00 เวลานี้หากประเมินจากกระแสตอบรับ ทั้งแรงเชียร์ แรงยุ มีทั้งพวกหวังดี รวมทั้งหวังดีแต่ประสงค์ร้าย ล้วนสนับสนุนเป็นเอกภาพให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. นั่งควบเก้าอี้นายกฯ เสียเลย จะได้หมดเรื่องหมดราว เพราะไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จะมานั่งกระมิดกระเมี้ยนมันก็ใช่ที่ ถึงอย่างไรไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็น มันก็ต้องถูกวิจารณ์วันยังค่ำ ภาพลักษณ์วันนี้มันเป็นรูปแบบเผด็จการเต็มร้อย เพียงแต่ว่าขึ้นอยู่กับแนวทางการใช้อำนาจ ว่าจะมุ่งไปทางไหนเท่านั้นเอง และในเมื่อประกาศชัดแล้วว่า ทั้งคสช.และรัฐบาลที่จะมีขึ้นมา หรือแม้แต่สภาปฏิรูปแห่งชาติ รวมไปถึงสภา นิติบัญญัติ รธน.ก็ล้วนใช้ชั่วคราว เป็นแบบเฉพาะกาลในช่วงเวลาจำกัดเท่านั้น ไม่ใช่ถาวร ก็เอาเลย ใช้อำนาจให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่สำคัญที่สุดคือต้องเดินไปถึงเป้าหมายที่ประกาศเอาไว้อย่างแท้จริง และระหว่างทางก็ไม่ควรตุกติก
00 ดังนั้นในภาวะเวลาจำกัด มันก็ต้องเสี่ยงรวมศูนย์อำนาจทุกอย่าง เพื่อให้การขับเคลื่อนไปถึงเป้าหมาย และเวลานี้ในความเป็นจริงอำนาจมันก็อยู่ในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช. อย่างเต็มที่อยู่แล้ว แล้วการที่จะนั่งควบเก้าอี้นายกฯ มันก็ไม่เสียหาย ตรงกันข้ามผลดีจะตามมาทั้งเรื่องทิศทาง ความเข้าใจตรงกันระหว่างรัฐบาล สนช.และคสช.สภาปฏิรูป แล้วไปถึงรัฐธรรมนูญที่ต้องร่างไปตามแนวทางปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน ทุกอย่างจะไม่ผิดเพี้ยน หรือถ้าเพี้ยนก็เพี้ยนเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียว จะได้จัดการไม่ผิดคน แต่ที่สำคัญที่ผ่านมา เขาก็ได้ประกาศความรับ ผิดชอบคนเดียวไปแล้ว ซึ่งตามหลักการก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะถึงขนาดเสี่ยงยึดอำนาจมันก็ต้องรับประกันความเสี่ยงตามมา
00 สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ หากพิจารณาจากคำพูดของ "กุนซือใหญ่" อย่าง วิษณุ เครืองาม ที่บอกว่าอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะได้ตัวนายกฯ จากนั้นก็จะได้รัฐบาล และภายในต้นเดือนก.ย. ก็จะแถลงนโยบายต่อสภาฯ ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ ดังนั้นถ้าพิจารณาจากโรดแมปดังกล่าว ก็ไม่น่าผิดพลาด เพราะกำหนดเอาไว้แบบเป็นขั้นเป็นตอน ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากเสียงสนับสนุนที่สะท้อนออกมาจากโพลต่างๆ ก็ไม่มีปัญหา รวมทั้งแรงเชียร์จากพวกเดียวกัน จากคนในกองทัพ นักธุรกิจ ต่างก็เทเสียงมาทาง "ลุงตู่" ทั้งสิ้น เอาเป็นว่าถ้าผิดไปจากนี้สิแปลก
00 สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ คนสวย ตามกำหนดบอกว่าจะกลับไทยวันที่ 10 ส.ค. สังคมก็รับรู้กันอย่างนั้น แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แวว มีแต่ข่าวว่า มอบหมายให้คนใกล้ชิดไปยื่นหนังสือต่อ คสช. ขอขยายเวลาออกไปถึง 31 ส.ค. แต่ทาง คสช. ก็ปฏิเสธว่ายังไม่มีการยื่นเรื่องขอขยายเวลาดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้นก็ต้องรอกันต่อไป ว่าจะกลับมาหรือไม่ แต่แนวโน้มดูเหมือนจะต้องขอเลื่อนออกไปก่อน เป็นไปได้สูง ส่วนจะ"หนี"ไปเลยตอนนี้คงไม่น่าเป็นไปได้ เพราะยังเหลือเวลาอีกนาน กว่าศาลจะตัดสินชี้ขาดออกมา อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาเป็นปี
00 เริ่มมีเสียงติติงกันมากขึ้นสำหรับ พรเพชร วิชิตชลชัย ว่าที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ยังนั่งคาตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินอีกตำแหน่งหนึ่ง แม้ว่าในทางกม.ไม่ห้ามเอาไว้ แต่ดูแล้วมันไม่สง่างาม ทำให้เครดิตของตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องหมองลงไปเหมือนกัน หวังว่าเจ้าตัวต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะอย่างน้อยในเมื่อเรากำลังเดินไปสู่เส้นทางปฏิรูป แม้ว่าจะเป็นยุคเผด็จการ ก็ขอเป็นแต่รูปแบบ แต่ขอให้เนื้อหาวันหน้าเป็นการปฏิรูปแบบยกเครื่องกันใหม่ ตั้งแต่สปิริต คุณธรรม ของคนที่อยู่ในวงการเมือง อย่างน้อยต้องไม่ยึดติดกับตำแหน่งแห่งที่ !!
00 ดังนั้นในภาวะเวลาจำกัด มันก็ต้องเสี่ยงรวมศูนย์อำนาจทุกอย่าง เพื่อให้การขับเคลื่อนไปถึงเป้าหมาย และเวลานี้ในความเป็นจริงอำนาจมันก็อยู่ในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช. อย่างเต็มที่อยู่แล้ว แล้วการที่จะนั่งควบเก้าอี้นายกฯ มันก็ไม่เสียหาย ตรงกันข้ามผลดีจะตามมาทั้งเรื่องทิศทาง ความเข้าใจตรงกันระหว่างรัฐบาล สนช.และคสช.สภาปฏิรูป แล้วไปถึงรัฐธรรมนูญที่ต้องร่างไปตามแนวทางปฏิรูปทั้ง 11 ด้าน ทุกอย่างจะไม่ผิดเพี้ยน หรือถ้าเพี้ยนก็เพี้ยนเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียว จะได้จัดการไม่ผิดคน แต่ที่สำคัญที่ผ่านมา เขาก็ได้ประกาศความรับ ผิดชอบคนเดียวไปแล้ว ซึ่งตามหลักการก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะถึงขนาดเสี่ยงยึดอำนาจมันก็ต้องรับประกันความเสี่ยงตามมา
00 สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ หากพิจารณาจากคำพูดของ "กุนซือใหญ่" อย่าง วิษณุ เครืองาม ที่บอกว่าอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะได้ตัวนายกฯ จากนั้นก็จะได้รัฐบาล และภายในต้นเดือนก.ย. ก็จะแถลงนโยบายต่อสภาฯ ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ ดังนั้นถ้าพิจารณาจากโรดแมปดังกล่าว ก็ไม่น่าผิดพลาด เพราะกำหนดเอาไว้แบบเป็นขั้นเป็นตอน ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากเสียงสนับสนุนที่สะท้อนออกมาจากโพลต่างๆ ก็ไม่มีปัญหา รวมทั้งแรงเชียร์จากพวกเดียวกัน จากคนในกองทัพ นักธุรกิจ ต่างก็เทเสียงมาทาง "ลุงตู่" ทั้งสิ้น เอาเป็นว่าถ้าผิดไปจากนี้สิแปลก
00 สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ คนสวย ตามกำหนดบอกว่าจะกลับไทยวันที่ 10 ส.ค. สังคมก็รับรู้กันอย่างนั้น แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แวว มีแต่ข่าวว่า มอบหมายให้คนใกล้ชิดไปยื่นหนังสือต่อ คสช. ขอขยายเวลาออกไปถึง 31 ส.ค. แต่ทาง คสช. ก็ปฏิเสธว่ายังไม่มีการยื่นเรื่องขอขยายเวลาดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้นก็ต้องรอกันต่อไป ว่าจะกลับมาหรือไม่ แต่แนวโน้มดูเหมือนจะต้องขอเลื่อนออกไปก่อน เป็นไปได้สูง ส่วนจะ"หนี"ไปเลยตอนนี้คงไม่น่าเป็นไปได้ เพราะยังเหลือเวลาอีกนาน กว่าศาลจะตัดสินชี้ขาดออกมา อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาเป็นปี
00 เริ่มมีเสียงติติงกันมากขึ้นสำหรับ พรเพชร วิชิตชลชัย ว่าที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ยังนั่งคาตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินอีกตำแหน่งหนึ่ง แม้ว่าในทางกม.ไม่ห้ามเอาไว้ แต่ดูแล้วมันไม่สง่างาม ทำให้เครดิตของตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องหมองลงไปเหมือนกัน หวังว่าเจ้าตัวต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะอย่างน้อยในเมื่อเรากำลังเดินไปสู่เส้นทางปฏิรูป แม้ว่าจะเป็นยุคเผด็จการ ก็ขอเป็นแต่รูปแบบ แต่ขอให้เนื้อหาวันหน้าเป็นการปฏิรูปแบบยกเครื่องกันใหม่ ตั้งแต่สปิริต คุณธรรม ของคนที่อยู่ในวงการเมือง อย่างน้อยต้องไม่ยึดติดกับตำแหน่งแห่งที่ !!
