xs
xsm
sm
md
lg

สรรหา สปช.ไม่เปรี้ยง จอดตั้งแต่ยังไม่แจว??

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ตั้งแต่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย่างกรายเข้ามายึดอำนาจการปกครองประเทศ ก็มักมีคำถามไปถึงการดำรงอยู่ของบรรดาองค์กรอิสระต่างๆอยู่เนืองๆ ว่าจะถูกหางเลข ต้องตกงานไปด้วยหรือไม่
โดยเฉพาะในส่วนของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีหน้าที่โดยตรง ในการจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศ
**เพราะ คสช.มีความชัดเจนว่าในช่วงของการปัดกวาดเช็ดถูประเทศนั้น จะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด ทั้งในระดับประเทศ หรือแม้แต่นะดับท้องถิ่นก็ตาม เนื่องเพราะบรรยากาศไม่เอื้ออำนวย เกรงว่าการเลือกตั้งจะเป็นเชื้อปะทุให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก
เมื่อรูปการณ์เป็นเช่นนี้ กกต.ก็เสมือนตกอยู่ในภวังค์สุญญากาศไปโดยปริยาย และไม่ต่างอะไรกับ “คนว่างงาน”จนมีบางช่วงที่ข่าวลือหนาหูว่า กกต.จะถูกยุบชั่วคราว คสช.จะไม่เลี้ยงไว้ให้เสียข้าวสุก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่-พนักงานของกกต. เกิดอาการเครียดที่คิดว่าจะต้องตกงาน ร้อนถึง 5 เสือ กกต. ต้องมาปลอบประโลมกันยกใหญ่
ยังดีที่เมื่อเข้าสู่ระยะที่ 2 ของคสช. มีขั้นตอนในการสรรหาผู้ที่จะมานั่งเป็น สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่ง กกต.ได้รับมอบหมายให้ดูแลในขั้นตอนการรับสมัคร ก่อนส่งชื่อให้คณะกรรมการสรรหา และ คสช.คัดเลือกในขั้นสุดท้าย
บรรยากาศเหี่ยวเฉาที่สำนักงาน กกต.กลับสดใสขึ้น ประหนึ่ง “ปลากะดี่ได้น้ำ”ขึ้นมาในบันดล โดยไม่สนใจว่า บทบาทหน้าที่ที่ คสช.มอบให้นั้น ไม่ต่างอะไรกับฝ่ายธุรการ ลงทะเบียน-รับสมัคร-ตรวจเอกสาร เรียกได้ว่าเป็นเพียงฝ่ายเลขานุการ ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานเอกสารเท่านั้น
**แต่งานที่คิดว่าหมู กลับไม่หมูอย่างที่คิด เพราะผ่านไปร่วมสัปดาห์ของกระบวนการสรรหา สปช. ดูจะผิดจากเป้าที่วางไว้ จนถึงนาทีนี้ยังมีคนมาสมัครรวมแล้วไม่ถึง 500 คน จากที่ประเมินไว้ราว 2,000 - 3,000 คนทั่วประเทศ
ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นก็มาจากกระบวนการสรรหาที่หลายฝ่ายตั้งคำถาม ทั้งในส่วนของ 11 กลุ่มปัญหาที่ คสช.กำหนดไว้ หรือแม้แต่การคัดเลือกตัวแทนในส่วนของจังหวัดก็ตาม โดยสูตรที่ คสช.วางไว้นั้น พยายามเปิดกว้างให้ทุกคนในประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการสรรหา สปช. เพื่อให้เกิดความหลากหลายมากที่สุดตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการให้แต่ละจังหวัดเสนอรายชื่อบุคคล 5 รายชื่อให้ คสช. คัดเลือกจนเหลือจังหวัดละ 1 คน หรือการเปิดโอกาสให้องค์กรนิติบุคคลไม่แสวงหากำไร ซึ่งหมายรวมไปถึงพรรคการเมืองต่างๆ เสนอรายชื่อผ่านกกต.เพื่อให้คณะกรรมการสรรหา สปช. 11 คณะคัดเลือกให้เหลือด้านละ 50 คน ก่อนที่ คสช. จะเป็นผู้เขย่าตะกร้าเหลือ 173 คน
**เบ็ดเสร็จเป็น 250 คนที่จะได้เดินเข้าสภาหินอ่อนในฐานะ สปช.
แต่เอาเข้าจริงเมื่อกระบวนการเริ่มขึ้นมา โรดแมปสรรหา สปช.ไม่เป็นอย่างที่ คสช. และคณะกุนซือวาดภาพไว้ ยังมีการลักลั่นอยู่ในหลายจุด
ตั้งแต่สรรหา สปช. ใน 11 ด้าน ที่เมื่อพลิกดูรายชื่อคณะกรรมการสรรหาที่มีด้านละ 7 คนแล้ว ก็เกิดคำถามขึ้นต่างๆ นานา เพราะ คสช.เล่นส่งคณะที่ปรึกษา-มือทำงานเข้ามาควบคุมการผลิตเต็มพรึ่บ ทั้ง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ”ประธานคณะที่ปรึกษา คสช.ดูด้านการเมือง “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา”ดูด้านการปกครองท้องถิ่น “วิษณุ เครืองาม”ดูด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ก็ให้ “พรเพชร วิชิตชลชัย”ประธาน สนช. เป็นผู้ควบคุม เป็นต้น
อาจจะเป็นด้วยความไม่ถูกใจตั้งแต่เห็นรายชื่อ 77 อรหันต์ที่ออกมา ส่งผลให้การตอบรับที่จะเสนอชื่อเข้าร่วมประกวดเป็น สปช.ไม่ฮือฮาอย่างที่คาด โดยเฉพาะในส่วนของฝ่ายการเมือง ที่พรรคขนาดใหญ่ดูจะหวาดระแวง ประกาศไม่เข้าร่วมเป็นส่วนใหญ่
จะมีก็แต่ “พรรคภูมิใจไทย”โดย “อนุทิน ชาญวีรกุล”หัวหน้าพรรค ที่ชิงเสนอ “ปู่ชัย ชิดชอบ”ผู้มากประสบการณ์ร่วมวงสรรหาก่อนใครเพื่อน คล้อยหลังไม่นานก็เป็น“พรรคชาติพัฒนา”ประกาศส่ง "บิ๊กเยิ้ม" พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร ผู้พลาดหวังจากเวที สนช.ร่วมประกวดเป็น สปช. ด้วยอีกคน
ขณะที่พรรคขนาดใหญ่อื่นๆ ยังคงสงบนิ่ง เหมือนตั้งแง่ไม่ร่วมกระบวนการกับคณะรัฐประหาร
ส่วนการสรรหาของจังหวัดต่างๆ ก็ตะกุกตะกักไม่แพ้กัน แม้ว่าตาม พ.ร.ฏ.ว่าด้วยการสรรหา สปช. ได้เขียนเปิดกว้างให้กรรมการสรรหาของจังหวัดสรรหาบุคคลที่สมควรได้รับเสนอมาให้ คสช. คัดเลือก ซึ่งบางจังหวัดก็เปิดให้รับสมัคร ขณะที่ที่บางจังหวัดก็อ้างว่า ระยะเวลา 20 วันที่กำหนดไว้ อาจไม่เพียงพอในการเฟ้นหาตัวบุคคล จึงใช้วิธีการทาบทามแทน
**จึงเป็นที่มาของเสียงติติงของ“รัชฎาภรณ์ แก้วสนิท”อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ก่อนหน้านี้ได้รณรงค์สมาชิกกว่า 60 องค์กรทั่วประเทศ ให้ส่งสตรีในพื้นที่ต่างๆ ร่วมคัดสรรเป็นสปช.ในแต่ละจังหวัด แต่กลับพบปัญหาว่า ในระดับท้องถิ่นเลือกใช้วิธีการทาบทามตัวบุคคลที่ง่ายต่อการ “ล็อกตัว”มากกว่าการคัดสรรอย่างเป็นธรรม และมองว่ากระบวนการ “เพี้ยน”เพราะฝีมือของ “วิษณุ เครืองาม”ที่เป็นคนร่างกติกาแบบนี้
เชื่อว่าตรงนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไม่มีใครอยากร่วมเสนอชื่อ เพราะเกรงว่าจะตกขบวน เสียฟอร์ม-เสียหน้ากันไป
แม้แต่ กกต.เองก็ยอมรับว่ามีกระแสข่าว “ล็อกตัว”จนต้องออกหนังสือด่วนเตือนไปตามจังหวัดต่างๆ
หวังว่าหลังจากนี้ คสช.-กกต. จะรีบเคลียร์ปัญหาต่างๆให้ลงตัว เพื่อให้กระบวนการสรรหา สปช. เป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ หากยังมีข้อสงสัยในเรื่องความโปร่งใสแล้ว ก็ย่อมส่งผลต่อ สปช. ที่จะมาเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร
**หากยังเคลียร์ปมไม่ได้ ก็กลัวว่าแม่น้ำสายนี้จะแห้งเหือด เกินกว่าที่นาวา สปช. จะแจวกันต่อไปได้ ซึ่งย่อมส่งผลกับโรดแมปของ คสช. ทั้งองคาพยพด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น