xs
xsm
sm
md
lg

การลดเวลาเรียน

เผยแพร่:   โดย: ชัยอนันต์ สมุทวณิช

มีข่าวว่าเด็กนักเรียนชั้นประถมและมัธยมมีการว่าจ้างให้คนทำการบ้านให้ คนทำก็ไม่ใช่ใครอื่นเป็นเด็กมัธยมปลาย และเด็กปี 1-2 ราคากันเอง เหตุที่มีการว่าจ้างทำการบ้านนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในระดับมหาวิทยาลัยก็มีการจ้างทำรายงาน และวิทยานิพนธ์เหมือนกัน

เด็กมีการบ้านมากเพราะครูให้การบ้านแยะ วันหนึ่งๆ เด็กต้องใช้เวลาทำการบ้านประมาณ 1-2 ชั่วโมง จึงมีข้อเสนอให้ลดเวลาการเรียนลง เรื่องนี้ตอนผมเป็นเด็กไม่ค่อยรู้จักอะไร เพราะเราไม่ค่อยได้เรียนอยู่แล้ว แม้จะมีการเรียนแต่พอตกบ่ายเราก็ได้เล่นกีฬาจน 6 โมงเย็น ดังนั้นผมจึงไม่เคยมีความรู้สึกว่าเรียนมากเกินไป

แต่ถ้าลดเวลาเรียนลง โดยไม่มีกิจกรรมเช่น ดนตรี กีฬา หรือการทำงานศิลปะมารองรับก็ไม่มีประโยชน์ เด็กที่มีเวลาว่างไม่ใช่ว่าจะใช้เวลาเรียนรู้ด้วยตนเอง อาจเอาเวลาไปเที่ยวเตร่หรือเล่นเกมก็ได้

การเรียนไม่ใช่จะเป็นเรื่องน่าเบื่อเสมอไป ผมเคยเรียนวิชาภาษาไทยที่สนุกมาก เพราะเราไม่เคยรู้สึกว่าเรียนเลย ครูผมชื่อท่านขุนชำนาญกระบวนสอน ท่านใช้เวลาเล่าเรื่องรามเกียรติ์เป็นตอนๆ ที่จริงการฟังวรรณคดีก็เป็นการเรียนรู้โดยซึมซับเข้าไปเอง นอกจากนั้น เราก็เกิดสมาธิด้วยการตั้งใจฟัง หากมีใครคุยกันส่งเสียงดัง ครูก็จะหยุดเล่า

เด็กๆ เบื่อโรงเรียนเพราะครูทำการสอนแบบเก่า และเวลานั่งเรียนก็แทบจะขยับตัวไม่ได้เลย ต้องนั่งนิ่งเดินไม่ได้ แต่บางแห่งมีวิธีการที่ดีคือ มีโต๊ะรูปไข่ แล้วครูก็สามารถเดินดูเด็กได้รอบๆ โต๊ะ ครูสมัยใหม่จะให้เด็กนั่งเป็นวงกลม หรือไม่ก็พาเด็กไปนั่งเรียนกันในสนาม

เด็กไทยเก่งไม่แพ้ใคร ผมได้ฟังอาจารย์ที่ดูแลโครงการโอลิมปิกเล่าว่า เมื่อแรกมาเข้าแคมป์ เด็กยังมีความรู้ไม่มากนัก แต่พอสองอาทิตย์ไปแล้วก็พัฒนาขึ้นอย่างผิดหูผิดตา และในการแข่งขันคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และชีววิทยา เด็กไทยมักติด 1 ใน 5 เสมอ

เพื่อนผมบางคนไม่เรียนหนังสืออย่างท่านมุ้ย (ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล) เอาแต่วาดรูป ส่วนจักรพันธุ์ โปษยกฤต ก็เหมือนกัน สอบเกือบตกทุกวิชา แต่วาดรูปเก่งมาก หากเด็กได้ทำสิ่งที่ตนสนใจ ก็จะเกิดสมาธิเพลินจนลืมเวลา นักวิชาการเรียกพฤติกรรมแบบนี้ว่าเกิด “Flow” คือการไหลไปเหมือนสายน้ำ นักวิชาการจึงพยายามหาทางให้เด็กเกิดความสนใจในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ดังที่เรียกว่าหลัก Constructionism คือให้เด็กได้ลงมือทำ โดยถือว่าความรู้นั้นเกิดจากการลงมือทำ

การลงมือทำควรเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนอย่างน้อยเด็กก็ได้ใช้ความคิดจินตนาการออกแบบ และหากได้ใช้มือทำเองก็จะได้ผลิตผลที่เกิดจากฝีมือของเขาเอง ประเทศในสแกนดิเนเวียจึงนิยมสอนวิชาช่างไม้ให้แก่เด็ก ในเมืองไทยก็มีการสอนช่างไม้ และปั้นดินเหมือนกัน ในสมัยใหม่มีการเพิ่มวิชาเซรามิกเข้ามา ตอนผมอยู่วชิราวุธฯ ได้สนับสนุนให้เด็กได้ถ่ายรูปด้วย ปรากฏว่าได้ผลดีมาก เด็กมีความสนุกและมีภาพถ่ายที่สวยงาม มีการแสดงนิทรรศการทุกปี

ผมเห็นว่า หากมีการปรับปรุงหลักสูตรใหม่ ก็อยากให้มีการสอนในห้อง 50% อีก 50% เป็นวิชาศิลปะอย่างช่างไม้ และการปั้น ต้องให้ทุกคนได้เล่นกีฬา กล่าวคือ ทุกเวลามีกิจกรรมรองรับ โดยการสนับสนุนให้เด็กจัดกลุ่มการเรียนรู้ได้ตามความสนใจ แม้แต่การถ่ายรูปและการดูนกหรือทำงานด้านสิ่งแวดล้อม การเรียนรู้ก็จะมีความสมดุลมากขึ้น

หมายเหตุ :
สืบเนื่องจากคอลัมน์เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่ว่าจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เกี่ยวข้องกับการค้าฝิ่นนั้น เป็นเพียงแต่เรื่องที่เล่าต่อๆ กันมา ซึ่งไม่มีหลักฐานยืนยัน ผู้เขียนจึงขออภัย ลูกหลานจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มา ณ ที่นี้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น