพื่อเด็กด้อยโอกาสได้เรียนภาษาอังกฤษวันละสองชั่วโมง จึงถือว่าการซื้อหนังสือยังเป็นการทำบุญ เพื่ออนาคตประเทศด้วย
"ผมคิดว่า ครม. ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรจะอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะบอกว่าจะปราบปรามการทุจริต หากได้อ่านจะเข้าใจเรื่องข้าวทั้งระบบ โดยขอบังคับให้ ครม.อ่านใน บทที่ 11 ซึ่งจะเป็นมาตรการช่วยเหลือชาวนาอย่างยั่งยืน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่หวง หาก ครม. ชุดนี้จะนำไปดำเนินการ ก็จะเห็นแนวทางแก้ไข เช่น ให้ชาวนาทำข้าวโอทอป รัฐบาลทำตลาด และฝากถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นคนคิดนโยบายนี้ โดยหวังที่จะชี้นำราคาตลาดโลก ขอให้อ่านความผิดพลาดของตัวเองที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ รวมถึงทีมข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทั้งหมด หากได้อ่านแล้วจะเข้าใจว่าทำไมต้องติดคุก"น.พ.วรงค์ กล่าว
ศ.จ.ระพี สาคริก ผู้เชียวชาญเรื่องข้าวและกล้วยไม้ กล่าวว่า ปัญหาข้าวไทย มีตั้งแต่เรื่องของพันธุ์ข้าว ที่ถูกต่างชาตินำไปพัฒนา การนำเครื่องจักรเข้ามาใช้แทนแรงงาน การให้ความรู้ที่ผิดพลาดจนทำให้สังคมเสียวัฒนธรรมท้องถิ่น ตนอยากเห็นรัฐบาลชุดใหม่ ให้ความสำคัญกับการทำวิจัยในประเทศมากกว่าต่างประเทศ และผู้ที่จะมาดูแลแก้ปัญหาข้าวไทย ต้องเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณอย่างแท้จริง และมีความเข้าใจกับปัญหาอย่างลึกซึ้ง และมีความจริงใจ เช่น การพยายามทำให้ไทยกลับมาครองแชมป์ส่งออกได้อีกครั้ง โดยจะต้องมองย้อนหลังกลับไปให้ถึงรากเหง้า แต่เวลานี้คนไทยส่วนใหญ่ลืมง่าย ทุกวันนี้รากมันหายไป โดยเฉพาะปัญหาการทุจริต ทำอย่างไรที่จะให้คนพวกนี้ ทำจากจิตใต้สำนึกของตนเอง รู้ประวัติของเราเป็นมาอย่างไร เวลานี้บ้านเมืองเราล้มเหลวหลายอย่างจึงต้องเร่งพัฒนาคน
"ทุกวันนี้คนที่เป็นรัฐบาลไม่เหยียบแผ่นดิน รัฐมนตรีไม่ลงพื้นที่หาข้อมูล ถ้าตราบใดที่เหยียบพื้นดินไม่เป็น จะทำให้ข้างล่างคือ พวกข้าราชการ และคนใกล้ตัว แหกตาหลอก และหาประโยชน์ใส่ตัว คอยป้อนข้อมูลที่ไม่ถูกต้องให้ จึงต้องระวังอย่างยิ่ง"ศ.จ.ระพี กล่าว
**จับตาอสส. สั่งคดี "ปูโกงข้าว" วันนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกครั้งถึงการดำเนินการของอัยการในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการจำนำข้าวว่า ต้องรอดูคำแถลงของอัยการที่จะมีขึ้นในวันนี้ (4 ก.ย.) ว่าจะชี้แจงอย่างไร ซึ่งตนเห็นว่าอัยการต้องทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ เพราะเร็ว แต่หลวม ก็ไม่ดี ต้องทำให้รัดกุม โดยพิจารณาจากความเป็นจริง
"การดำเนินคดีนี้ เป็นการทุจริตครั้งใหญ่ เกี่ยวข้องกับคนแทบทุกระดับ และสร้างความเสียหายเป็นระบบ หากสามารถดำเนินคดีได้ ก็จะเป็นตัวอย่างต่อไปในอนาคต แต่ถ้าความเสียหายมากมายขนาดนี้ แล้วสุดท้ายไม่ต้องมีใครรับผิดชอบเลย ความหวังที่จะไปปราบปรามการทุจริตในอนาคตก็ไม่มี” นายอภิสิทธิ์กล่าว
** "เด็จพี่"โวยปชป.มีวาระซ่อนเร้น
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเปิดตัวหนังสือ มหากาพย์โกงข้าว ของนพ.วรงค์ ที่พรรคประชาธิปัตย์จัดทำขึ้นว่า ส่วนตัวมองว่ามีวาระซ่อนเร้น อาศัยการเปิดตัวหนังสือบังหน้า แต่แท้จริงแล้วเป็นการเปิดที่ทำการพรรค เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง กล่าวหาใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามในเรื่องเดิมๆ ฉกฉวยโอกาสอย่างไร้มารยาท ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ พยายามชี้นำกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่อัยการสูงสุด จะแถลงผลคดีโครงการรับจำนำข้าว สำหรับเนื้อหาในหนังสือ ก็เป็นเรื่องเดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่ ข้ออ้างว่าโกงทุกขั้นตอนนั้น ก็ไม่มีข้อมูลว่าโกงที่ไหน อย่างไร ตนมองว่าน่าจะเป็นการสร้างละครมุ่งกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และรัฐบาลชุดที่ผ่านมาเท่านั้น
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการมาตลอด 2 ปี ชาวนาจะเป็นผู้ตัดสินว่ามีประโยชน์ต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตเขาได้หรือไม่ ไม่ใช่หน้าที่ของคนในพรรคประชาธิปัตย์ จะมาตัดสิน เราเห็นว่าชาวนาได้รับประโยชน์จากราคาข้าวที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ พบความแตกต่างอย่างมาก ช่วงนั้นชาวนาลืมตาอ้าปากไม่ได้เลย ต่างกันราวฟ้ากับเหว
"การเปิดตัวหนังสือดังกล่าวของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าทำผิดประกาศ คสช.ที่ 57/2557 ที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมใดๆ อีกทั้งยังมีการชุมนุมเกินกว่า 5 คน ผิดกฎอัยการศึกด้วย จึงขอเรียกร้องให้หัวหน้า คสช. ตรวจสอบการกระทำดังกล่าว วันนี้พรรคเพื่อไทยให้ความร่วมมือ คสช. และให้โอกาสรัฐบาลใหม่ทำงานเต็มที่ แต่การกระทำของคนในพรรคประชาธิปัตย์ ขัดหลักปรองดอง สมานฉันท์ จึงอยากให้นายอภิสิทธิ์ และลูกพรรคทบทวนบทบาทตัวเองว่า กำลังให้ความร่วมมือคสช. หรือกำลังขัดขวาง จุดไฟความขัดแย้งรอบใหม่ขึ้นมากันแน่" นายพร้อมพงศ์ ระบุ
***"ปนัดดา"ปูดผลตรวจข้าว78%ไม่มีคุณภาพ
ที่โรงแรมทีเคพาเลซ ถนนแจ้งวัฒนะ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายเรื่อง “การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมความรักสามัคคี และความปรองดองของคนในชาติ” ให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกรมการข้าว ว่า ตนในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ได้มีการสุ่มตรวจข้าวประมาณ 2 พันกว่ากลุ่ม ซึ่งพบว่ามีข้าวที่คุณภาพไม่ผ่านประมาณ 78 เปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องที่น่าตกใจ เพราะก่อนหน้านี้ข้าวไทยเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ต่างประเทศไม่สามารถสู้ได้ แต่เราก็ทำตัวเองจริงๆ ดังนั้น เราจะต้องช่วยกันกอบกู้ข้าวไทยให้กลับมาเหมือนเดิม
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (3 ก.ย.) น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำการเปิดตัวหนังสือ"มหากาพย์โกงข้าว" ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึก เสนีย์ ปราโมช โดยมีแขกรับเชิญมาร่วมงานจำนวนมาก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรครปะชาธิปัตย์ ได้เป็นประธานเปิดตัวหนังสือดังกล่าว โดยกล่าวว่า น.พ.วรงค์ รับภาระในเรื่องตรวจสอบโครงการจำนำข้าวที่สร้างปัญหาตั้งแต่กระบวนการผลิต ตลาดข้าว การค้า และภาระด้านการเงินการคลัง ในวันที่ 4 ก.ย.ที่จะถึงนี้ จะเป็นวันสำคัญที่อัยการจะตัดสินเกี่ยวกับคดีทุจริตจำนำข้าว ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทุจริตทั้งหมด ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นเฉพาะเรื่องเดียว คือ ภาระด้านงบประมาณในปี 2558 ต้องใช้เงินประมาณ 7.2 หมื่นล้านไปกับการใช้หนี้ ธ.ก.ส.เป็นความสูญเสียโอกาสที่เกิดขึ้น เพราะเงินดังกล่าวไม่ได้ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยยังต้องจัดเงินให้ธ.ก.ส.ในจำนวนเท่านี้ อีก 5-7 ปี ตนจึงหวังว่า จะไม่ต้องมีหนังสือแบบนี้ออกมาอีกในประเทศไทย แต่ขอให้ใช้หนังสือนี้เป็นคู่มือ เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นอีก
ด้านน.พ.วรงค์ กล่าวถึงเหตุผลในการเขียนหนังสือว่า เกิดจากปัญหาโครงการจำนำข้าว ที่มีการโกงในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การลงทะเบียนเกษตรกร กลางน้ำ คือ โรงสี การเก็บรักษาข้าว และปลายน้ำ คือ การระบายข้าว และยังมีการบิดเบือนกลไกตลาดจนทำลายอุตสาหกรรมข้าวไทยทั้งระบบ ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถชี้แจงได้แม้แต่เรื่องเดียว แต่เมื่อจะนำต้นฉบับไปจัดพิมพ์ กลับไม่มีสำนักพิมพ์ใดกล้าทำ จึงขอขอบคุณ นายศักดิ์ชัย กาย บรรณาธิการนิตยสารลิป ที่รับจัดพิมพ์จนกระทั่งออกมาเป็นรูปเล่ม ซึ่งอยากให้ประชาชนได้ซื้อมาอ่าน เพราะเชื่อว่าจะมีการบิดเบือนเรื่องนี้ในอนาคต
หนังสือเล่มนี้จะเป็นหลักฐาน และเป็นคำตอบเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยจะวางแผงในวันที่ 5 ก.ย. ในราคาเล่มละ 310 บาท นำรายได้ไปใช้ในการศึกษาวิจัยเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยให้เด็กไทยพูดภาษาอังกฤษได้ โดยต้องเรียนตั้งแต่อนุบาล ซึ่งมีการทำโครงการนำร่อง ในโรงเรียนวัดแห่งหนึ่งเพื่อเด็กด้อยโอกาสได้เรียนภาษาอังกฤษวันละสองชั่วโมง จึงถือว่าการซื้อหนังสือยังเป็นการทำบุญ เพื่ออนาคตประเทศด้วย
"ผมคิดว่า ครม. ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรจะอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะบอกว่าจะปราบปรามการทุจริต หากได้อ่านจะเข้าใจเรื่องข้าวทั้งระบบ โดยขอบังคับให้ ครม.อ่านใน บทที่ 11 ซึ่งจะเป็นมาตรการช่วยเหลือชาวนาอย่างยั่งยืน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่หวง หาก ครม. ชุดนี้จะนำไปดำเนินการ ก็จะเห็นแนวทางแก้ไข เช่น ให้ชาวนาทำข้าวโอทอป รัฐบาลทำตลาด และฝากถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นคนคิดนโยบายนี้ โดยหวังที่จะชี้นำราคาตลาดโลก ขอให้อ่านความผิดพลาดของตัวเองที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ รวมถึงทีมข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทั้งหมด หากได้อ่านแล้วจะเข้าใจว่าทำไมต้องติดคุก"น.พ.วรงค์ กล่าว
ศ.จ.ระพี สาคริก ผู้เชียวชาญเรื่องข้าวและกล้วยไม้ กล่าวว่า ปัญหาข้าวไทย มีตั้งแต่เรื่องของพันธุ์ข้าว ที่ถูกต่างชาตินำไปพัฒนา การนำเครื่องจักรเข้ามาใช้แทนแรงงาน การให้ความรู้ที่ผิดพลาดจนทำให้สังคมเสียวัฒนธรรมท้องถิ่น ตนอยากเห็นรัฐบาลชุดใหม่ ให้ความสำคัญกับการทำวิจัยในประเทศมากกว่าต่างประเทศ และผู้ที่จะมาดูแลแก้ปัญหาข้าวไทย ต้องเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณอย่างแท้จริง และมีความเข้าใจกับปัญหาอย่างลึกซึ้ง และมีความจริงใจ เช่น การพยายามทำให้ไทยกลับมาครองแชมป์ส่งออกได้อีกครั้ง โดยจะต้องมองย้อนหลังกลับไปให้ถึงรากเหง้า แต่เวลานี้คนไทยส่วนใหญ่ลืมง่าย ทุกวันนี้รากมันหายไป โดยเฉพาะปัญหาการทุจริต ทำอย่างไรที่จะให้คนพวกนี้ ทำจากจิตใต้สำนึกของตนเอง รู้ประวัติของเราเป็นมาอย่างไร เวลานี้บ้านเมืองเราล้มเหลวหลายอย่างจึงต้องเร่งพัฒนาคน
"ทุกวันนี้คนที่เป็นรัฐบาลไม่เหยียบแผ่นดิน รัฐมนตรีไม่ลงพื้นที่หาข้อมูล ถ้าตราบใดที่เหยียบพื้นดินไม่เป็น จะทำให้ข้างล่างคือ พวกข้าราชการ และคนใกล้ตัว แหกตาหลอก และหาประโยชน์ใส่ตัว คอยป้อนข้อมูลที่ไม่ถูกต้องให้ จึงต้องระวังอย่างยิ่ง"ศ.จ.ระพี กล่าว
**จับตาอสส. สั่งคดี "ปูโกงข้าว" วันนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกครั้งถึงการดำเนินการของอัยการในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการจำนำข้าวว่า ต้องรอดูคำแถลงของอัยการที่จะมีขึ้นในวันนี้ (4 ก.ย.) ว่าจะชี้แจงอย่างไร ซึ่งตนเห็นว่าอัยการต้องทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ เพราะเร็ว แต่หลวม ก็ไม่ดี ต้องทำให้รัดกุม โดยพิจารณาจากความเป็นจริง
"การดำเนินคดีนี้ เป็นการทุจริตครั้งใหญ่ เกี่ยวข้องกับคนแทบทุกระดับ และสร้างความเสียหายเป็นระบบ หากสามารถดำเนินคดีได้ ก็จะเป็นตัวอย่างต่อไปในอนาคต แต่ถ้าความเสียหายมากมายขนาดนี้ แล้วสุดท้ายไม่ต้องมีใครรับผิดชอบเลย ความหวังที่จะไปปราบปรามการทุจริตในอนาคตก็ไม่มี” นายอภิสิทธิ์กล่าว
** "เด็จพี่"โวยปชป.มีวาระซ่อนเร้น
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเปิดตัวหนังสือ มหากาพย์โกงข้าว ของนพ.วรงค์ ที่พรรคประชาธิปัตย์จัดทำขึ้นว่า ส่วนตัวมองว่ามีวาระซ่อนเร้น อาศัยการเปิดตัวหนังสือบังหน้า แต่แท้จริงแล้วเป็นการเปิดที่ทำการพรรค เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง กล่าวหาใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามในเรื่องเดิมๆ ฉกฉวยโอกาสอย่างไร้มารยาท ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ พยายามชี้นำกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่อัยการสูงสุด จะแถลงผลคดีโครงการรับจำนำข้าว สำหรับเนื้อหาในหนังสือ ก็เป็นเรื่องเดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่ ข้ออ้างว่าโกงทุกขั้นตอนนั้น ก็ไม่มีข้อมูลว่าโกงที่ไหน อย่างไร ตนมองว่าน่าจะเป็นการสร้างละครมุ่งกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และรัฐบาลชุดที่ผ่านมาเท่านั้น
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการมาตลอด 2 ปี ชาวนาจะเป็นผู้ตัดสินว่ามีประโยชน์ต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตเขาได้หรือไม่ ไม่ใช่หน้าที่ของคนในพรรคประชาธิปัตย์ จะมาตัดสิน เราเห็นว่าชาวนาได้รับประโยชน์จากราคาข้าวที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ พบความแตกต่างอย่างมาก ช่วงนั้นชาวนาลืมตาอ้าปากไม่ได้เลย ต่างกันราวฟ้ากับเหว
"การเปิดตัวหนังสือดังกล่าวของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าทำผิดประกาศ คสช.ที่ 57/2557 ที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมใดๆ อีกทั้งยังมีการชุมนุมเกินกว่า 5 คน ผิดกฎอัยการศึกด้วย จึงขอเรียกร้องให้หัวหน้า คสช. ตรวจสอบการกระทำดังกล่าว วันนี้พรรคเพื่อไทยให้ความร่วมมือ คสช. และให้โอกาสรัฐบาลใหม่ทำงานเต็มที่ แต่การกระทำของคนในพรรคประชาธิปัตย์ ขัดหลักปรองดอง สมานฉันท์ จึงอยากให้นายอภิสิทธิ์ และลูกพรรคทบทวนบทบาทตัวเองว่า กำลังให้ความร่วมมือคสช. หรือกำลังขัดขวาง จุดไฟความขัดแย้งรอบใหม่ขึ้นมากันแน่" นายพร้อมพงศ์ ระบุ
***"ปนัดดา"ปูดผลตรวจข้าว78%ไม่มีคุณภาพ
ที่โรงแรมทีเคพาเลซ ถนนแจ้งวัฒนะ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายเรื่อง “การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมความรักสามัคคี และความปรองดองของคนในชาติ” ให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกรมการข้าว ว่า ตนในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ได้มีการสุ่มตรวจข้าวประมาณ 2 พันกว่ากลุ่ม ซึ่งพบว่ามีข้าวที่คุณภาพไม่ผ่านประมาณ 78 เปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องที่น่าตกใจ เพราะก่อนหน้านี้ข้าวไทยเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ต่างประเทศไม่สามารถสู้ได้ แต่เราก็ทำตัวเองจริงๆ ดังนั้น เราจะต้องช่วยกันกอบกู้ข้าวไทยให้กลับมาเหมือนเดิม