วานนี้ (7 ส.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ทนายความร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ในคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า ที่แท้ก็หวังยื้อคดี เพราะจากการอ่านประเด็นต่างๆ 7 ข้อ ที่ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร้องไปแล้วรู้สึกมึน ๆ งง ๆ ค่อนข้างวกไป วนมา คล้ายกับว่าคนที่เขียนคำร้องยังไม่เข้าใจเรื่องจำนำข้าวดีพอ และยังไม่เข้าใจประเด็น ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พยายามโยงให้เห็นถึงความเสียหาย ทั้งๆ ที่ป.ป.ช.ชี้มูลตรงไปตรงมา ไล่จากจำนำสูงกว่าตลาด ทำลายกลไกตลาด เกิดการทุจริตทุกขั้นตอน ระบายข้าวไม่โปร่งใส โดยใช้อิทธิพลการเมืองช่วยเหลือพวกพ้อง เกิดภาวะขาดทุนจำนวนมาก รวมทั้งมีข้าวหาย ข้าวเสื่อม นำข้าวต่างประเทศมาสวมสิทธิ์ ชาวนาได้รับความเดือดร้อนและฆ่าตัวตาย ได้รับรายงานความเสียหายตลอดจนการทุจริต ทำไมนายกรัฐมนตรี จึงไม่ระงับยับยั้ง ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ แก้ประเด็นต่างๆแค่นี้ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
"สรุปแล้วคนเขียนคำร้องยังไม่ค่อยเข้าใจกระบวนการจำนำข้าวแบบเข้าใจจริงๆ แต่ก็มาอ๋อตรงที่ ให้อัยการสูงสุดสอบสวนพยานเพิ่มอีก 8 ปาก จากเดิมที่เคยขอป.ป.ช. แล้วถูกปฏิเสธ และให้อัยการสูงสุดไต่สวนพยานในส่วนของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับโครงการอีกกว่า 50 ปากด้วย รวมแล้วร่วม 60 ปาก ที่แท้ก็ต้องการยื้อคดีนี่เอง" นพ.วรงค์ กล่าว
**คนใกล้ชิด"ปู" ยันกลับ10 ส.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยัน เดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค. ตามกำหนดที่ได้ขออนุญาตจากทางคสช. โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อม ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร (น้องไปป์ ) บุตรชาย จะเดินทางด้วยเครื่องบินการบินไทย ในวันที่ 10 ส.ค. จากลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ตรงมายังประเทศไทย โดยอาจเดินทางมาถึงประเทศไทย
ในวันที่ 10 ส.ค. หรืออาจใช้เวลาในการเดินทางมาถึงข้ามไป วันที่ 11 ส.ค. ทั้งนี้ วันที่ขึ้นเครื่องถือเป็นวันเดินทางกลับ ตามที่ได้ขอคสช. คือวันที่ 10 ส.ค. อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ซื้อตั๋วเที่ยวบินไป-กลับไว้ตั้งแต่วันที่เดินทางไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ระบุเที่ยวบินการเดินทางกลับเท่านั้น
** สรุปผลตรวจข้าวกลางเดือนกย.
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้า การตรวจโกดังข้าวว่า ขณะนี้มีการตรวจไปแล้วกว่า 90% โดยมีการส่งข้าวที่ไปตรวจนั้นไปยังห้องแลบ หรือห้องปฏิบัติการ เพื่อจะได้ทราบว่าข้าวที่ว่าอยู่ครบนั้น เป็นการอยู่ครบในเชิงคุณภาพหรือไม่ ทั้งเรื่องของปัญหา มอด ไร หรือ ข้าวเน่า ข้าวเสีย ซึ่งคุณภาพข้าวสำคัญมากกว่าปริมาณข้าวที่เหลืออยู่ ซึ่งผลลัพท์สุดท้ายอยู่ที่ ผลจากห้องปฏิบัติการนั่นเอง ที่จะมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ต่อไป ซึ่งผลจากห้องแลบนี้ คาดว่าจะออกมาไม่เกินกลางเดือนกันยายน โดยจะมีผลการศึกษา และวิเคราะห์ออกมาชัดเจน ส่วนตรงไหนที่มีความชัดเจนแล้ว ทางกระทรวงพาณิชย์ ก็จะเร่งระบายข้าวออกขายทันที ซึ่งทั้งหมดยังถือว่าเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งผู้ตรวจราชการทุกกระทรวง ทำงานกันอย่างเข้มแข็งมาก
"สรุปแล้วคนเขียนคำร้องยังไม่ค่อยเข้าใจกระบวนการจำนำข้าวแบบเข้าใจจริงๆ แต่ก็มาอ๋อตรงที่ ให้อัยการสูงสุดสอบสวนพยานเพิ่มอีก 8 ปาก จากเดิมที่เคยขอป.ป.ช. แล้วถูกปฏิเสธ และให้อัยการสูงสุดไต่สวนพยานในส่วนของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับโครงการอีกกว่า 50 ปากด้วย รวมแล้วร่วม 60 ปาก ที่แท้ก็ต้องการยื้อคดีนี่เอง" นพ.วรงค์ กล่าว
**คนใกล้ชิด"ปู" ยันกลับ10 ส.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยัน เดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค. ตามกำหนดที่ได้ขออนุญาตจากทางคสช. โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อม ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร (น้องไปป์ ) บุตรชาย จะเดินทางด้วยเครื่องบินการบินไทย ในวันที่ 10 ส.ค. จากลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ตรงมายังประเทศไทย โดยอาจเดินทางมาถึงประเทศไทย
ในวันที่ 10 ส.ค. หรืออาจใช้เวลาในการเดินทางมาถึงข้ามไป วันที่ 11 ส.ค. ทั้งนี้ วันที่ขึ้นเครื่องถือเป็นวันเดินทางกลับ ตามที่ได้ขอคสช. คือวันที่ 10 ส.ค. อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ซื้อตั๋วเที่ยวบินไป-กลับไว้ตั้งแต่วันที่เดินทางไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ระบุเที่ยวบินการเดินทางกลับเท่านั้น
** สรุปผลตรวจข้าวกลางเดือนกย.
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้า การตรวจโกดังข้าวว่า ขณะนี้มีการตรวจไปแล้วกว่า 90% โดยมีการส่งข้าวที่ไปตรวจนั้นไปยังห้องแลบ หรือห้องปฏิบัติการ เพื่อจะได้ทราบว่าข้าวที่ว่าอยู่ครบนั้น เป็นการอยู่ครบในเชิงคุณภาพหรือไม่ ทั้งเรื่องของปัญหา มอด ไร หรือ ข้าวเน่า ข้าวเสีย ซึ่งคุณภาพข้าวสำคัญมากกว่าปริมาณข้าวที่เหลืออยู่ ซึ่งผลลัพท์สุดท้ายอยู่ที่ ผลจากห้องปฏิบัติการนั่นเอง ที่จะมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ต่อไป ซึ่งผลจากห้องแลบนี้ คาดว่าจะออกมาไม่เกินกลางเดือนกันยายน โดยจะมีผลการศึกษา และวิเคราะห์ออกมาชัดเจน ส่วนตรงไหนที่มีความชัดเจนแล้ว ทางกระทรวงพาณิชย์ ก็จะเร่งระบายข้าวออกขายทันที ซึ่งทั้งหมดยังถือว่าเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งผู้ตรวจราชการทุกกระทรวง ทำงานกันอย่างเข้มแข็งมาก