xs
xsm
sm
md
lg

สืบบางชันยิงรถนิสิตสาวจุฬาฯ เข้าใจผิดเป็นคนร้ายค้ายา!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สภาพรถยนต์นิสิตจุฬาฯ ถูกยิงเข้าที่ล้อยาง
ตำรวจชุดสืบสวน สน.บางชัน ยิงสกัดรถยนต์นิสิตจุฬาฯ ภายในซอยรามคำแหง 118 นศ.สาวตกใจขับหนีจนชนระนาว ด้านรอง ผบก.น.4 แจงเจ้าหน้าที่เข้าใจผิดว่าเป็นรถผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติด ยันสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมให้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (2 ส.ค.) ร.ต.ท.กันตภณ สักขาพรม พงส.สน.บางชัน ได้รับแจ้งเหตุว่ารถชนกันหลายคันภายในซอยรามคำแหง 118 แยก 44-5 แขวงและเขต สะพานสูง กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ สวิฟท์ สีเทา หมายเลขทะเบียน 1 กฆ 1993 กรุงเทพมหานคร สภาพรถด้านท้ายรถถูกชนยับ กระจกหลังแตก ยางรถฝั่งขวาแตกทั้งล้อหน้าและหลัง

น.ส.อภีษฎา สัจพันโรจน์ อายุ 21 ปี นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ เจ้าของรถคันดังกล่าวให้การว่า ตนพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่บ้านพฤกษชาติ ซอยรามคำแหง 118 แยก 46-10 แขวงและเขตสะพานสูง เมื่อ 11.00 น.ตนได้ขับรถคันดังกล่าวออกจากบ้านพักเพื่อที่จะไปหาเพื่อนที่จุฬาฯ โดยใช้เส้นทางลัดภายในซอยรามคำแหง 118 แยก 33 เพื่อไปออกยังถนนกาญจนาภิเษกซึ่งใช้อยู่เป็นประจำ ขณะที่กำลังขับรถอยู่บนถนนภายในซอยซึ่งมีลักษณะ 2 เลนสวนกัน สังเกตเห็นว่ามีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุสีบรอนซ์เงินขับแซงขึ้นมา ตนเองก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งเมื่อไปถึงทางสามแยกบริเวณซอยรามคำแหง 118 แยก 33-8 ขณะที่รถจอดติดอยู่เพื่อรอเลี้ยว พบเห็นชายฉกรรจ์ 4 คนเดินลงมาจากรถกระบะคันดังกล่าวตรงมายังรถที่ตัวเองขับขี่อยู่ โดยชายทั้ง 4 ได้ล้อมรถไว้ทั้ง 4 ประตู หนึ่งในชายฉกรรจ์ได้เคาะกระจกและบังคับให้ตนลงจากรถ ตนตกใจมากจึงปีนไปยังเบาะหลัง พร้อมทั้งพยายามโทรศัพท์ติดต่อแม่ แต่แม่ยังไม่ทันรับโทรศัพท์ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงกลับไปยังที่นั่งคนขับ พร้อมกันนี้ได้เหลือบไปเห็นว่าชายคนหนึ่งที่ยืนติดกับประตูฝั่งคนขับมีปืนเหน็บอยู่ที่เอว ด้วยความตกใจจึงพยายามถอยรถหนี

น.ส.อภีษฎาให้การต่อว่า เวลานั้นตนพยายามถอยรถออกจากที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด ขณะที่ด้านหลังมีรถเบนซ์ไม่ทราบรุ่นพยายามถอยเช่นกัน แต่ได้ถอยไปชนรถเบนซ์ก่อนที่รถเบนซ์จะขับหนีไป หลังจากนั้นชายฉกรรจ์ 3 คนกลับเข้าไปยังรถกระบะ ส่วนชายอีกคนหนึ่งเดินเข้าหาพร้อมทั้งใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ยางรถยนต์ด้านล้อหน้าฝั่งคนขับ ถึงตอนนี้ตนตกใจมากและถอยรถหนีอย่างไม่คิดชีวิตทำให้รถตนชนไปกับรถคันอื่น จากนั้นเมื่อรถมาถึงปากซอยรามคำแหง 118 แยก 33 ตนตั้งหลักหันหัวรถได้จึงรีบขับกลับมายังซอยรามคำแหง 118 แยก 44 แต่รถเสียการทรงตัวเพราะยางแตกจึงจอดรถข้างทาง จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์จากรถคันดังกล่าวได้เดินลงมาจากรถ ครั้งนี้ชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คนห้อยบัตรแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะบอกให้ตนลงจากรถ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นายก็ค้นรถตนเองแต่ไม่เจออะไร ระหว่างนั้นทางญาติของตนเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุพอดี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ค้นรถเสร็จก็จะเข้าจับกุม แต่ทางญาติให้สอบถามว่าเกิดเรื่องอะไร ทำไมถึงทำแบบนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คนจึงได้ขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุทันที

น.ส.อภีษฎากล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกตกใจกลัวมาก เพราะว่าทางเจ้าหน้าที่มาแบบชายฉกรรจ์ ไม่มีการแสดงตัวหรือโชว์บัตรก่อน ถึงแม้จะโชว์บัตรก็ไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากตนกับแม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนแต่ไม่รุนแรงเท่านี้ โดยเหตุเกิดเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม ตนนั่งรถยนต์มากับแม่เพื่อที่จะกลับเข้าบ้าน เมื่อขับมาถึงซอยรามคำแหง 118 แยก 46-8 ใกล้กับสโมสรกสิกร มีรถกระบะสีดำมีชายฉกรรจ์ลงมา 3-4 คนทำทีมาขออนุญาตตรวจค้น พอค้นไม่เจออะไรก็ไป จากนั้นได้ให้ญาติที่รู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชันสอบถามว่ามีชุดทำงานลงพื้นที่มาตรวจรถต้องสงสัยจับยาเสพติดหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชันยืนยันว่าไม่มี จึงมั่นใจว่าน่าจะเป็นพวกตำรวจปลอม กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ แต่ครั้งนี้รุนแรง คิดว่าต้องเสียชีวิตไปแล้ว แต่โชคดีที่เหตุเกิดอยู่ใกล้ละแวกบ้านพัก อยากเรียกร้องให้ยึดหลัก ระเบียบ กฎเกณฑ์ คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริสุทธิ์ การกระทำที่เกิดขึ้นเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ปฏิบัติหน้าที่ไม่เหมาะสม ทำให้ประชาชนรู้สึกแย่ เสียขวัญและกำลังใจ ทำให้รู้สึกว่าประชาชนพึ่งพาไม่ได้ กลับต้องมาได้รับอันตรายจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียเอง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณภายในซอยรามคำแหง 118 แยก 33-8 เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม.จำนวน 5 ปลอก นอกจากนั้นยังพบร่องรอยการเฉี่ยวชน ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวรวมหลักฐานทั้งหมด

ด้าน พ.ต.อ.สาโรจน์ ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น.4 กล่าวว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวเบื้องต้นได้รับรายงานแล้ว โดยเป็นงานทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.บางชันได้ลงพื้นที่ในการตรวจรถต้องสงสัยเพื่อจับกุมยาเสพติด แต่เกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดคิดว่าเป็นรถคันดังกล่าวเป็นรถของผู้ต้องสงสัยจึงพยายามเข้าจับกุมและตรวจสอบ ขณะนี้ได้ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ส่วนจะเรียกร้องหรือว่าจะเอาผิดอย่างไรก็ว่ากันอีกที อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้รอง ผกก.สส.สน.บางชัน ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหรือไม่ ต้องรอดูผลการชี้แจ้งของผู้บังคับบัญชาในสายงานก่อน ซึ่งจะตรงตามมาตรา 157 เจ้าหน้าที่กระทำการเกินกว่าเหตุหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง


ด้านท้ายของรถยนต์ได้รับความเสียหายเช่นกัน
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบที่เกิดเหตุ
กำลังโหลดความคิดเห็น