ASTVผู้จัดการรายวัน - สั่งเด้งผกก.สภ.ไชยปราการ ไปประจำภาค 5 ไม่กำหนด เซ่นคดีจับรองผกก.ป มือปราบยาเสพติดที่ทิ้งอุดมการณ์ขนยานรกล็อตใหญ่ หาเงินใช้หนี้สหกรณ์ 1.9 ล้าน ตั้งกก.สอบมีใครเกี่ยวข้องอีก "พงศพัฒน์"เผยของเครือข่าย"พ.ท.ยี่เซ" เครดิตดีถึงขั้นไม่ต้องจ่ายเงินสด แถมเปิดเซฟเจอทองคำแท่งหนัก 150 บาท แค่ขายก็ใช้หนี้ได้หมด อีกรายทหาร-ตำรวจบุกจับครูซี 7 พร้อมเมียทั้งยาบ้า 42 เม็ด อ้างมีไว้เสพแก้หอบหืด
วันนี้(19 ส.ค.) พล.ต.อ.พงศพัฒน์ พงศ์เจริญ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผู้ช่วยผบ.ตร รักษาราชการแทนผบช.ภ. 5 ไปที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจสอบคดีที่ชุดสืบสวนสภ.แม่สาย จ.เชียงราย จับกุมตัวพ.ต.ท.ชำนาญ พุ่มไพจิตร รองผกก.ป.สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ พร้อมยาบ้า 800,000 เม็ด ยาไอซ์ 1 กิโลกรัม ได้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา
ต่อมา พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.จว.เชียงราย นำชุดจับกุม 9 นายเข้าพบ พร้อมนำตัวพ.ต.ท.ชำนาญ และผู้ต้องหาที่จับกุมได้เพิ่มเติม คือ นายป๊อก ไทยใหญ่ อายุ 32 ปี ชาวเมืองปั่น จ.ตองกี่ ประเทศพม่า และ น.ส.อาเหมย ศรีนทรีทันดร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 319/2 ม.9 ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย มาให้ปากคำเพิ่มเติม ทั้งยังนำทรัพย์สินเป็นตู้เซฟของพ.ต.ท.ชำนาญ 1 ตู้ไปตรวจสอบที่บก.ภ.จว.เชียงราย ซึ่งพบว่าภายในมีทองคำแท่ง หนักแท่งละ 10 บาท 15 แท่ง รวม 150 บาท
พล.ต.อ.พงศพัฒน์ สอบปากคำพ.ต.ท.ชำนาญ ซึ่งให้การเบื้องต้นว่าเพิ่งอยู่กินกับน.ส.อาเหมย ภรรยาใหม่ และเป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ 1.9 ล้านบาท และอื่นๆอีก อย่างไรก็ตามพ.ต.ท.ชำนาญ ยังให้การสับสน เพราะระบุว่าจะนำของกลางทั้งหมดไปส่งที่กรุงเทพฯ แต่กลับพูดถึงการขยายผลการจับกุมในคดียาเสพติด ซึ่งกรณีนี้ก็จะขยายผลเช่นกัน แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อปลายทางได้
พล.ต.อ.พงศพัฒน์ กล่าวว่า กรณีเป็นนายตำรวจป้องกันและปราบปรามยาเสพติด แต่กลับขนของจำนวนมากอย่างนี้เสียเอง ถือว่าทำไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง และไม่มีใครยอมรับได้ด้วย ส่วนที่บอกว่าเป็นหนี้สหกรณ์ตำรวจ ถ้าเอาทองแท่งไปขายก็ใช้หนี้ได้หมดแล้ว ทั้งนี้ จากตราประทับของกลางยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ บ่งชี้ว่าเป็นยาเสพติดมาจากโรงงานพ.ท.ยี่เซ ชนกลุ่มน้อยฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นเครือข่ายใหญ่ ลักษณะของเม็ดยาก็ใหม่ มีห่อกระดาษสาห่อกันความชื้นในฤดูฝน ส่วนห่อยาบ้าเป็นสีฟ้า และมีกลิ่นแอปเปิ้ลปะปนด้วยบางส่วน
"จากการสืบสวนทราบว่าเป็นการขนเข้ามาโดยไม่ต้องจ่ายเงินสด แสดงว่ามีเครดิตกับโรงงานผลิตอย่างมาก และที่สำคัญยังสามารถใช้นายตำรวจระดับสูงที่มีผลงานปราบยาเสพติดของเรา ไปเป็นคนขนเสียเองด้วย เบื้องต้นตำรวจภูธรภาค 5 โดยพล.ต.ท.วันชัย ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ซึ่งผมจะเสนอผบ.ตร.ตั้งคณะกรรมการจากตำรวจป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ให้ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 ขยายผลปราบปรามเครือข่ายนี้ให้ถึงที่สุด"
พล.ต.อ.พงศพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับพ.ต.ท.ชำนาญให้ออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย รวมถึงได้มีคำสั่งย้ายพ.ต.อ.ธวัชชัย เทพบุญ ผกก.สภ.ไชยปราการ ไปประจำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยไม่มีกำหนด พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่า เกี่ยวข้องกับบุคคลใดอีกหรือไม่ สำหรับคดีอาญาตั้งข้อหาพ.ต.ท.ชำนาญร่วมกันมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนน.ส.เหมย ให้การเป็นประโยชน์ แต่ยังดำเนินคดีข้อหาสมคบ คาดว่าเมื่อสอบปากคำทั้งหมดแล้ว จะขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก 2-3 คน
ด้านพ.ต.อ.ธวัชชัย กล่าวว่า พล.ต.อ.พงศพัศ มีคำสั่งย้ายตามระเบียบกติกา เนื่องตนเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพ.ต.ท.ชำนาญ ตามความผิดฐานไม่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดี จนเกิดเหตุร้ายแรง กระทบกับภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับพ.ต.ท.ชำนาญเป็นมือปราบที่มีฝีมือ เป็นคนเก่ง เป็นคนดีคนหนึ่ง ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ทำงานจริงจัง ไม่คิดเหมือนกันว่าจะหลงผิดก่อคดีขึ้นเอง จนกระทั่งถูกจับได้ และสั่นสะเทือนวงการเช่นนี้ คิดว่าคงเกิดความโลภครอบงำ จากการที่ฝ่ายผู้ค้ายาเสนอจำนวนเงินมหาศาลให้จนหลงผิด สำหรับตนไม่เคยรู้เห็นการกระทำผิดดังกล่าว และพร้อมถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน
อย่างไรก็ตามในวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ทหารพร้อมตำรวจ นำโดยพ.ต.อ.สังเวียน อินตากูล ผกก.สส. เข้าตรวจค้นบ้านของพ.ต.ท.ชำนาญ หลังแรกเลขที่ 112/225 หมู่บ้านเจนแอนด์จอย ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง หลังที่สองเลขที่ 353/3 หมู่บ้านสุขสวัสดิ์ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ทั้ง 2 หลังมีส.ต.ท.หญิง ยุพาภรณ์ พุ่มไพจิตร อายุ 27 ปี บุตรสาวนำตรวจค้น ซึ่งไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ทั้ง 2 หลังมีโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัลการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจำนวนมาก โดยได้บันทึกตรวจยึดบ้านทั้ง 2 หลัง รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน มูลค่าทรัพย์สินกว่า 10 ล้านบาท
วันเดียวกัน พ.อ.เศรษฐพล เกตุเต็ม เสนาธิการจังหวัดทหารบกน่าน ร่วมกับพ.ต.ท.อุทัย วงษ์คำแสน สว.สส.ภ.จว.น่าน นำกำลังเข้าจับกุมนายนิคม ถิ่นทิพย์ อายุ 59 ปี อาจารย์ 2 ระดับ 7 โรงเรียนบ้านมิตรมวลชน 3 บ้านน้ำว้า ต.น้ำพาง อ.แม่จริม จ.น่าน และนางนฤมล นาคสายยันต์ อายุ 40 ปี ภรรยา ที่บ้านเลขที่ 28/7 ถนนสวนตาลล่าง ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและผู้ปกครองว่าทั้งคู่ขายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในหมู่บ้าน พบทั้งคู่กำลังพักอยู่ในบ้าน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่นายนิคมถึงกับหน้าถอดสี ตรวจค้นพบยาบ้าห่อด้วยกระดาษฟลอยด์ซุกซ่อนอยู่ในแจกันดอกไม้ 40 เม็ด นอกหน้าต่างห้องนอน 2 เม็ด รวม 42 เม็ด อุปกรณ์การเสพ เงินสดอีกกว่า 3,000 บาท บัญชีเงินฝากธนาคารหลายเล่ม มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ซึ่งนายนิคมปฏิเสธว่าไม่ได้ขายยาบ้า อ้างว่ามีไว้เพื่อเสพแก้อาการหอบหืดเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงนำทั้งคู่ตรวจปัสสาวะปรากฏว่ามีสีม่วง จึงควบคุมตัพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมือง ขยายผลต่อไป
วันนี้(19 ส.ค.) พล.ต.อ.พงศพัฒน์ พงศ์เจริญ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผู้ช่วยผบ.ตร รักษาราชการแทนผบช.ภ. 5 ไปที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจสอบคดีที่ชุดสืบสวนสภ.แม่สาย จ.เชียงราย จับกุมตัวพ.ต.ท.ชำนาญ พุ่มไพจิตร รองผกก.ป.สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ พร้อมยาบ้า 800,000 เม็ด ยาไอซ์ 1 กิโลกรัม ได้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา
ต่อมา พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.จว.เชียงราย นำชุดจับกุม 9 นายเข้าพบ พร้อมนำตัวพ.ต.ท.ชำนาญ และผู้ต้องหาที่จับกุมได้เพิ่มเติม คือ นายป๊อก ไทยใหญ่ อายุ 32 ปี ชาวเมืองปั่น จ.ตองกี่ ประเทศพม่า และ น.ส.อาเหมย ศรีนทรีทันดร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 319/2 ม.9 ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย มาให้ปากคำเพิ่มเติม ทั้งยังนำทรัพย์สินเป็นตู้เซฟของพ.ต.ท.ชำนาญ 1 ตู้ไปตรวจสอบที่บก.ภ.จว.เชียงราย ซึ่งพบว่าภายในมีทองคำแท่ง หนักแท่งละ 10 บาท 15 แท่ง รวม 150 บาท
พล.ต.อ.พงศพัฒน์ สอบปากคำพ.ต.ท.ชำนาญ ซึ่งให้การเบื้องต้นว่าเพิ่งอยู่กินกับน.ส.อาเหมย ภรรยาใหม่ และเป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ 1.9 ล้านบาท และอื่นๆอีก อย่างไรก็ตามพ.ต.ท.ชำนาญ ยังให้การสับสน เพราะระบุว่าจะนำของกลางทั้งหมดไปส่งที่กรุงเทพฯ แต่กลับพูดถึงการขยายผลการจับกุมในคดียาเสพติด ซึ่งกรณีนี้ก็จะขยายผลเช่นกัน แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อปลายทางได้
พล.ต.อ.พงศพัฒน์ กล่าวว่า กรณีเป็นนายตำรวจป้องกันและปราบปรามยาเสพติด แต่กลับขนของจำนวนมากอย่างนี้เสียเอง ถือว่าทำไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง และไม่มีใครยอมรับได้ด้วย ส่วนที่บอกว่าเป็นหนี้สหกรณ์ตำรวจ ถ้าเอาทองแท่งไปขายก็ใช้หนี้ได้หมดแล้ว ทั้งนี้ จากตราประทับของกลางยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ บ่งชี้ว่าเป็นยาเสพติดมาจากโรงงานพ.ท.ยี่เซ ชนกลุ่มน้อยฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นเครือข่ายใหญ่ ลักษณะของเม็ดยาก็ใหม่ มีห่อกระดาษสาห่อกันความชื้นในฤดูฝน ส่วนห่อยาบ้าเป็นสีฟ้า และมีกลิ่นแอปเปิ้ลปะปนด้วยบางส่วน
"จากการสืบสวนทราบว่าเป็นการขนเข้ามาโดยไม่ต้องจ่ายเงินสด แสดงว่ามีเครดิตกับโรงงานผลิตอย่างมาก และที่สำคัญยังสามารถใช้นายตำรวจระดับสูงที่มีผลงานปราบยาเสพติดของเรา ไปเป็นคนขนเสียเองด้วย เบื้องต้นตำรวจภูธรภาค 5 โดยพล.ต.ท.วันชัย ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ซึ่งผมจะเสนอผบ.ตร.ตั้งคณะกรรมการจากตำรวจป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ให้ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 ขยายผลปราบปรามเครือข่ายนี้ให้ถึงที่สุด"
พล.ต.อ.พงศพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับพ.ต.ท.ชำนาญให้ออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย รวมถึงได้มีคำสั่งย้ายพ.ต.อ.ธวัชชัย เทพบุญ ผกก.สภ.ไชยปราการ ไปประจำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยไม่มีกำหนด พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่า เกี่ยวข้องกับบุคคลใดอีกหรือไม่ สำหรับคดีอาญาตั้งข้อหาพ.ต.ท.ชำนาญร่วมกันมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนน.ส.เหมย ให้การเป็นประโยชน์ แต่ยังดำเนินคดีข้อหาสมคบ คาดว่าเมื่อสอบปากคำทั้งหมดแล้ว จะขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก 2-3 คน
ด้านพ.ต.อ.ธวัชชัย กล่าวว่า พล.ต.อ.พงศพัศ มีคำสั่งย้ายตามระเบียบกติกา เนื่องตนเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพ.ต.ท.ชำนาญ ตามความผิดฐานไม่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดี จนเกิดเหตุร้ายแรง กระทบกับภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับพ.ต.ท.ชำนาญเป็นมือปราบที่มีฝีมือ เป็นคนเก่ง เป็นคนดีคนหนึ่ง ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ทำงานจริงจัง ไม่คิดเหมือนกันว่าจะหลงผิดก่อคดีขึ้นเอง จนกระทั่งถูกจับได้ และสั่นสะเทือนวงการเช่นนี้ คิดว่าคงเกิดความโลภครอบงำ จากการที่ฝ่ายผู้ค้ายาเสนอจำนวนเงินมหาศาลให้จนหลงผิด สำหรับตนไม่เคยรู้เห็นการกระทำผิดดังกล่าว และพร้อมถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน
อย่างไรก็ตามในวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ทหารพร้อมตำรวจ นำโดยพ.ต.อ.สังเวียน อินตากูล ผกก.สส. เข้าตรวจค้นบ้านของพ.ต.ท.ชำนาญ หลังแรกเลขที่ 112/225 หมู่บ้านเจนแอนด์จอย ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง หลังที่สองเลขที่ 353/3 หมู่บ้านสุขสวัสดิ์ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ทั้ง 2 หลังมีส.ต.ท.หญิง ยุพาภรณ์ พุ่มไพจิตร อายุ 27 ปี บุตรสาวนำตรวจค้น ซึ่งไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ทั้ง 2 หลังมีโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัลการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจำนวนมาก โดยได้บันทึกตรวจยึดบ้านทั้ง 2 หลัง รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน มูลค่าทรัพย์สินกว่า 10 ล้านบาท
วันเดียวกัน พ.อ.เศรษฐพล เกตุเต็ม เสนาธิการจังหวัดทหารบกน่าน ร่วมกับพ.ต.ท.อุทัย วงษ์คำแสน สว.สส.ภ.จว.น่าน นำกำลังเข้าจับกุมนายนิคม ถิ่นทิพย์ อายุ 59 ปี อาจารย์ 2 ระดับ 7 โรงเรียนบ้านมิตรมวลชน 3 บ้านน้ำว้า ต.น้ำพาง อ.แม่จริม จ.น่าน และนางนฤมล นาคสายยันต์ อายุ 40 ปี ภรรยา ที่บ้านเลขที่ 28/7 ถนนสวนตาลล่าง ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและผู้ปกครองว่าทั้งคู่ขายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในหมู่บ้าน พบทั้งคู่กำลังพักอยู่ในบ้าน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่นายนิคมถึงกับหน้าถอดสี ตรวจค้นพบยาบ้าห่อด้วยกระดาษฟลอยด์ซุกซ่อนอยู่ในแจกันดอกไม้ 40 เม็ด นอกหน้าต่างห้องนอน 2 เม็ด รวม 42 เม็ด อุปกรณ์การเสพ เงินสดอีกกว่า 3,000 บาท บัญชีเงินฝากธนาคารหลายเล่ม มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ซึ่งนายนิคมปฏิเสธว่าไม่ได้ขายยาบ้า อ้างว่ามีไว้เพื่อเสพแก้อาการหอบหืดเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงนำทั้งคู่ตรวจปัสสาวะปรากฏว่ามีสีม่วง จึงควบคุมตัพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมือง ขยายผลต่อไป