ศูนย์สำรวจความคิดเห็น"นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง"การคัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20 –21 ส.ค.57 จากประชาชนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ กระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพรวมทั้งสิ้น 1,248 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความสนใจการเสนอชื่อเข้าเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และความเชื่อมั่นต่อความโปร่งใส ของกระบวนการคัดเลือกผู้เข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกปฏิรูปแห่งชาติ ในระดับจังหวัด ปรากฏว่า
จากผลการสำรวจเมื่อถามถึงความสนใจของประชาชนต่อการเสนอชื่อตัวเอง เพื่อรับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 78.12 ระบุว่า ไม่มีความสนใจที่จะเสนอชื่อตัวเอง เพื่อรับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ขณะที่ ร้อยละ 11.14 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ มีเพียง ร้อยละ 10.26 ที่ระบุว่า มีความสนใจที่จะเสนอชื่อตัวเอง และร้อยละ 0.48 ระบุว่า ไม่ระบุ/ไม่มีความคิดเห็น
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อความโปร่งใสในกระบวนการคัดเลือกผู้เข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในระดับจังหวัด พบว่า ประชาชน ร้อยละ 21.40 ระบุว่า มีความเชื่อมั่นมากในความโปร่งใส ร้อยละ 30.21 ระบุว่า ค่อนข้างมีความเชื่อมั่นในความโปร่งใส ร้อยละ 27.96 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นในความโปร่งใส ร้อยละ 12.26 ระบุว่า ไม่มีความเชื่อมั่นเลย ในความโปร่งใส และ ร้อยละ 8.17 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
**เสนอชื่อสรรหา11วัน 2,045 คน
วานนี้ (24 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงสรุปยอดการเปิดรับเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) วันที่ 11 ว่า ตลอดทั้งวัน มีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในส่วนของสำนักงานกกต.กลาง จำนวน 11 ด้าน รวม 62 คน โดยเป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 13 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 49 คน
ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด มี 44 คน รวมวันที่ 24 ส.ค. ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 106 คน สรุป 11 วัน ของการเปิดรับการเสนอชื่อเมื่อวันที่ 14 ส.ค.-21 ส.ค. มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามาจำนวน 660 คน สมัครทางจังหวัด 1,385 คน รวมทั้งสิ้น 2,045 คน
ดังนั้นขณะนี้เหลือเวลาอีก 9 วัน ที่คาดว่าจะมีองค์กรนิติบุคคลเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาประมาณ 3,000 คน ก็น่าจะเป็นไปได้ โดยองค์กรนิติบุคคลที่ประสงค์จะเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหา ก็ขอให้เร่งดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม จากการเปิดรับการเสนอชื่อ 10 วัน พบว่า 5 ด้าน ที่มีการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหามากที่สุด ได้แก่ ด้านการศึกษา 119 คน ด้านสังคม 97 คน ด้านอื่นๆ 93 คน ด้านการปกครองท้องถิ่น 82 คน และด้านการเมือง 59 คน โดยด้านมีผู้เขัาเสนอชื่อน้อยที่สุดคือ ด้านพลังงาน มีเพียง 22 คน
ส่วนในระดับจังหวัดที่เปิดให้มีการเสนอชื่อ และทาบทาม พบว่า 10 อันดับจังหวัดที่มีการเสนอชื่อมากที่สุด คือ หนองบัวลำภู 50 คน มหาสารคาม 46 คน กาฬสินธุ์ 45 คน นครสวรรค์ และสงขลา จังหวัดละ 40 คน เชียงใหม่ 38 คน นครปฐม และนครพนม จังหวัดละ 34 คน กรุงเทพมหานคร 32 คน พิษณุโลก 29 คน และกำแพงเพชร 28 คน ขณะที่จังหวัดที่มีการเสนอชื่อและทาบทามน้อยที่สุดคือ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีเพียง 4 คนเท่านั้น
นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า แม้ด้านพลังงานในขณะนี้จะมีผู้เข้ารับการเสนอชื่อแค่เพียง 22 คน หากปิดรับการสรรหาแล้วยังมีจำนวนเท่านี้ ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะตาม พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการสรรหา สปช. กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาแต่ละด้าน คัดเลือกผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อในด้านละไม่เกิน 50 คน ให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) ก็จริง แต่ก็ระบุไว้ว่า คณะกรรมการสรรหา ต้องเสนอชื่อไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อทั้งหมด ดังนั้นถ้ามีผู้ได้รับการเสนอชื่อเพียง 40 คน คณะกรรมการสรรหา ก็ต้องเสนอชื่อให้คสช.พิจารณาไม่น้อยกว่า 20 คน
ส่วนกรณีทีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เผยผลสำรวจความเห็นประชาชน ว่า ไม่เชื่อมั่นในกระบวนการสรรหาสปช. ของคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดนั้น ทั้งกกต. และกระทรวงมหาดไทย ก็ได้มีหนังสือกำชับไปยังผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหา และผู้ว่าราชการจังหวัดที่ส่วนใหญ่จะเป็นประธานคณะกรรมการสรรหาว่า จะไม่สามารถลงมติคัดเลือกบุคคลที่สมควรเป็น สปช.ได้ก่อนวันที่ 2 ก.ย. เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของการเปิดรับการเสนอชื่อ
อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นในคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้าน ที่เป็นผู้ที่ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ เชื่อว่าในกระบวนการสรรหาคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้าน จะให้ความยุติธรรม และความเสมอภาคกับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ เช่นเดียวกับคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด ล้วนแต่เป็นข้าราชการประจำระดับสูง ซึ่งประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ประธานกกต.จังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้แทนชุมชน จึงขอให้เชื่อมั่น และรอดูผลการคัดเลือก หากคัดเลือกแล้วพบว่ามีเหตุสงสัยก็สามารถแจ้งมายังสำนักงาน กกต.ได้ ซึ่งกรณีนี้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ก็ได้กำชับให้คณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้าน และคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อด้วยความรอบคอบยุติธรรม
**"สังศิต"เข้ารับสรรหาด้านสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเข้ารับการเสนอชื่อเป็นสปช.ขององค์กรนิติบุคคลในวันนี้ มีบุคคลที่น่าสนใจและเป็นที่รู้จักของสังคมได้รับการเสนอชื่อ อาทิ สมาคมศิษย์เก่าวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เสนอชื่อ นายยรรยงก์ ถนอมพิชัยธำรง อดีตอธิบกรมป่าไม้ เข้ารับการสรรหาด้านการเมือง มูลนิธิโอเคไลฟ์ เสนอชื่อนพ.นพดล จิรสันติ์ อดีตส.ว.ลำปาง เข้ารับการสรรหาด้านการเมือง ขณะที่สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปภัมภ์ เสนอชื่อนายพงศ์ศักดิ์ เสมสันต์ อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร เข้ารับการสรรหาด้านการปกครองท้องถิ่น วัดบ้านทุ่ง เสนอชื่อพ.ต.อ.สนธยา แสงเภา อดีตส.ว.สรรหา เข้ารับการสรรหาด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
สมาคมเพื่อความมั่นคงของชาติ เสนอชื่อนายทวีชัย เจริญบัณฑิต อดีตผู้พิพากษาอาวุโสศาลฎีกา เข้ารับการสรรหาด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และนายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 เข้าสรรหาด้านสื่อมวลชน และสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนยานนาเวศวิทยาคม เสนอชื่อนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เข้ารับการสรรหาด้านสังคม มูลนิธินักเรียนเก่าอำนวยศิลป์ เสนอชื่อนายวรวุฒิ โรจนพานิช อดีตส.ว.เข้าสรรหาด้านสื่อสารมวลชน
ทั้งนี้ นายสังศิต กล่าวว่า การที่ตนมาเสนอชื่อด้านสังคม เพราะเห็นว่ามีความใกล้เคียงกับสิ่งที่ตนสนใจคือการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน และปัญหาเรื่องปากท้อง การกระจายรายได้ลดความเหลื่อมล้ำซึ่งเป็นปัญหาของคนไทยมาอย่างยาวนาน อีกทั้งมองว่าขณะนี้ประชาชนให้ความสนใจและตื่นตัวเรื่องการต่อต้านการทุจริตมาเป็นระดับต้นๆ ถ้าหากตนได้เข้ามามีส่วนในการปฎิรูปเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือในการขับเคลื่อนการปราบปรามทุจริต
**ดำรงค์ พิเดช-พิเชฏฐ เข้าสรรหา
นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย เข้ายื่นเสนอชื่อตนเองในนามพรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย เพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสถาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการเมือง โดยนายดำรงค์ กล่าวว่า เหตุผลที่ลงด้านการเมือง เพราะเห็นว่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกทำลายโดยนักการเมือง จึงควรต้องมีการปฏิรูปการเมืองใหม่ ไม่ให้นักการเมืองยึดเป็นอาชีพหากิน ควรมีการกำหนดกติกาเป็นได้เพียงสมัยเดียว จำกัดอายุไม่เกิน 65 ปี
ขณะเดียวกัน นายพิเชฏฐ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภาปี 44 และแกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ได้ยื่นเข้ารับการสรรหา ในนามสมาคมองค์การสาธารณะประโยชน์เพื่อสังคมไทยเข้มแข็ง ด้านการเมือง
**สอท.ส่ง“ประสาท-ชูศักดิ์”ปฏิรูปการศึกษา
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) ในฐานะนายกสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า สอท.ในฐานะที่นิติบุคคลด้านการศึกษา ได้หารือและมีมติร่วมกันว่าจะเสนอชื่อตัวแทน สอท.จำนวน 2 คน ได้แก่ ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และ รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยเสนอเข้ารับการคัดเลือกเป็น สปช.ฝ่ายปฏิรูปการศึกษา
จากผลการสำรวจเมื่อถามถึงความสนใจของประชาชนต่อการเสนอชื่อตัวเอง เพื่อรับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 78.12 ระบุว่า ไม่มีความสนใจที่จะเสนอชื่อตัวเอง เพื่อรับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ขณะที่ ร้อยละ 11.14 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ มีเพียง ร้อยละ 10.26 ที่ระบุว่า มีความสนใจที่จะเสนอชื่อตัวเอง และร้อยละ 0.48 ระบุว่า ไม่ระบุ/ไม่มีความคิดเห็น
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อความโปร่งใสในกระบวนการคัดเลือกผู้เข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในระดับจังหวัด พบว่า ประชาชน ร้อยละ 21.40 ระบุว่า มีความเชื่อมั่นมากในความโปร่งใส ร้อยละ 30.21 ระบุว่า ค่อนข้างมีความเชื่อมั่นในความโปร่งใส ร้อยละ 27.96 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นในความโปร่งใส ร้อยละ 12.26 ระบุว่า ไม่มีความเชื่อมั่นเลย ในความโปร่งใส และ ร้อยละ 8.17 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
**เสนอชื่อสรรหา11วัน 2,045 คน
วานนี้ (24 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงสรุปยอดการเปิดรับเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) วันที่ 11 ว่า ตลอดทั้งวัน มีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในส่วนของสำนักงานกกต.กลาง จำนวน 11 ด้าน รวม 62 คน โดยเป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 13 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 49 คน
ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด มี 44 คน รวมวันที่ 24 ส.ค. ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 106 คน สรุป 11 วัน ของการเปิดรับการเสนอชื่อเมื่อวันที่ 14 ส.ค.-21 ส.ค. มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามาจำนวน 660 คน สมัครทางจังหวัด 1,385 คน รวมทั้งสิ้น 2,045 คน
ดังนั้นขณะนี้เหลือเวลาอีก 9 วัน ที่คาดว่าจะมีองค์กรนิติบุคคลเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาประมาณ 3,000 คน ก็น่าจะเป็นไปได้ โดยองค์กรนิติบุคคลที่ประสงค์จะเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหา ก็ขอให้เร่งดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม จากการเปิดรับการเสนอชื่อ 10 วัน พบว่า 5 ด้าน ที่มีการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหามากที่สุด ได้แก่ ด้านการศึกษา 119 คน ด้านสังคม 97 คน ด้านอื่นๆ 93 คน ด้านการปกครองท้องถิ่น 82 คน และด้านการเมือง 59 คน โดยด้านมีผู้เขัาเสนอชื่อน้อยที่สุดคือ ด้านพลังงาน มีเพียง 22 คน
ส่วนในระดับจังหวัดที่เปิดให้มีการเสนอชื่อ และทาบทาม พบว่า 10 อันดับจังหวัดที่มีการเสนอชื่อมากที่สุด คือ หนองบัวลำภู 50 คน มหาสารคาม 46 คน กาฬสินธุ์ 45 คน นครสวรรค์ และสงขลา จังหวัดละ 40 คน เชียงใหม่ 38 คน นครปฐม และนครพนม จังหวัดละ 34 คน กรุงเทพมหานคร 32 คน พิษณุโลก 29 คน และกำแพงเพชร 28 คน ขณะที่จังหวัดที่มีการเสนอชื่อและทาบทามน้อยที่สุดคือ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีเพียง 4 คนเท่านั้น
นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า แม้ด้านพลังงานในขณะนี้จะมีผู้เข้ารับการเสนอชื่อแค่เพียง 22 คน หากปิดรับการสรรหาแล้วยังมีจำนวนเท่านี้ ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะตาม พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการสรรหา สปช. กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาแต่ละด้าน คัดเลือกผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อในด้านละไม่เกิน 50 คน ให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) ก็จริง แต่ก็ระบุไว้ว่า คณะกรรมการสรรหา ต้องเสนอชื่อไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อทั้งหมด ดังนั้นถ้ามีผู้ได้รับการเสนอชื่อเพียง 40 คน คณะกรรมการสรรหา ก็ต้องเสนอชื่อให้คสช.พิจารณาไม่น้อยกว่า 20 คน
ส่วนกรณีทีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เผยผลสำรวจความเห็นประชาชน ว่า ไม่เชื่อมั่นในกระบวนการสรรหาสปช. ของคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดนั้น ทั้งกกต. และกระทรวงมหาดไทย ก็ได้มีหนังสือกำชับไปยังผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหา และผู้ว่าราชการจังหวัดที่ส่วนใหญ่จะเป็นประธานคณะกรรมการสรรหาว่า จะไม่สามารถลงมติคัดเลือกบุคคลที่สมควรเป็น สปช.ได้ก่อนวันที่ 2 ก.ย. เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของการเปิดรับการเสนอชื่อ
อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นในคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้าน ที่เป็นผู้ที่ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ เชื่อว่าในกระบวนการสรรหาคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้าน จะให้ความยุติธรรม และความเสมอภาคกับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ เช่นเดียวกับคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด ล้วนแต่เป็นข้าราชการประจำระดับสูง ซึ่งประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ประธานกกต.จังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้แทนชุมชน จึงขอให้เชื่อมั่น และรอดูผลการคัดเลือก หากคัดเลือกแล้วพบว่ามีเหตุสงสัยก็สามารถแจ้งมายังสำนักงาน กกต.ได้ ซึ่งกรณีนี้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ก็ได้กำชับให้คณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้าน และคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อด้วยความรอบคอบยุติธรรม
**"สังศิต"เข้ารับสรรหาด้านสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเข้ารับการเสนอชื่อเป็นสปช.ขององค์กรนิติบุคคลในวันนี้ มีบุคคลที่น่าสนใจและเป็นที่รู้จักของสังคมได้รับการเสนอชื่อ อาทิ สมาคมศิษย์เก่าวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เสนอชื่อ นายยรรยงก์ ถนอมพิชัยธำรง อดีตอธิบกรมป่าไม้ เข้ารับการสรรหาด้านการเมือง มูลนิธิโอเคไลฟ์ เสนอชื่อนพ.นพดล จิรสันติ์ อดีตส.ว.ลำปาง เข้ารับการสรรหาด้านการเมือง ขณะที่สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปภัมภ์ เสนอชื่อนายพงศ์ศักดิ์ เสมสันต์ อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร เข้ารับการสรรหาด้านการปกครองท้องถิ่น วัดบ้านทุ่ง เสนอชื่อพ.ต.อ.สนธยา แสงเภา อดีตส.ว.สรรหา เข้ารับการสรรหาด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
สมาคมเพื่อความมั่นคงของชาติ เสนอชื่อนายทวีชัย เจริญบัณฑิต อดีตผู้พิพากษาอาวุโสศาลฎีกา เข้ารับการสรรหาด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และนายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 เข้าสรรหาด้านสื่อมวลชน และสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนยานนาเวศวิทยาคม เสนอชื่อนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เข้ารับการสรรหาด้านสังคม มูลนิธินักเรียนเก่าอำนวยศิลป์ เสนอชื่อนายวรวุฒิ โรจนพานิช อดีตส.ว.เข้าสรรหาด้านสื่อสารมวลชน
ทั้งนี้ นายสังศิต กล่าวว่า การที่ตนมาเสนอชื่อด้านสังคม เพราะเห็นว่ามีความใกล้เคียงกับสิ่งที่ตนสนใจคือการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน และปัญหาเรื่องปากท้อง การกระจายรายได้ลดความเหลื่อมล้ำซึ่งเป็นปัญหาของคนไทยมาอย่างยาวนาน อีกทั้งมองว่าขณะนี้ประชาชนให้ความสนใจและตื่นตัวเรื่องการต่อต้านการทุจริตมาเป็นระดับต้นๆ ถ้าหากตนได้เข้ามามีส่วนในการปฎิรูปเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือในการขับเคลื่อนการปราบปรามทุจริต
**ดำรงค์ พิเดช-พิเชฏฐ เข้าสรรหา
นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย เข้ายื่นเสนอชื่อตนเองในนามพรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย เพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสถาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการเมือง โดยนายดำรงค์ กล่าวว่า เหตุผลที่ลงด้านการเมือง เพราะเห็นว่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกทำลายโดยนักการเมือง จึงควรต้องมีการปฏิรูปการเมืองใหม่ ไม่ให้นักการเมืองยึดเป็นอาชีพหากิน ควรมีการกำหนดกติกาเป็นได้เพียงสมัยเดียว จำกัดอายุไม่เกิน 65 ปี
ขณะเดียวกัน นายพิเชฏฐ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภาปี 44 และแกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ได้ยื่นเข้ารับการสรรหา ในนามสมาคมองค์การสาธารณะประโยชน์เพื่อสังคมไทยเข้มแข็ง ด้านการเมือง
**สอท.ส่ง“ประสาท-ชูศักดิ์”ปฏิรูปการศึกษา
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) ในฐานะนายกสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า สอท.ในฐานะที่นิติบุคคลด้านการศึกษา ได้หารือและมีมติร่วมกันว่าจะเสนอชื่อตัวแทน สอท.จำนวน 2 คน ได้แก่ ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และ รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยเสนอเข้ารับการคัดเลือกเป็น สปช.ฝ่ายปฏิรูปการศึกษา