00 เป็นไงบ้างพี่น้อง สำหรับโฉมหน้าของ สนช. ที่เพิ่งประกาศแต่งตั้งมา 200 คน เชื่อว่าหลายคนคงเริ่มเห็น "อะไรบางอย่าง" กันแล้วใช่มั๊ย พอมองเห็นแนวโน้มในวันข้างหน้าว่าจะมีทางปฏิรูปในแนวทางที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการหรือไม่ หรือว่าเป็นการปฏิรูปในแนวทางของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะเพียงกลุ่มเดียว หรือไม่ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปตำรวจ การกระจายอำนาจที่เสนอมาจากคนกันเองหรือเปล่า ก็เริ่มมีสัญญาณบางอย่างออกมาให้เห็น แต่ไม่เป็นไร รอให้ถึงตอนนั้นก่อนก็ได้ว่าจะออกมาแบบไหน ถ้าผิดเพี้ยนก็โวยวายกันทีเดียว ยังไม่สาย
00 อย่างไรก็ดี นาทีนี้ยังจำเป็นต้องขัดคอ "ลุงตู่" กันบ้าง ประเภทจะให้รอดูไปก่อน หรือให้รอจนผลงานออกมาเรียบร้อยเสียก่อน ทำนองอย่าเพิ่งชักใบให้เรือเสีย เห็นจะไม่ได้หรอก หากรอถึงตอนนั้น ถ้ามัน"เสร็จโจร"ไปแล้วจะแก้ไขไม่ทัน ดังนั้นเองเป็นว่าช่วงที่กำลังทำ หรือพอเห็นหน้าตาคนที่จะมาทำ ต้องขอวิจารณ์ติติงกันเสียก่อน เพราะถือว่าทุกคนต้องร่วมเป็นเจ้าของ ไม่ใช่ คสช. หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงคนเดียว เพราะปัญหาบ้านเมืองมันหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่คนเพียงคนเดียวจะแบกไหว โอเค เมื่อมีอำนาจมากก็ต้องรับผิดชอบมากเป็นธรรมดา แต่ก็นั่นแหละ เมื่อมีอำนาจมากมันก็มีโอกาสผิดพลาดมากเช่นเดียวกัน เพราะคนรอบข้างบางทีก็ไม่พูดความจริง หรือ "เลีย" จนเพี้ยนก็เคยมีตัวอย่างในอดีตให้เห็นมากแล้ว ดังนั้นก็ไม่อยากให้ซ้ำรอยเดิมจนเสียคน เสียของ เปล่าๆ
00 ตัวอย่างที่ทะแม่ง และต้องพูดกันแบบตรงไปตรงมาก็คือ หน้าตาของสนช. ที่ออกมาแม้ว่าไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมาย เป็นสภา "ท็อปบู๊ท" และถึงแม้ว่าไม่อยากให้เรียกว่าเป็นระบบโควตา แต่รายชื่อที่ออกมาก็ใช่ยิ่งกว่าใช่ บางคนมาแบบ "ได้ดีเพราะพี่ให้" อย่าง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้ากุนซือใหญ่ของหัวหน้าคสช. ที่ยกกันมาเป็นแผง ที่โดดเด่นเห็นชัดกว่าใครก็คือ พล.อ.นพดล อินทปัญญา และที่ต้องตั้งคำถามก็คือ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เพิ่งถูกเด้งพ้นเก้าอี้ ตอนเริ่มคสช. กันใหม่ๆกลับติดโผเข้ามาหน้าตาเฉย รู้ทั้งรู้ว่ารายนี้คือ สัญญลักษณ์ของระบอบ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" แต่เมื่อไม่ให้ถาม ก็ไม่เป็นไร รอถามรวดเดียวคราวหน้าแล้วกัน
00 นาทีนี้เหลือชิงดำเก้าอี้ประธาน สนช. เพียงสองคนเท่านั้นคือ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย กับ พรเพชร วิชิตชลชัย ซึ่งเชื่อว่ารายหลังน่าจะเข้าวิน เพราะถ้ามากันแบบ "เล็งเห็นผล" ภายหน้าก็ต้องเอาแบบนี้แหละ ดังนั้นทั้งตัวบุคคลที่มาเป็น สนช. ที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้ ตัวประธานสภา ก็ต้องเลือกคนใกล้ชิดใกล้ตัวมาทำหน้าที่กำกับภารกิจพิเศษเฉพาะกิจให้สำเร็จตามกำหนดเวลา
00 เขาบอกว่าให้จับตา สปช. กันว่าระดับบิ๊กเนมหลายคนจะไปกระจุกอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็น บวรศักดิ์ อุวรรณโณ มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นต้น ขณะที่ วิษณุ เครืองาม แม้จะออกตัวว่า ไม่รับตำแหน่งใดๆ แต่ก็ยังเชื่อว่าถึงเวลาจริงๆ น่าจะปฏิเสธคำขอร้องให้ไปนั่งเก้าอี้รองนายกฯ ฝ่ายกม.ไม่ได้ ไหนๆ ก็ไหนๆ ลงมาช่วยดูแลกันมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่เรื่องร่างประกาศ คำสั่ง คสช. จนถึงหัวหน้าทีมร่างรธน.ฉบับชั่วคราวกันมาแล้ว มันก็ต้องส่งให้ถึงฝั่งไปเลย !!
00 เมื่อพูดถึงตำแหน่งรองนายกฯกันไปแล้ว ต่อไปก็ต้องมองกันไปล่วงหน้าถึงตำแหน่ง รมต.คนสำคัญบางตำแหน่ง ที่คาดหมายกันไว้นานแล้ว เช่น รมว.คมนาคม ไม่น่าจะหนีไปจาก พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ซึ่งรายนี้อาจควบรองนายกฯ ด้วยก็ได้ ส่วนคนที่จะมานั่งควบนายกฯ นั้นค่อนข้างแบเบอร์แล้วว่า ต้องเป็น "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ไม่น่าจะผิดพลาด เพราะทุกทางไหลมาทางนี้หมดแล้ว !!
00 อย่างไรก็ดี นาทีนี้ยังจำเป็นต้องขัดคอ "ลุงตู่" กันบ้าง ประเภทจะให้รอดูไปก่อน หรือให้รอจนผลงานออกมาเรียบร้อยเสียก่อน ทำนองอย่าเพิ่งชักใบให้เรือเสีย เห็นจะไม่ได้หรอก หากรอถึงตอนนั้น ถ้ามัน"เสร็จโจร"ไปแล้วจะแก้ไขไม่ทัน ดังนั้นเองเป็นว่าช่วงที่กำลังทำ หรือพอเห็นหน้าตาคนที่จะมาทำ ต้องขอวิจารณ์ติติงกันเสียก่อน เพราะถือว่าทุกคนต้องร่วมเป็นเจ้าของ ไม่ใช่ คสช. หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงคนเดียว เพราะปัญหาบ้านเมืองมันหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่คนเพียงคนเดียวจะแบกไหว โอเค เมื่อมีอำนาจมากก็ต้องรับผิดชอบมากเป็นธรรมดา แต่ก็นั่นแหละ เมื่อมีอำนาจมากมันก็มีโอกาสผิดพลาดมากเช่นเดียวกัน เพราะคนรอบข้างบางทีก็ไม่พูดความจริง หรือ "เลีย" จนเพี้ยนก็เคยมีตัวอย่างในอดีตให้เห็นมากแล้ว ดังนั้นก็ไม่อยากให้ซ้ำรอยเดิมจนเสียคน เสียของ เปล่าๆ
00 ตัวอย่างที่ทะแม่ง และต้องพูดกันแบบตรงไปตรงมาก็คือ หน้าตาของสนช. ที่ออกมาแม้ว่าไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมาย เป็นสภา "ท็อปบู๊ท" และถึงแม้ว่าไม่อยากให้เรียกว่าเป็นระบบโควตา แต่รายชื่อที่ออกมาก็ใช่ยิ่งกว่าใช่ บางคนมาแบบ "ได้ดีเพราะพี่ให้" อย่าง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้ากุนซือใหญ่ของหัวหน้าคสช. ที่ยกกันมาเป็นแผง ที่โดดเด่นเห็นชัดกว่าใครก็คือ พล.อ.นพดล อินทปัญญา และที่ต้องตั้งคำถามก็คือ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เพิ่งถูกเด้งพ้นเก้าอี้ ตอนเริ่มคสช. กันใหม่ๆกลับติดโผเข้ามาหน้าตาเฉย รู้ทั้งรู้ว่ารายนี้คือ สัญญลักษณ์ของระบอบ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" แต่เมื่อไม่ให้ถาม ก็ไม่เป็นไร รอถามรวดเดียวคราวหน้าแล้วกัน
00 นาทีนี้เหลือชิงดำเก้าอี้ประธาน สนช. เพียงสองคนเท่านั้นคือ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย กับ พรเพชร วิชิตชลชัย ซึ่งเชื่อว่ารายหลังน่าจะเข้าวิน เพราะถ้ามากันแบบ "เล็งเห็นผล" ภายหน้าก็ต้องเอาแบบนี้แหละ ดังนั้นทั้งตัวบุคคลที่มาเป็น สนช. ที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้ ตัวประธานสภา ก็ต้องเลือกคนใกล้ชิดใกล้ตัวมาทำหน้าที่กำกับภารกิจพิเศษเฉพาะกิจให้สำเร็จตามกำหนดเวลา
00 เขาบอกว่าให้จับตา สปช. กันว่าระดับบิ๊กเนมหลายคนจะไปกระจุกอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็น บวรศักดิ์ อุวรรณโณ มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นต้น ขณะที่ วิษณุ เครืองาม แม้จะออกตัวว่า ไม่รับตำแหน่งใดๆ แต่ก็ยังเชื่อว่าถึงเวลาจริงๆ น่าจะปฏิเสธคำขอร้องให้ไปนั่งเก้าอี้รองนายกฯ ฝ่ายกม.ไม่ได้ ไหนๆ ก็ไหนๆ ลงมาช่วยดูแลกันมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่เรื่องร่างประกาศ คำสั่ง คสช. จนถึงหัวหน้าทีมร่างรธน.ฉบับชั่วคราวกันมาแล้ว มันก็ต้องส่งให้ถึงฝั่งไปเลย !!
00 เมื่อพูดถึงตำแหน่งรองนายกฯกันไปแล้ว ต่อไปก็ต้องมองกันไปล่วงหน้าถึงตำแหน่ง รมต.คนสำคัญบางตำแหน่ง ที่คาดหมายกันไว้นานแล้ว เช่น รมว.คมนาคม ไม่น่าจะหนีไปจาก พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ซึ่งรายนี้อาจควบรองนายกฯ ด้วยก็ได้ ส่วนคนที่จะมานั่งควบนายกฯ นั้นค่อนข้างแบเบอร์แล้วว่า ต้องเป็น "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ไม่น่าจะผิดพลาด เพราะทุกทางไหลมาทางนี้หมดแล้ว !!
