ASTVผู้จัดการรายวัน - กรมศุกลการเตรียมเสนอปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรทั้งระบบภายในเดือน ก.ย.นี้ พร้อมแก้อุปสรรคการอำนวยความสะดวกในการนำเข้าส่งออกสินค้า 20 ประเด็น ทั้งประเด็นรางวัลสินบนนำจับ การปรับปรุงพิธีการศุลกากร การตั้งคณะกรรมการพิจารณาพิกัดอัตราภาษีศุลกากรเพื่อกำหนดพิกัดอัตราภาษีล่วงหน้า
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ได้เตรียมเสนอเรื่องต่อนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ พิจารณาปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรทั้งระบบ ภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อเสนอรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา หลังจากที่ผ่านมาได้เสนอแก้ไขในบางประเด็น ดังนั้น จึงต้องการแก้ไขในทุกด้าน เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ทั้งฉบับ โดยเฉพาะการเดินหน้าโครงการจัดตั้งระบบ National Single Window (NSW) ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และดำเนินงานตามความตกลงอาเซียนสำหรับการจัดตั้ง ASEAN Single Window (ASW) เพื่อตั้งจุดตรวจ ณ จุดเดียวในการขนส่งสินค้าข้ามประเทศไปประเทศที่ 3
นอกจากนี้ ยังต้องการแก้ปัญหาอุปสรรคการอำนวยความสะดวกในการนำเข้า-ส่งออกสินค้าให้กับภาคเอกชนใน 20 ประเด็น เช่น การแก้ไขเรื่องรางวัลสินบนนำจับ การปรับปรุงกระบวนการพิธีการทางศุลกากร การตั้งคณะกรรมการพิจารณาพิกัดอัตราภาษีศุลกากร เพื่อกำหนดพิกัดอัตราภาษีล่วงหน้า
การกำหนดราคาสินค้าล่วงหน้า เพื่อให้ภาคเอกชนรับรู้อัตราภาษีล่วงหน้า 1 ปี เพื่อวางแผนนำเข้า-ส่งออกสินค้า ลดปัญหาข้อโต้แย้งระหว่างรัฐและเอกชน อีกทั้งต้องปรับโครงสร้างพิกัดทั้งระบบ เมื่อเอกชนรับทราบพิกัดชัดเจนแล้วจะได้สำแดงสินค้าเพื่อเสียอากรได้อย่างถูกต้อง ตลอดจนการเดินหน้าพัฒนา 6 ด่านชายแดน 5 ด่านศุลกากรตามแนวชายแดน เพื่อพัฒนาทั้งสินค้าและอุตสาหกรรมตามแนวชายแดนร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยต้องลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งการนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อต้องการแยกการพบปะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรกับภาคเอกชน
การติดตั้ง CCTV การติดตั้งตู้เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การพัฒนาระบบ Radio Frequency Identification (RFID) เพื่อระบุลักษณะของวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เพื่อใช้งานแทนระบบรหัสแท่ง หรือบาร์โค้ด (Barcode) เพราะระบบ RFID สามารถอ่านค่าข้อมูลจากป้ายหรือแท็ก (Transponder/Tag) ได้หลายๆ แท็กพร้อมกันแบบไร้สัมผัส สามารถอ่านค่าได้แม้ในสภาพที่ทัศนวิสัยไม่ดี สามารถอ่านค่าข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง รองรับการค้าขายในแถบอาเซียนที่จะเติบโตขึ้น
หากพัฒนาในทุกด้านแล้ว คาดว่าการค้าการลงทุนในแถบชายแดนของเขตเศรษฐกิจพิเศษจะขยายตัวประมาณร้อยละ 10 จึงต้องการเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณาแนวทางแก้ปัญหาอย่างครบถ้วน.
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ได้เตรียมเสนอเรื่องต่อนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ พิจารณาปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรทั้งระบบ ภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อเสนอรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา หลังจากที่ผ่านมาได้เสนอแก้ไขในบางประเด็น ดังนั้น จึงต้องการแก้ไขในทุกด้าน เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ทั้งฉบับ โดยเฉพาะการเดินหน้าโครงการจัดตั้งระบบ National Single Window (NSW) ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และดำเนินงานตามความตกลงอาเซียนสำหรับการจัดตั้ง ASEAN Single Window (ASW) เพื่อตั้งจุดตรวจ ณ จุดเดียวในการขนส่งสินค้าข้ามประเทศไปประเทศที่ 3
นอกจากนี้ ยังต้องการแก้ปัญหาอุปสรรคการอำนวยความสะดวกในการนำเข้า-ส่งออกสินค้าให้กับภาคเอกชนใน 20 ประเด็น เช่น การแก้ไขเรื่องรางวัลสินบนนำจับ การปรับปรุงกระบวนการพิธีการทางศุลกากร การตั้งคณะกรรมการพิจารณาพิกัดอัตราภาษีศุลกากร เพื่อกำหนดพิกัดอัตราภาษีล่วงหน้า
การกำหนดราคาสินค้าล่วงหน้า เพื่อให้ภาคเอกชนรับรู้อัตราภาษีล่วงหน้า 1 ปี เพื่อวางแผนนำเข้า-ส่งออกสินค้า ลดปัญหาข้อโต้แย้งระหว่างรัฐและเอกชน อีกทั้งต้องปรับโครงสร้างพิกัดทั้งระบบ เมื่อเอกชนรับทราบพิกัดชัดเจนแล้วจะได้สำแดงสินค้าเพื่อเสียอากรได้อย่างถูกต้อง ตลอดจนการเดินหน้าพัฒนา 6 ด่านชายแดน 5 ด่านศุลกากรตามแนวชายแดน เพื่อพัฒนาทั้งสินค้าและอุตสาหกรรมตามแนวชายแดนร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยต้องลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งการนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อต้องการแยกการพบปะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรกับภาคเอกชน
การติดตั้ง CCTV การติดตั้งตู้เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การพัฒนาระบบ Radio Frequency Identification (RFID) เพื่อระบุลักษณะของวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เพื่อใช้งานแทนระบบรหัสแท่ง หรือบาร์โค้ด (Barcode) เพราะระบบ RFID สามารถอ่านค่าข้อมูลจากป้ายหรือแท็ก (Transponder/Tag) ได้หลายๆ แท็กพร้อมกันแบบไร้สัมผัส สามารถอ่านค่าได้แม้ในสภาพที่ทัศนวิสัยไม่ดี สามารถอ่านค่าข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง รองรับการค้าขายในแถบอาเซียนที่จะเติบโตขึ้น
หากพัฒนาในทุกด้านแล้ว คาดว่าการค้าการลงทุนในแถบชายแดนของเขตเศรษฐกิจพิเศษจะขยายตัวประมาณร้อยละ 10 จึงต้องการเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณาแนวทางแก้ปัญหาอย่างครบถ้วน.