"พงศพัศ" สั่งย้าย 3 นายตำรวจชุดสืบสวน สน.บางชัน ยิงใส่รถน้องโบว์ นิสิตจุฬาฯ จนได้รับความเสียหาย ไปทำงานด้านธุรการ ตั้งคกก.สอบเอาผิดซ้ำ สตช.ยอมรับผิดและขอชดใช้รถคันใหม่แทนรถที่คันเสียหายด้วย พร้อมพาตัว 3 ตร.ก่อเรื่องฉาวไปขอขมาผู้เสียหาย สั่งบช.น. ปรับยุทธวิธีการเข้าตรวจค้น จับกุม และการใช้อาวุธใหม่
วานนี้ (3 ส.ค.) ที่ สน.บางชัน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานด้านปราบปรามยาเสพติด ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี เจ้าหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด ของ สน.บางชัน ยิงปืนเข้าใส่รถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน1กฆ 1993 กรุงเทพ ของ น.ส.อภีษฎา สัจพันโรจน์ หรือน้องโบว์ นักศึกษาชั้นปีที่4 คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เหตุเกิดบริเวณ ซ.รามคำแหงที่118 เมื่อวานที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.สาโรจน์ ซุ่นทรัพย์ รองผบก.น.4 พ.ต.อ.พันธนะ นุชนาถ รองผบก.น.4 ผกก.สน.ต่างๆ ในพื้นที่ บก.น.4 และเจ้าหน้าที่ บก.สส. บก.น.4 เข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ตนมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ได้มามอบนโยบายหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ข้อผิดพลาดทั้งหมดเราต้องยอมรับ ซึ่งที่ผ่านมาได้พบกับ น.ส.อภีษฎา หรือน้องโบว์ ผู้เสียหายและครอบครัว ซึ่งตนก็ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อทำการขอโทษน้องโบว์และครอบครัวแล้ว แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะทำงานด้วยความตั้งใจแต่เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้นเราต้องยอมรับและขอโทษต่อผู้เสียหาย พร้อมกำชับว่าหลังจากนี้จะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนเรื่องการสอบสวนนั้นเบื้องต้นได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาในระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)
โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย ประกอบด้วย ด.ต.จำเนียร ขันแดง ด.ต.รัศมี เทพทา และ ร.ต.ต.สุพจน์ โทเกษ ซึ่งทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน และเป็นชุดจับกุมยาเสพติด ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ สน.ประเวศ สน.อุดมสุข สน.หัวหมาก ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ โดยมีผลในวันนี้ทันที เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน ขณะเดียวกันก็จะมีจเรตำรวจเข้าร่วมทำการสอบสวนข้อเท็จจริงและพูดคุยกับผู้เสียหายด้วย พร้อมสั่งให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. ให้นำเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด มาทำการฝึกยุทธวิธีการเข้าตรวจค้น การเข้าจับกุม และการใช้อาวุธ ในส่วนของรถยนต์ของน้องโบว์ซึ่งถูกยิงได้รับความเสียหายนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะนำรถคันใหม่ยี่ห้อเดิมมาแลกเปลี่ยนให้ แต่คงจะต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดกันอีกครั้ง รวมถึงเยียวยารถยนต์อีก 2 คันที่ถูกเฉี่ยวชนจนเกิดความเสียหายด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 ซ.รามคำแหง 118 แยก 46 แขวงและเขตสะพานสูง ซึ่งเป็นบ้านของน้องโบว์ผู้เสียหาย โดยได้พบกับนายกฤษฎ์ สัจพันโรจน์ และนางจุฑามาศ สัจพันโรจน์ บิดาและมารดาให้การต้อนรับ จากนั้นน้องโบว์ ได้พา พล.ต.อ.พงศพัศ เดินทางมาดูรถซูซูกิ สวิฟท์ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 1กฆ 1993 กรุงเทพ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้นำมาจอดไว้ที่บ้านพัก และเดินดูบริเวณโดยรอบๆบ้านพัก
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบบ้านของของน้องโบว์ ซึ่งปลูกในเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ มีรั้วสูงรอบขอบชิด โดยทางด้านข้างและด้านหลังติดอยู่กับชุมชนเกาะดอน ซึ่งคุณพ่อแม่ของน้องโบว์สร้างบ้านหลังนี้ มากว่า 10 ปีแล้ว ส่วนที่ชุมชนเกาะดอนแห่งนี้ ก็เป็นชุมนุมเป้าหมายที่มีการแพร่เผยระบาดของยาเสพติด และทางเจ้าหน้าที่คาดว่ารถของน้องโบว์วิ่งออกมาจากชุมชนเกาะดอน โดยคาดว่ามีน่าจะมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่จึงได้เข้าตรวจค้นกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ด้าน น.ส.อภีษฎา กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ตนก็แทบนอนไม่หลับเลยทั้งคืน เพราะยังตกใจและหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้อยู่ ซึ่งตนไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่าพอใจกับสิ่งที่ พล.ต.อ.พงศพัศ ให้การช่วยเหลือทางครอบครัวหรือไม่ น.ส.อภีษฎา กล่าวว่า ก็พอใจในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องรถตนก็ไม่ได้มีความต้องการอะไรมากนักและไม่ได้เรียกร้องใดๆ เพียงแต่ตนเรียกร้องความเป็นธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น
ขณะที่ นายกฤษฎ์ บิดาของน้องโบว์ กล่าวว่า ตนได้มีการพูดคุยและปรับความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่แล้ว หลังจากนี้เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่คงจะมีมาตรการที่ดีกว่านี้ และหวังว่าคงจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าพอใจกับการช่วยเหลือเยียวยาของเจ้าหน้าที่หรือไม่ แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วทางเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการป้องกันอย่างไรต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจทั้ง 3 นาย ประกอบด้วย ด.ต.จำเนียร ดต.รัศมี และร.ต.ต.สุพจน์ ได้เข้าไปยกมือไหว้ขอโทษ นายกฤษณ์ และนางจุฑารัตน์ บิดามารดาของน้องโบว์อีกครั้ง
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ได้มีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์กรณีตำรวจยิงปืนใส่รถของน้องโบว์เมื่อวานที่ผ่านมาได้มีการบันทึกภาพเก็บไว้และมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าว โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 คน ที่ลงมาจากรถอีซูซุ สองตอน สีบรอนซ์ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ 3 คน ตามที่เป็นข่าว.
วานนี้ (3 ส.ค.) ที่ สน.บางชัน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานด้านปราบปรามยาเสพติด ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี เจ้าหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด ของ สน.บางชัน ยิงปืนเข้าใส่รถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน1กฆ 1993 กรุงเทพ ของ น.ส.อภีษฎา สัจพันโรจน์ หรือน้องโบว์ นักศึกษาชั้นปีที่4 คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เหตุเกิดบริเวณ ซ.รามคำแหงที่118 เมื่อวานที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.สาโรจน์ ซุ่นทรัพย์ รองผบก.น.4 พ.ต.อ.พันธนะ นุชนาถ รองผบก.น.4 ผกก.สน.ต่างๆ ในพื้นที่ บก.น.4 และเจ้าหน้าที่ บก.สส. บก.น.4 เข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ตนมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ได้มามอบนโยบายหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ข้อผิดพลาดทั้งหมดเราต้องยอมรับ ซึ่งที่ผ่านมาได้พบกับ น.ส.อภีษฎา หรือน้องโบว์ ผู้เสียหายและครอบครัว ซึ่งตนก็ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อทำการขอโทษน้องโบว์และครอบครัวแล้ว แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะทำงานด้วยความตั้งใจแต่เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้นเราต้องยอมรับและขอโทษต่อผู้เสียหาย พร้อมกำชับว่าหลังจากนี้จะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนเรื่องการสอบสวนนั้นเบื้องต้นได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาในระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)
โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย ประกอบด้วย ด.ต.จำเนียร ขันแดง ด.ต.รัศมี เทพทา และ ร.ต.ต.สุพจน์ โทเกษ ซึ่งทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน และเป็นชุดจับกุมยาเสพติด ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ สน.ประเวศ สน.อุดมสุข สน.หัวหมาก ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ โดยมีผลในวันนี้ทันที เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน ขณะเดียวกันก็จะมีจเรตำรวจเข้าร่วมทำการสอบสวนข้อเท็จจริงและพูดคุยกับผู้เสียหายด้วย พร้อมสั่งให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. ให้นำเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด มาทำการฝึกยุทธวิธีการเข้าตรวจค้น การเข้าจับกุม และการใช้อาวุธ ในส่วนของรถยนต์ของน้องโบว์ซึ่งถูกยิงได้รับความเสียหายนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะนำรถคันใหม่ยี่ห้อเดิมมาแลกเปลี่ยนให้ แต่คงจะต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดกันอีกครั้ง รวมถึงเยียวยารถยนต์อีก 2 คันที่ถูกเฉี่ยวชนจนเกิดความเสียหายด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 ซ.รามคำแหง 118 แยก 46 แขวงและเขตสะพานสูง ซึ่งเป็นบ้านของน้องโบว์ผู้เสียหาย โดยได้พบกับนายกฤษฎ์ สัจพันโรจน์ และนางจุฑามาศ สัจพันโรจน์ บิดาและมารดาให้การต้อนรับ จากนั้นน้องโบว์ ได้พา พล.ต.อ.พงศพัศ เดินทางมาดูรถซูซูกิ สวิฟท์ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 1กฆ 1993 กรุงเทพ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้นำมาจอดไว้ที่บ้านพัก และเดินดูบริเวณโดยรอบๆบ้านพัก
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบบ้านของของน้องโบว์ ซึ่งปลูกในเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ มีรั้วสูงรอบขอบชิด โดยทางด้านข้างและด้านหลังติดอยู่กับชุมชนเกาะดอน ซึ่งคุณพ่อแม่ของน้องโบว์สร้างบ้านหลังนี้ มากว่า 10 ปีแล้ว ส่วนที่ชุมชนเกาะดอนแห่งนี้ ก็เป็นชุมนุมเป้าหมายที่มีการแพร่เผยระบาดของยาเสพติด และทางเจ้าหน้าที่คาดว่ารถของน้องโบว์วิ่งออกมาจากชุมชนเกาะดอน โดยคาดว่ามีน่าจะมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่จึงได้เข้าตรวจค้นกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ด้าน น.ส.อภีษฎา กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ตนก็แทบนอนไม่หลับเลยทั้งคืน เพราะยังตกใจและหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้อยู่ ซึ่งตนไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่าพอใจกับสิ่งที่ พล.ต.อ.พงศพัศ ให้การช่วยเหลือทางครอบครัวหรือไม่ น.ส.อภีษฎา กล่าวว่า ก็พอใจในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องรถตนก็ไม่ได้มีความต้องการอะไรมากนักและไม่ได้เรียกร้องใดๆ เพียงแต่ตนเรียกร้องความเป็นธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น
ขณะที่ นายกฤษฎ์ บิดาของน้องโบว์ กล่าวว่า ตนได้มีการพูดคุยและปรับความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่แล้ว หลังจากนี้เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่คงจะมีมาตรการที่ดีกว่านี้ และหวังว่าคงจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าพอใจกับการช่วยเหลือเยียวยาของเจ้าหน้าที่หรือไม่ แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วทางเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการป้องกันอย่างไรต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจทั้ง 3 นาย ประกอบด้วย ด.ต.จำเนียร ดต.รัศมี และร.ต.ต.สุพจน์ ได้เข้าไปยกมือไหว้ขอโทษ นายกฤษณ์ และนางจุฑารัตน์ บิดามารดาของน้องโบว์อีกครั้ง
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ได้มีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์กรณีตำรวจยิงปืนใส่รถของน้องโบว์เมื่อวานที่ผ่านมาได้มีการบันทึกภาพเก็บไว้และมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าว โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 คน ที่ลงมาจากรถอีซูซุ สองตอน สีบรอนซ์ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ 3 คน ตามที่เป็นข่าว.
