เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (1ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมด้วย นายสุรพล สัตตายานนท์ ผอ.สำนักสถานที่และรักษาความปลอดภัย ทำเนียบรัฐบาล เข้าตรวจความเรียบร้อยการปรับปรุงซ่อมแซม ตึกบัญชาการ 1 ก่อนทำการส่งมอบ โดยนายมณฑล ให้สัมภาษณ์ก่อนตรวจความเรียบร้อยว่า การทำงานในภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ ไม่มีอะไรที่น่าห่วง ในส่วนของตึกบัญชาการ 1 เหลือเพียงเก็บรายละเอียดเล็กน้อย สำหรับห้องทำงานรองนายกรัฐมนตรี มีสภาพการใช้งานได้ดี เราจึงเก็บทำความสะอาด ซักพรม ผ้าม่าน ปรับปรุงฝ้าที่ชำรุด จัดเรียงโต๊ะใหม่ ซึ่งจะเรียบร้อยใช้งานได้ ในส่วนของลิฟต์ในอาคารของเดิม ยังใช้งานได้ดีอยู่ เพียงแต่มีการตรวจสอบระบบใหม่ สำหรับพื้นอาคารชั้นบนจากพื้นปาเก้ เปลี่ยนเป็นพื้นไม้สัก นอกจากนี้ยังได้ทำความสะอาดระบบท่อต่างๆ
สำหรับห้องประชุมครม. สามารถจุคนได้ประมาณ 100 คน พร้อมมีการติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยให้บริษัท อัศวโสภณ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้แทนจำหน่ายเครื่องเสียง Bose มาดำเนินการ เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีเครื่องมือทันสมัย และดีที่สุด ซึ่งจะทำให้ห้องประชุมครม. มีระบบที่ดีและสมบูรณ์แบบ ขณะนี้เหลือเพียงติดตั้งจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยงบประมาณในการติดตั้งทั้งระบบเครื่องเสียง จอมอนิเตอร์ และระบบควบคุมการประชุม ในห้องประชุม 501 301 และ 302 รวมทั้งสิ้น 60 ล้านบาท จากงบประมาณในการปรับปรุงทั้งสิ้น 169 ล้านบาท ทั้งนี้ ห้องประชุมครม. พร้อมส่งมอบในวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย.นี้
ส่วนตึกบัญชาการ 2 ได้ปรับปรุงงานสถาปัตยกรรมค่อนข้างเยอะ อาจจะเสร็จช้า แต่เสร็จภายในวันที่ 15 ก.ย. แน่ อย่างไรก็ตาม ในการปรับปรุงตึกบัญชาการ 1 และ 2 พยายามใช้งบประมาณให้ประหยัดที่สุด และจะเน้นซ่อมแซมของเก่าที่ใช้ได้ให้ดีขึ้น เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายมณฑล กล่าวว่า ไม่มี และตนไม่มีโอกาสได้พูดคุย หากรัฐมนตรีเข้ามาแล้วต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็จะดำเนินการให้ ซึ่งหลังจากนี้ทหารก็จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยอีกครั้ง
สำหรับห้องประชุมครม. สามารถจุคนได้ประมาณ 100 คน พร้อมมีการติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยให้บริษัท อัศวโสภณ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้แทนจำหน่ายเครื่องเสียง Bose มาดำเนินการ เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีเครื่องมือทันสมัย และดีที่สุด ซึ่งจะทำให้ห้องประชุมครม. มีระบบที่ดีและสมบูรณ์แบบ ขณะนี้เหลือเพียงติดตั้งจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยงบประมาณในการติดตั้งทั้งระบบเครื่องเสียง จอมอนิเตอร์ และระบบควบคุมการประชุม ในห้องประชุม 501 301 และ 302 รวมทั้งสิ้น 60 ล้านบาท จากงบประมาณในการปรับปรุงทั้งสิ้น 169 ล้านบาท ทั้งนี้ ห้องประชุมครม. พร้อมส่งมอบในวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย.นี้
ส่วนตึกบัญชาการ 2 ได้ปรับปรุงงานสถาปัตยกรรมค่อนข้างเยอะ อาจจะเสร็จช้า แต่เสร็จภายในวันที่ 15 ก.ย. แน่ อย่างไรก็ตาม ในการปรับปรุงตึกบัญชาการ 1 และ 2 พยายามใช้งบประมาณให้ประหยัดที่สุด และจะเน้นซ่อมแซมของเก่าที่ใช้ได้ให้ดีขึ้น เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายมณฑล กล่าวว่า ไม่มี และตนไม่มีโอกาสได้พูดคุย หากรัฐมนตรีเข้ามาแล้วต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็จะดำเนินการให้ ซึ่งหลังจากนี้ทหารก็จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยอีกครั้ง
