วานนี้ ( 18 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งใช้เป็นสถานที่ในการรับการเสนอชื่อจากองค์กรนิติบุคคลเพื่อสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)ระหว่างวันที่ 14 ส.ค-2 ก.ย. โดยบรรยากาศรับการเสนอชื่อในวันที่ 5 ยังคงมีผู้สนใจเดินทางมายื่นในสมัครอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นอดีตข้าราชการ ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ ในการเสนอตัวเข้ารับการสรรหา โดยพรรคชาติพัฒนา ได้ส่งตัวแทนของพรรค มายื่นเอกสารและเสนอชื่อ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตรองหัวหน้าพรรคชพน. เข้าสรรหาเป็น สปช. ด้านการเมือง
ทั้งนี้ พล.อ.ธวัชชัย เคยได้รับการแต่งตั้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ดำรงตำแหน่งเป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่ภายหลังได้ตรวจพบว่า มีคุณสมบัติต้องห้าม เนื่องจากเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงได้ลาออกจากตำแหน่ง สนช.ไป นอกจากนี้ด้านการเมือง ยังมีนายพรหมชาติ กองสินหลาก เสนอชื่อโดยพรรคเพื่อประชาชนด้วย
ด้านการปกครองท้องถิ่น มี 1 คน คือ นายทองดี นามแสงโคตร เสนอชื่อโดยองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสูง จ.สกลนคร ด้านการศึกษา มี 2 คน คือ นายเสนาะ หงษ์ฤทัย เสนอชื่อโดยโรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม และ นายปิยะ หมื่นแสน เสนอชื่อโดยวัดสว่างหนองขอม
ส่วนด้านสังคม มี 1 คน คือ นายเสน่ห์ ปุริสาย เสนอชื่อโดยพรรคเพื่อประชาชนไทย และด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม จำนวน 1 คน คือ นายสนธิ คชวัฒน์ เสนอชื่อมูลนิธิจิตอาสา
ส่วนตัวแทนของนายสมชาย ธนกุสุมาลย์ ที่ถูกเสนอชื่อโดยสภาวัฒนธรรมเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายไปเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ได้เดินทางมาขอถอนชื่อการเข้ารับการสรรหาเป็นสปช. เนื่องจากยังไม่มีเอกสารที่ยืนยันว่าองค์กรที่เสนอเป็นองค์กรนิติบุคคลที่ถูกต้องหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้า นายพงศ์พิชาญ ธนาถิรพงศ์ คนขับแท็กซี่ ที่เคยขับปาดหน้าขบวนรถนายกรัฐมนตรี และบุกเข้าไปในทำเนียบและรัฐสภา เดินทางมายื่นสมัคร แต่ไม่สามารถสมัครได้ เนื่องจากไม่มีองค์กรสนับสนุนในการเสนอชื่อ
ขณะที่นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ซึ่งมาตรวจดูความเรียบร้อยในการสมัครสปช.กล่าวว่า มั่นใจจะไม่มีการล็อบบี้ เนื่องจากกระบวนการสรรหาสปช.จังหวัด ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการในแต่ละจังหวัด ซึ่งในส่วนของ กกต. มีหน้าที่ในการรวบรวมเอกสารแล้วรายงานความคืบหน้าในการรับสมัครเท่านั้น โดยขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานสถานการณ์ที่ผิดปกติ แม้ กกต.จะไม่มีอำนาจเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสรรหา แต่ก็ต้องดูแลความเรียบร้อย หรือพฤติกรรมที่ส่อทุจริต เพื่อรายงานให้คณะ คสช. ทราบต่อไป
"หากมีข้อครหาเกี่ยวกับการทุจริตในการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหา สปช. ยังถือว่าไม่มีความผิด เพราะเป็นเพียงข้อครหาเท่านั้น แต่หากมีหลักฐานยืนยัน ก็สามารถดำเนินกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ได้" นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของ กกต.จะเสนอบุคคลเข้าร่วมกระบวนการสรรหา สปช. คาดว่าจะได้มติในวันที่ 20 ส.ค. นี้ ซึ่งต้องมีการหารือระหว่าง กกต.ทั้ง 5 คน เพื่อเสนอ 2 รายชื่อ เข้าร่วมสรรหาเป็นสปช. เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้ง ไม่ให้มีข้อบกพร่องเหมือนที่ผ่านมา
ด้านนายบุญเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาฯ กกต. ด้านบริหารกิจการการเลือกตั้ง กล่าวว่า กกต.ไม่มีอำนาจในการสรรหาบุคคลเป็นสมาชิกสปช. แต่ได้มีหนังสือกำชับไปยัง ผอ.กกต.จังหวัด เป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของกระบวนการสรรหา ให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้ง เพื่อให้การสรรหาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 19 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 คณะ ครั้งแรก
**ข่าวล็อกตัวสปช.ทำคนเข้ารับสรรหาน้อย
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวระหว่างตรวจความเรียบร้อยของการเปิดรับการเสนอชื่อสรรหาเป็น สปช. ถึงกรณีมีกระแสข่าว คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด มีการล็อกตัวบุคคลที่จะเป็น สปช.ไว้แล้วว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรคงต้องตรวจสอบกัน แต่ กกต.เมื่อทราบข่าว ก็ได้มีหนังสือไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด ให้แจ้งต่อประธานคณะกรรมการสรรหาว่า ขอให้ระมัดระวัง เนื่องจากมีกระแสข่าวเกิดขึ้น และถ้าเกิดขึ้นจริง ก็จะมีการรายงานให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับทราบ เชื่อว่าคสช. จะเอาจริง เพราะคสช. ต้องการได้คนที่มีความหลากหลายจากทุกสาขาอาชีพ และทุกเพศ
"อย่าง จ.อุตรดิตถ์ ที่มีกระแสข่าวดังกล่าว ผมได้คุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด ก็บอกว่าตอนนี้เปิดกว้างให้ผู้สนใจเข้ามายื่นเอกสาร หลักฐาน เพื่อเข้ารับการสรรหาเลย และบอกว่าจะให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ทุกคน รวมถึงทราบว่าอีกหลายจังหวัด ก็ใช้วิธีการนี้เช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้คณะกรรมการสรรหาส่วนใหญ่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีความรู้ มีประสบการณ์ ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด เชื่อว่าคงจะไม่ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และการสรรหา คงจะเป็นไปอย่างโปร่งใส" นายภุชงค์ กล่าว พร้อมยอมรับว่า กระแสข่าวการล็อกตัวบุคคลเป็น สปช.ไว้แล้วเป็นส่วนหนึ่งที่ อาจทำให้ องค์กรนิติบุคคลไม่อยากเข้ามาเสนอชื่อ เพราะรู้อยู่แล้วว่า ถ้าเข้ารับการเสนอชื่อแล้ว ก็จะไม่ได้รับการคัดเลือก
นายภุชงค์ ยังกล่าวด้วยว่า ในวันนี้ (19 ส.ค.) ตนและ นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง จะไปรายงานความคืบหน้าในการเปิดรับเสนอชื่อสรรหา สปช.ให้กับคณะที่ปรึกษาของ คสช.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน ซึ่งที่ปรึกษา คสช. ส่วนใหญ่ก็เป็นกรรมการสรรหาในคณะต่างๆ ว่า ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันในระดับจังหวัด และส่วนกลางมีองค์กรนิติบุคคลเข้าเสนอชื่อจำนวนเท่าใด รวมทั้งอาจจะเสนอถึงวิธีการสรรหาว่า คณะกรรมการสรรหาควรจะใช้วิธีการใดในการคัดเลือกบุคคล เช่น กรรมการสรรหาแต่ละคณะมี 7 คน ก็ให้ กรรมการแต่ละคนเลือกผู้ที่เหมาะสมมา 50 คน แล้วเมื่อประชุมคณะกรรมการเพื่อคัดก็ให้กรรมการเปิดรายชื่อที่ตนเองเลือกเพื่อรวมคะแนนเรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย
ทั้งนี้ นายภุชงค์ ยังเชื่อว่าในช่วง 3 วันสุดท้ายก่อนการปิดรับการเสนอชื่อ จะมีองค์กรนิติบุคคลเดินทางมาเสนอชื่อจำนวนมาก จึงอาจมีการปรับวิธีการรับการเสนอชื่อ โดยจะเพิ่มบุคคลากร แจกบัตรคิวให้กับผู้มาเสนอชื่อ รวมถึงจุดรับการเสนอชื่อให้มากขึ้น
**เสนอชื่อเข้าสรรหาสปช. 5 วัน 472 คน
ทั้งนี้ นายภุชงค์ แถลงสรุปยอดการเปิดรับเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.วันที่ 5 ว่า ตลอดทั้งวันมีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไร ยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในส่วนของสำนักงานกกต.กลาง จำนวน 9 ด้าน รวม 32 คน โดยเป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 29 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 3 คน
ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมี 150 คน รวมวันนี้ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ182 คน สรุป 5 วันของการเปิดรับการเสนอชื่อ มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามาจำนวน 126 คน สมัครทางจังหวัด 346 คน รวมทั้งสิ้น 472 คน ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาและอุปสรรคใดๆและคาดว่าตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. จะมีองค์กรนิติบุคคล และบุคคลต่างๆ มายื่นขอรับการสรรหามากขึ้น
ส่วนกรณีนางลีน่า จังจรรยา มีหนังสือแสดงความจำนงไม่ประสงค์เข้ารับการสรรหาว่า แม้นางลีน่า จะแจ้งความประสงค์ดังกล่าวแต่ในส่วนของกกต. ก็ไม่มีอำนาจที่จะตัดรายชื่อออกจากบัญชีผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้เป็น สปช. โดยกกต.จะส่งรายชื่อทั้งหมดให้คณะกรรมการสรรหาสปช. แต่จะมีการหมายเหตุแจ้งให้ทราบว่า มีความประสงค์ไม่ขอเข้ารับการสรรหา
**หนุนคสช.ใช้อำนาจพิเศษเร่งปฏิรูปฯ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ที่ไม่คึกคักเท่าที่ควรกับการดำเนินงานการปฏิรูปการเมืองของ คสช.ว่า เท่าที่ติดตามพบว่า คนประเภท ดี เด่น ดังไม่ค่อยให้ความสนใจ จึงกังวลว่า จะไม่สามารถสะท้อนข้อเท็จจริงได้เท่าที่ควร แม้จะมีตัวแทนพรรคการเมืองเข้าสมัคร แต่ใหญ่เป็นพรรคเล็กที่ไม่ค่อยมีส.ส.ในสภา ทั้งที่ คสช.ได้รับแรงสนับสนุนที่สะท้อนผ่านโพลล์ต่างๆสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์จึงควรใช้โอกาสนี้ปฎิรูปการเมือง โดยใช้อำนาจพิเศษในสถานการณ์พิเศษ ไม่ใช่ใช้อำนาจปกติในสถานการณ์พิเศษอย่างที่ทำขณะนี้ ที่ตั้งสนช. หรือ สปช.เนื่องจาก คสช.มีอำนาจ รัฐาธิปัตย์ อยู่ในมือ สามารถทำได้ว่าจะชูการปฏิรูปเรื่องใด ด้านใด เพราะการตั้งสนช .หรือ สปช.เท่ากับว่า ต้องการให้มีการมีส่วนร่วมจากหลายฝ่าย แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่า สนช.ที่ตั้งไม่หลากหลาย และกลับประกาศออกมาว่า เมื่อปฏิรูปแล้วจะไม่มีการทำประชามติอีก เท่ากับว่า ตัดการมีส่วนร่วมในภาคประชาชนหรือภาคสังคม จึงขัดแย้งกันเองในตัว
ทั้งนี้ พล.อ.ธวัชชัย เคยได้รับการแต่งตั้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ดำรงตำแหน่งเป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่ภายหลังได้ตรวจพบว่า มีคุณสมบัติต้องห้าม เนื่องจากเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงได้ลาออกจากตำแหน่ง สนช.ไป นอกจากนี้ด้านการเมือง ยังมีนายพรหมชาติ กองสินหลาก เสนอชื่อโดยพรรคเพื่อประชาชนด้วย
ด้านการปกครองท้องถิ่น มี 1 คน คือ นายทองดี นามแสงโคตร เสนอชื่อโดยองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสูง จ.สกลนคร ด้านการศึกษา มี 2 คน คือ นายเสนาะ หงษ์ฤทัย เสนอชื่อโดยโรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม และ นายปิยะ หมื่นแสน เสนอชื่อโดยวัดสว่างหนองขอม
ส่วนด้านสังคม มี 1 คน คือ นายเสน่ห์ ปุริสาย เสนอชื่อโดยพรรคเพื่อประชาชนไทย และด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม จำนวน 1 คน คือ นายสนธิ คชวัฒน์ เสนอชื่อมูลนิธิจิตอาสา
ส่วนตัวแทนของนายสมชาย ธนกุสุมาลย์ ที่ถูกเสนอชื่อโดยสภาวัฒนธรรมเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายไปเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ได้เดินทางมาขอถอนชื่อการเข้ารับการสรรหาเป็นสปช. เนื่องจากยังไม่มีเอกสารที่ยืนยันว่าองค์กรที่เสนอเป็นองค์กรนิติบุคคลที่ถูกต้องหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้า นายพงศ์พิชาญ ธนาถิรพงศ์ คนขับแท็กซี่ ที่เคยขับปาดหน้าขบวนรถนายกรัฐมนตรี และบุกเข้าไปในทำเนียบและรัฐสภา เดินทางมายื่นสมัคร แต่ไม่สามารถสมัครได้ เนื่องจากไม่มีองค์กรสนับสนุนในการเสนอชื่อ
ขณะที่นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ซึ่งมาตรวจดูความเรียบร้อยในการสมัครสปช.กล่าวว่า มั่นใจจะไม่มีการล็อบบี้ เนื่องจากกระบวนการสรรหาสปช.จังหวัด ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการในแต่ละจังหวัด ซึ่งในส่วนของ กกต. มีหน้าที่ในการรวบรวมเอกสารแล้วรายงานความคืบหน้าในการรับสมัครเท่านั้น โดยขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานสถานการณ์ที่ผิดปกติ แม้ กกต.จะไม่มีอำนาจเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสรรหา แต่ก็ต้องดูแลความเรียบร้อย หรือพฤติกรรมที่ส่อทุจริต เพื่อรายงานให้คณะ คสช. ทราบต่อไป
"หากมีข้อครหาเกี่ยวกับการทุจริตในการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหา สปช. ยังถือว่าไม่มีความผิด เพราะเป็นเพียงข้อครหาเท่านั้น แต่หากมีหลักฐานยืนยัน ก็สามารถดำเนินกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ได้" นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของ กกต.จะเสนอบุคคลเข้าร่วมกระบวนการสรรหา สปช. คาดว่าจะได้มติในวันที่ 20 ส.ค. นี้ ซึ่งต้องมีการหารือระหว่าง กกต.ทั้ง 5 คน เพื่อเสนอ 2 รายชื่อ เข้าร่วมสรรหาเป็นสปช. เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้ง ไม่ให้มีข้อบกพร่องเหมือนที่ผ่านมา
ด้านนายบุญเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาฯ กกต. ด้านบริหารกิจการการเลือกตั้ง กล่าวว่า กกต.ไม่มีอำนาจในการสรรหาบุคคลเป็นสมาชิกสปช. แต่ได้มีหนังสือกำชับไปยัง ผอ.กกต.จังหวัด เป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของกระบวนการสรรหา ให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้ง เพื่อให้การสรรหาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 19 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 คณะ ครั้งแรก
**ข่าวล็อกตัวสปช.ทำคนเข้ารับสรรหาน้อย
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวระหว่างตรวจความเรียบร้อยของการเปิดรับการเสนอชื่อสรรหาเป็น สปช. ถึงกรณีมีกระแสข่าว คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด มีการล็อกตัวบุคคลที่จะเป็น สปช.ไว้แล้วว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรคงต้องตรวจสอบกัน แต่ กกต.เมื่อทราบข่าว ก็ได้มีหนังสือไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด ให้แจ้งต่อประธานคณะกรรมการสรรหาว่า ขอให้ระมัดระวัง เนื่องจากมีกระแสข่าวเกิดขึ้น และถ้าเกิดขึ้นจริง ก็จะมีการรายงานให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับทราบ เชื่อว่าคสช. จะเอาจริง เพราะคสช. ต้องการได้คนที่มีความหลากหลายจากทุกสาขาอาชีพ และทุกเพศ
"อย่าง จ.อุตรดิตถ์ ที่มีกระแสข่าวดังกล่าว ผมได้คุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด ก็บอกว่าตอนนี้เปิดกว้างให้ผู้สนใจเข้ามายื่นเอกสาร หลักฐาน เพื่อเข้ารับการสรรหาเลย และบอกว่าจะให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ทุกคน รวมถึงทราบว่าอีกหลายจังหวัด ก็ใช้วิธีการนี้เช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้คณะกรรมการสรรหาส่วนใหญ่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีความรู้ มีประสบการณ์ ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด เชื่อว่าคงจะไม่ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และการสรรหา คงจะเป็นไปอย่างโปร่งใส" นายภุชงค์ กล่าว พร้อมยอมรับว่า กระแสข่าวการล็อกตัวบุคคลเป็น สปช.ไว้แล้วเป็นส่วนหนึ่งที่ อาจทำให้ องค์กรนิติบุคคลไม่อยากเข้ามาเสนอชื่อ เพราะรู้อยู่แล้วว่า ถ้าเข้ารับการเสนอชื่อแล้ว ก็จะไม่ได้รับการคัดเลือก
นายภุชงค์ ยังกล่าวด้วยว่า ในวันนี้ (19 ส.ค.) ตนและ นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง จะไปรายงานความคืบหน้าในการเปิดรับเสนอชื่อสรรหา สปช.ให้กับคณะที่ปรึกษาของ คสช.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน ซึ่งที่ปรึกษา คสช. ส่วนใหญ่ก็เป็นกรรมการสรรหาในคณะต่างๆ ว่า ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันในระดับจังหวัด และส่วนกลางมีองค์กรนิติบุคคลเข้าเสนอชื่อจำนวนเท่าใด รวมทั้งอาจจะเสนอถึงวิธีการสรรหาว่า คณะกรรมการสรรหาควรจะใช้วิธีการใดในการคัดเลือกบุคคล เช่น กรรมการสรรหาแต่ละคณะมี 7 คน ก็ให้ กรรมการแต่ละคนเลือกผู้ที่เหมาะสมมา 50 คน แล้วเมื่อประชุมคณะกรรมการเพื่อคัดก็ให้กรรมการเปิดรายชื่อที่ตนเองเลือกเพื่อรวมคะแนนเรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย
ทั้งนี้ นายภุชงค์ ยังเชื่อว่าในช่วง 3 วันสุดท้ายก่อนการปิดรับการเสนอชื่อ จะมีองค์กรนิติบุคคลเดินทางมาเสนอชื่อจำนวนมาก จึงอาจมีการปรับวิธีการรับการเสนอชื่อ โดยจะเพิ่มบุคคลากร แจกบัตรคิวให้กับผู้มาเสนอชื่อ รวมถึงจุดรับการเสนอชื่อให้มากขึ้น
**เสนอชื่อเข้าสรรหาสปช. 5 วัน 472 คน
ทั้งนี้ นายภุชงค์ แถลงสรุปยอดการเปิดรับเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.วันที่ 5 ว่า ตลอดทั้งวันมีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไร ยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในส่วนของสำนักงานกกต.กลาง จำนวน 9 ด้าน รวม 32 คน โดยเป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 29 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 3 คน
ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมี 150 คน รวมวันนี้ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ182 คน สรุป 5 วันของการเปิดรับการเสนอชื่อ มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามาจำนวน 126 คน สมัครทางจังหวัด 346 คน รวมทั้งสิ้น 472 คน ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาและอุปสรรคใดๆและคาดว่าตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. จะมีองค์กรนิติบุคคล และบุคคลต่างๆ มายื่นขอรับการสรรหามากขึ้น
ส่วนกรณีนางลีน่า จังจรรยา มีหนังสือแสดงความจำนงไม่ประสงค์เข้ารับการสรรหาว่า แม้นางลีน่า จะแจ้งความประสงค์ดังกล่าวแต่ในส่วนของกกต. ก็ไม่มีอำนาจที่จะตัดรายชื่อออกจากบัญชีผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้เป็น สปช. โดยกกต.จะส่งรายชื่อทั้งหมดให้คณะกรรมการสรรหาสปช. แต่จะมีการหมายเหตุแจ้งให้ทราบว่า มีความประสงค์ไม่ขอเข้ารับการสรรหา
**หนุนคสช.ใช้อำนาจพิเศษเร่งปฏิรูปฯ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ที่ไม่คึกคักเท่าที่ควรกับการดำเนินงานการปฏิรูปการเมืองของ คสช.ว่า เท่าที่ติดตามพบว่า คนประเภท ดี เด่น ดังไม่ค่อยให้ความสนใจ จึงกังวลว่า จะไม่สามารถสะท้อนข้อเท็จจริงได้เท่าที่ควร แม้จะมีตัวแทนพรรคการเมืองเข้าสมัคร แต่ใหญ่เป็นพรรคเล็กที่ไม่ค่อยมีส.ส.ในสภา ทั้งที่ คสช.ได้รับแรงสนับสนุนที่สะท้อนผ่านโพลล์ต่างๆสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์จึงควรใช้โอกาสนี้ปฎิรูปการเมือง โดยใช้อำนาจพิเศษในสถานการณ์พิเศษ ไม่ใช่ใช้อำนาจปกติในสถานการณ์พิเศษอย่างที่ทำขณะนี้ ที่ตั้งสนช. หรือ สปช.เนื่องจาก คสช.มีอำนาจ รัฐาธิปัตย์ อยู่ในมือ สามารถทำได้ว่าจะชูการปฏิรูปเรื่องใด ด้านใด เพราะการตั้งสนช .หรือ สปช.เท่ากับว่า ต้องการให้มีการมีส่วนร่วมจากหลายฝ่าย แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่า สนช.ที่ตั้งไม่หลากหลาย และกลับประกาศออกมาว่า เมื่อปฏิรูปแล้วจะไม่มีการทำประชามติอีก เท่ากับว่า ตัดการมีส่วนร่วมในภาคประชาชนหรือภาคสังคม จึงขัดแย้งกันเองในตัว