วานนี้ (21ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงสรุปยอดการเปิดรับเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) วันที่ 8 ว่า ตลอดทั้งวัน มีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไร ยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในส่วนของสำนักงานกกต.กลาง จำนวน 11 ด้าน รวม 144 คน โดยเป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 123 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 21 คน ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมี 215 คน รวมวันที่ 21ส.ค. ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 359 คน สรุป 8 วันของการเปิดรับการเสนอชื่อเมื่อวันที่ 14 ส.ค.-21 ส.ค. มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามาจำนวน 403 คน สมัครทางจังหวัด 968 คน รวมทั้งสิ้น 1,371 คน
นายภุชงค์ กล่าวถึงกรณี กระแสข่าวการบล็อกโหวตรายชื่อผู้ที่จะเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ในระดับจังหวัดว่า ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการของการเสนอชื่อ ไม่ได้อยู่ในขั้นตอนของการลงมติสรรหา ดังนั้นจึงยังไม่มีการบล็อกโหวตแต่อย่างใด และในขณะนี้ ก็ถือว่าปัญหาดังกล่าวหมดไปแล้ว เนื่องจากสำนักงาน กกต.และกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมประชุมผ่านระบบทางไกลผ่านดาวเทียม (วีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์) ร่วมกับคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัด จำนวน 77 จังหวัดแล้ว และมีการชี้แจงกระบวนการในการสรรหา สปช. ประจำจังหวัดเรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 22 ส.ค. สำนักงาน กกต. ก็จะทำหนังสือซักซ้อมส่งไปให้คณะกรรมการสรรหาทั้ง 77 จังหวัดอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ในการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. 11 ด้านนั้น นิติบุคคลในต่างจังหวัดสามารถส่งเอกสารหลักฐานทางไปรษณีย์มายังสำนักงาน กกต.กลางได้ โดยไม่ต้องเดินทางมาก็ได้ แต่ที่ผ่านมาพบว่าการส่งเอกสารการเสนอชื่อบุคคล บางรายส่งเอกสารไม่ครบตามที่กำหนด ที่จะต้องส่งเอกสารทั้งหมด 3 ชุด บางรายไม่มีการระบุว่า จะเข้ารับการสรรหาด้านใด ไม่มีการแนบหลักฐานของนิติบุคคลมาด้วย ผู้ถูกเสนอชื่อไม่กรอกรายละเอียด ว่ามีคุณสมบัติอย่างไร มีคุณสมบัติต้องห้ามหรือไม่ เป็นต้น จึงขอแนะนำว่า นิติบุคคลที่มีความประสงค์จะเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ทั้ง 11 ด้าน ให้เดินทางไปกรอกเอกสารที่ สำนักงาน กกต.จังหวัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ และให้คำแนะนำในการกรอกเอกสาร และเตรียมหลักฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจนนิติบุคคลนั้นๆ ต้องเสียสิทธิในการเสนอชื่อ
ในส่วนของนิติบุคคล ที่ส่งเอกสารมายัง สำนักงาน กกต.แล้ว แต่มีปัญหา สำนักงาน กกต. ก็จะส่งจดหมายแจ้งไปยังนิติบุคคลนั้นๆ ให้รับทราบ เพื่อที่จะได้ส่งเอกสารกลับมาให้ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม หากพ้นกำหนดระยะเวลาเปิดรับการเสนอชื่อไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเอกสารที่ครบถ้า กกต. ก็จะไม่มีการตัดชื่อบุคคลที่ถูกเสนอชื่อ แต่จะมีหมายเหตุว่าเอกสารไม่สมบูรณ์ และเสนอไปยัง คสช.เพื่อพิจารณาต่อไป
"จากยอดเข้ารับการสรรหาในวันนี้ ถือว่าเป็นยอดที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดรับการสรรหา และคาดว่าภายในอาทิตย์นี้จะถึง 2 พันคน ซึ่งในวันนี้ ก็มีบุคคลที่มีชื่อเสียงทยอยเข้ารับการเสนอชื่อจำนวนมาก โดยได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วว่า ในช่วง 5 วันสุดท้าย ก็จะมีการเพิ่มจุดในการรับเอกสาร รวมถึงเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การรับการเสนอชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น เพราะคาดว่ายอดผู้รับการเสนอชื่อจะแตะถึง 3 พันคน หากมีคนมายื่นเสนอชื่อมาอาจจะแจกใบคิว"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเข้ารับการเสนอชื่อเป็นสปช.ขององค์กรนิติบุคคลในวันนี้ มีบุคคลที่เป็นที่รู้จักของสังคมได้รับการเสนอชื่อ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) เสนอชื่อ นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. เข้ารับการสรรหาด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการสำนักงานป.ป.ช. เข้ารับการสรรหาในด้านการเมือง มูลนิธิ 14 ตุลา เสนอชื่อ นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต ส.ว. สรรหา เข้ารับการสรรหาในด้านการเมือง มูลนิธิร่มฉัตร เสนอชื่อนายวันชัย สอนศิริ อดีต ส.ว.สรรหา เข้ารับการสรรหาในด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม
มูลินิธิสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอชื่อ นายสุชาติ สหัสโชติ อดีต ผวจ.อ่างทอง และประธานกรรมการการเลือกตั้ง จ.อ่างทอง เข้าสรรหาด้านปกครองท้องถิ่น สมาคมศิษย์เก่ามงฟอร์ตวิทยาลัย สำนักงานกรุงเทพ เสนอชื่อ พล.ต.ท.สมยศ ดีมาก อดีต ส.ว.สรรหา เข้ารับการสรรหาด้านพลังงาน มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก เสนอชื่อ นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ารับการสรรหาด้านการศึกษา องค์กรทูตสันติภาพ เสนอชื่อ นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ารับการสรรหาด้านสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม
สมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย เสนอชื่อ นายสดใส โรจนวิชัย หรือ สดใส รุ่งโพธิ์ทอง นักร้องลูกทุ่ง เข้ารับการสรรหาด้านสังคม มูลนิธิสมาน-คุณหญิงเบญจา แสงมลิ เสนอชื่อ นายสมเกียรติ ชอบผล ที่ปรึกษาโครงการตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) เข้ารับการสรรหาด้านการศึกษา สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จ.ระยอง เสนอชื่อ นายสยุมพร ลิ่มไทย อดีต ผวจ.ระยอง เข้ารับการสรรหาด้านปกครองท้องถิ่น มูลนิธิกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 13 เสนอชื่อนายศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เข้ารับการสรรหาด้านการศึกษา สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เสนอชื่อ นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมฯ เข้าสรรหาด้านเศรษฐกิจสมาคมจิตอาสาพัฒนาประเทศไทย เสนอชื่อ น.ส.ชรินรัตน์ พุทธปวน อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย ปี 2543 เข้าสรรหาในด้านสังคม
นอกจากนี้ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ยังเสนอชื่อ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าสรรหาในด้านอื่น ๆ สมาคมสันนิบาตสมาคมแห่งประเทศไทย เสนอชื่อ นายวรรณธรรม กาญจนสุวรรณ อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เข้าสรรหาในด้านบริหารราชการแผ่นดิน
**"สมชัย"แจงกกต.ต้องส่ง สปช.
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงการที่ กกต. มีมติส่งตนเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.ว่า เป็นเพราะ กกต. มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง จึงต้องมีบุคลากรเข้าไปทำหน้าที่ในสปช. ซึ่งบุคคลที่ กกต. เสนอชื่อไม่มีความได้เปรียบเสียเปรียบจากบุคคลที่นิติบุคคลอื่นๆ เสนอ เพราะคณะกรรมการสรรหาแต่ละด้าน จะเป็นผู้คัดเลือกผู้ที่เหมาะสมและเสนอชื่อให้ คสช. คัดเลือกอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนการออกแบบกลไกการเลือกตั้งนั้น เป็นเรื่องที่ต้องคิดร่วมกัน แต่เรื่องที่สำคัญคือ ทำอย่างไรจะคัดกรองคนดี คนที่มีความสามารถเข้าไปสู่การเมือง ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีกระบวนการคัดกรองคนที่ไม่เหมาะสม ทุจริตการเลือกตั้ง หรือหวังเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ออกไปจากระบบการเมืองให้ได้ ซึ่งหากได้คนดีมีความสามารถเข้ามาในการเมืองไทย ก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีได้
นายสมชัย ยังกล่าวถึง การปฏิรูปประเทศด้วยว่า มองว่ามี 4 ด้านสำคัญ ที่ต้องปฏิรูปให้เกิดความสำเร็จ คือ ด้านการเมือง การออกแบบการเมือง รัฐธรรมนูญ การเลือกตั้ง ส.ส.- ส.ว. การแก้ไขกลไกทางการเมือง ส่วนด้านกฎหมายและกระบวนยุติธรรม ซึ่งขณะนี้คสช. มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นกลไกสำคัญในการร่างฯ และผ่านกฎหมายสำคัญต่างๆ ขณะที่ด้านการปกครองท้องถิ่นการปฏิรูปต้องครอบคลุมไปถึงการได้มาซึ่งบุคลากรในองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีคุณภาพ แก้ไขปัญหาการซื้อเสียงทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติ รวมถึงแก้ไขปัญหาการทับซ้อนขององค์กรปกครองท้องถิ่น ทั้งระดับ อบต. เทศบาลและอบจ. และด้านสื่อมวลชน เนื่องจากทุกวันนี้ สื่อมวลชน มีเสรีภาพ จนตกเป็นเครื่องมือ หรือกลไกสร้างความชอบธรรมให้กับฝ่ายการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้สื่อกลายเป็นเครื่องมือของการเมือง ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องดำเนินการแก้ไข โดยส่วนตัวมองว่า หากไม่มีการปฏิรูปสื่อ การปฏิรูปในด้านอื่นๆ ก็อาจจะล้มเหลวทั้งหมด
ส่วนการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และอื่นๆ ถือเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าจะทำให้สำเร็จได้ภายใน 1 ปี ดังนั้น จึงอาจเป็นการจุดประกาย เพื่อส่งมอบให้รัฐบาลชุดต่อไปนำไปดำเนินการ
นายภุชงค์ กล่าวถึงกรณี กระแสข่าวการบล็อกโหวตรายชื่อผู้ที่จะเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ในระดับจังหวัดว่า ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการของการเสนอชื่อ ไม่ได้อยู่ในขั้นตอนของการลงมติสรรหา ดังนั้นจึงยังไม่มีการบล็อกโหวตแต่อย่างใด และในขณะนี้ ก็ถือว่าปัญหาดังกล่าวหมดไปแล้ว เนื่องจากสำนักงาน กกต.และกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมประชุมผ่านระบบทางไกลผ่านดาวเทียม (วีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์) ร่วมกับคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัด จำนวน 77 จังหวัดแล้ว และมีการชี้แจงกระบวนการในการสรรหา สปช. ประจำจังหวัดเรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 22 ส.ค. สำนักงาน กกต. ก็จะทำหนังสือซักซ้อมส่งไปให้คณะกรรมการสรรหาทั้ง 77 จังหวัดอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ในการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. 11 ด้านนั้น นิติบุคคลในต่างจังหวัดสามารถส่งเอกสารหลักฐานทางไปรษณีย์มายังสำนักงาน กกต.กลางได้ โดยไม่ต้องเดินทางมาก็ได้ แต่ที่ผ่านมาพบว่าการส่งเอกสารการเสนอชื่อบุคคล บางรายส่งเอกสารไม่ครบตามที่กำหนด ที่จะต้องส่งเอกสารทั้งหมด 3 ชุด บางรายไม่มีการระบุว่า จะเข้ารับการสรรหาด้านใด ไม่มีการแนบหลักฐานของนิติบุคคลมาด้วย ผู้ถูกเสนอชื่อไม่กรอกรายละเอียด ว่ามีคุณสมบัติอย่างไร มีคุณสมบัติต้องห้ามหรือไม่ เป็นต้น จึงขอแนะนำว่า นิติบุคคลที่มีความประสงค์จะเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ทั้ง 11 ด้าน ให้เดินทางไปกรอกเอกสารที่ สำนักงาน กกต.จังหวัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ และให้คำแนะนำในการกรอกเอกสาร และเตรียมหลักฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาจนนิติบุคคลนั้นๆ ต้องเสียสิทธิในการเสนอชื่อ
ในส่วนของนิติบุคคล ที่ส่งเอกสารมายัง สำนักงาน กกต.แล้ว แต่มีปัญหา สำนักงาน กกต. ก็จะส่งจดหมายแจ้งไปยังนิติบุคคลนั้นๆ ให้รับทราบ เพื่อที่จะได้ส่งเอกสารกลับมาให้ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม หากพ้นกำหนดระยะเวลาเปิดรับการเสนอชื่อไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเอกสารที่ครบถ้า กกต. ก็จะไม่มีการตัดชื่อบุคคลที่ถูกเสนอชื่อ แต่จะมีหมายเหตุว่าเอกสารไม่สมบูรณ์ และเสนอไปยัง คสช.เพื่อพิจารณาต่อไป
"จากยอดเข้ารับการสรรหาในวันนี้ ถือว่าเป็นยอดที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดรับการสรรหา และคาดว่าภายในอาทิตย์นี้จะถึง 2 พันคน ซึ่งในวันนี้ ก็มีบุคคลที่มีชื่อเสียงทยอยเข้ารับการเสนอชื่อจำนวนมาก โดยได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วว่า ในช่วง 5 วันสุดท้าย ก็จะมีการเพิ่มจุดในการรับเอกสาร รวมถึงเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การรับการเสนอชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น เพราะคาดว่ายอดผู้รับการเสนอชื่อจะแตะถึง 3 พันคน หากมีคนมายื่นเสนอชื่อมาอาจจะแจกใบคิว"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเข้ารับการเสนอชื่อเป็นสปช.ขององค์กรนิติบุคคลในวันนี้ มีบุคคลที่เป็นที่รู้จักของสังคมได้รับการเสนอชื่อ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) เสนอชื่อ นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. เข้ารับการสรรหาด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการสำนักงานป.ป.ช. เข้ารับการสรรหาในด้านการเมือง มูลนิธิ 14 ตุลา เสนอชื่อ นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต ส.ว. สรรหา เข้ารับการสรรหาในด้านการเมือง มูลนิธิร่มฉัตร เสนอชื่อนายวันชัย สอนศิริ อดีต ส.ว.สรรหา เข้ารับการสรรหาในด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม
มูลินิธิสันนิบาตมูลนิธิแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอชื่อ นายสุชาติ สหัสโชติ อดีต ผวจ.อ่างทอง และประธานกรรมการการเลือกตั้ง จ.อ่างทอง เข้าสรรหาด้านปกครองท้องถิ่น สมาคมศิษย์เก่ามงฟอร์ตวิทยาลัย สำนักงานกรุงเทพ เสนอชื่อ พล.ต.ท.สมยศ ดีมาก อดีต ส.ว.สรรหา เข้ารับการสรรหาด้านพลังงาน มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก เสนอชื่อ นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ารับการสรรหาด้านการศึกษา องค์กรทูตสันติภาพ เสนอชื่อ นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ารับการสรรหาด้านสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม
สมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย เสนอชื่อ นายสดใส โรจนวิชัย หรือ สดใส รุ่งโพธิ์ทอง นักร้องลูกทุ่ง เข้ารับการสรรหาด้านสังคม มูลนิธิสมาน-คุณหญิงเบญจา แสงมลิ เสนอชื่อ นายสมเกียรติ ชอบผล ที่ปรึกษาโครงการตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) เข้ารับการสรรหาด้านการศึกษา สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จ.ระยอง เสนอชื่อ นายสยุมพร ลิ่มไทย อดีต ผวจ.ระยอง เข้ารับการสรรหาด้านปกครองท้องถิ่น มูลนิธิกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 13 เสนอชื่อนายศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เข้ารับการสรรหาด้านการศึกษา สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เสนอชื่อ นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมฯ เข้าสรรหาด้านเศรษฐกิจสมาคมจิตอาสาพัฒนาประเทศไทย เสนอชื่อ น.ส.ชรินรัตน์ พุทธปวน อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย ปี 2543 เข้าสรรหาในด้านสังคม
นอกจากนี้ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ยังเสนอชื่อ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าสรรหาในด้านอื่น ๆ สมาคมสันนิบาตสมาคมแห่งประเทศไทย เสนอชื่อ นายวรรณธรรม กาญจนสุวรรณ อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เข้าสรรหาในด้านบริหารราชการแผ่นดิน
**"สมชัย"แจงกกต.ต้องส่ง สปช.
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงการที่ กกต. มีมติส่งตนเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.ว่า เป็นเพราะ กกต. มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง จึงต้องมีบุคลากรเข้าไปทำหน้าที่ในสปช. ซึ่งบุคคลที่ กกต. เสนอชื่อไม่มีความได้เปรียบเสียเปรียบจากบุคคลที่นิติบุคคลอื่นๆ เสนอ เพราะคณะกรรมการสรรหาแต่ละด้าน จะเป็นผู้คัดเลือกผู้ที่เหมาะสมและเสนอชื่อให้ คสช. คัดเลือกอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนการออกแบบกลไกการเลือกตั้งนั้น เป็นเรื่องที่ต้องคิดร่วมกัน แต่เรื่องที่สำคัญคือ ทำอย่างไรจะคัดกรองคนดี คนที่มีความสามารถเข้าไปสู่การเมือง ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีกระบวนการคัดกรองคนที่ไม่เหมาะสม ทุจริตการเลือกตั้ง หรือหวังเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ออกไปจากระบบการเมืองให้ได้ ซึ่งหากได้คนดีมีความสามารถเข้ามาในการเมืองไทย ก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีได้
นายสมชัย ยังกล่าวถึง การปฏิรูปประเทศด้วยว่า มองว่ามี 4 ด้านสำคัญ ที่ต้องปฏิรูปให้เกิดความสำเร็จ คือ ด้านการเมือง การออกแบบการเมือง รัฐธรรมนูญ การเลือกตั้ง ส.ส.- ส.ว. การแก้ไขกลไกทางการเมือง ส่วนด้านกฎหมายและกระบวนยุติธรรม ซึ่งขณะนี้คสช. มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นกลไกสำคัญในการร่างฯ และผ่านกฎหมายสำคัญต่างๆ ขณะที่ด้านการปกครองท้องถิ่นการปฏิรูปต้องครอบคลุมไปถึงการได้มาซึ่งบุคลากรในองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีคุณภาพ แก้ไขปัญหาการซื้อเสียงทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติ รวมถึงแก้ไขปัญหาการทับซ้อนขององค์กรปกครองท้องถิ่น ทั้งระดับ อบต. เทศบาลและอบจ. และด้านสื่อมวลชน เนื่องจากทุกวันนี้ สื่อมวลชน มีเสรีภาพ จนตกเป็นเครื่องมือ หรือกลไกสร้างความชอบธรรมให้กับฝ่ายการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้สื่อกลายเป็นเครื่องมือของการเมือง ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องดำเนินการแก้ไข โดยส่วนตัวมองว่า หากไม่มีการปฏิรูปสื่อ การปฏิรูปในด้านอื่นๆ ก็อาจจะล้มเหลวทั้งหมด
ส่วนการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และอื่นๆ ถือเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าจะทำให้สำเร็จได้ภายใน 1 ปี ดังนั้น จึงอาจเป็นการจุดประกาย เพื่อส่งมอบให้รัฐบาลชุดต่อไปนำไปดำเนินการ