โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
อ่า! คุณน้องปูและคุณลูกบินลัดฟ้าสู่มหานครปารีสเรียบร้อยแล้ว พร้อมกระเป๋าเดินทางมากกว่า 10 ใบ แต่ละใบอัดแน่นตึงเปรี๊ยะ ไม่มีใครรู้ว่ายัดอะไรไว้ข้างใน เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่สนามบินสุวรรณภูมิขอเปิดดูหรือไม่ ถ้าเป็นห่วงว่าจะเอาเงินไปช็อปไม่พอ
ถ้าไม่รวยจริง ไม่เอากระเป๋าไปมากขนาดนี้ ต้องเสียค่าน้ำหนักกระเป๋าเกินเยอะ นี่เป็นครั้งแรกที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อตั๋วเอง หรือคนอื่นซื้อให้ ก็สุดแล้วแต่ความเป็นจริงของชีวิต แต่คุณน้องปูคงไม่ยี่หระ ช่วงเป็นนายกฯ เงินงอกมากกว่า 33 ล้านบาท
นี่ขนาดไม่มีเวลาบริหารงานส่วนตัวนะ รับภาระของชาติหนักอึ้ง ภัยพิบัติสารพัด น้ำท่วมประเทศคนตายโดนไฟฟ้าดูด การชุมนุมของมวลมหาประชาชนนานกว่า 7 เดือน ชาวนาฆ่าตัวตาย การฆ่าฟันบนท้องถนน คนตายกว่า 25 บาดเจ็บ 800 กว่า
อยู่สบายๆ เป็นผู้นำประเทศ ตะลอนๆ เดินทางเยือนมากกว่า 45 ประเทศ ยังมีเงินงอกถึงขนาดนี้ ถ้าได้เป็นซีอีโอเต็มบ้อง คงได้หลายร้อยล้านบาท ที่เสียไปคงมีน้ำตาไม่กี่หยดช่วงดรามา กระตุกหัวใจคนเชียร์ พวกหน้ามึน จิตได้เดียงสาเห็นแก่ของฟรี
ต้องยอมรับว่าคุณน้องปูเป็นหญิงเหล็กทุกส่วนสรรพางกาย แม้วันสุดท้ายโดนเด้งจากเก้าอี้ก็ยังไม่ยอมคร่ำครวญ แถมยังประกาศอีกว่า “หลังเลือกตั้งแล้วเจอกัน” ...เอ่อ...ประเด็นนี้ต้องให้คุณน้องปูพิสูจน์ว่าไม่เบี้ยว คสช. กลับมาตามกำหนด 10 สิงหาคม
การเดินทางครั้งนี้คุณน้องปูไม่กลัวเหงา นอกจากคุณลูกแล้วยังมีตำรวจหล่อ คุณพันตำรวจเอกพี่หนุ่ยติดตามไปด้วยอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เคลียร์กระเป๋าที่สนามบิน จัดการทุกอย่าง ประชาชนคนไทยเสียภาษีจ่ายเงินเดือนให้คุณหนุ่ยให้รับใช้คุณน้องปูแต่ผู้เดียว
น่าประหลาดที่คนไทยช่างเป็นผู้เสียสละอย่างยิ่ง คุณน้องปูมีดีอะไรที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องให้การอารักขาโดยให้ประชาชนจ่ายเงิน อันที่จริงคุณน้องปูมีทรัพย์สินเงินทองมหาศาล สามารถขอให้คุณหนุ่ยลาออกจากราชการก็ย่อมได้
มารับหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์ส่วนตัว กินเงินเดือนจากบริษัทคุณน้องปูก็ได้ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ...มีเสียงร่ำลือมานานว่าคนในตระกูลน้องปูนั้นไม่นิยมใช้เงินตัวเองในแทบทุกเรื่อง คนอื่นมักแย่งรับภาระค่าใช้จ่ายตั้งแต่การบ้านยันการเมืองทุกเด้ง
อย่างที่ฝรั่งชอบว่า พวก enjoy spending the other people’s money นั่นแล! ถึงร่ำรวยล้นฟ้าก็ยังนิยมใช้เงินคนอื่น...แบบนี้มักมีคนแก้ต่างให้ ...อ้าว! ถ้าไม่เค็มระดับตังเมเรียกพี่ หรือถึงขั้น “คุณนายเกลือทิพย์” จะร่ำรวยมหาศาลได้อย่างไรกันย่ะ!
มีข่าวว่าคุณลูกโอ๊กอ๊ากส่งภาพให้เห็นคุณพ่อบักเหลี่ยมร้ายโอบกอดต้อนรับคุณน้องปูที่สนามบินกรุงปารีสด้วยแหละ สร้างภาพความซาบซึ้งน้ำตาเล็ดให้พวกขี้ข้าได้เห็น แน่นอน! บักปึ้งไส้อั่วหัวเหม่ง คางคกตกวอ ย่อมเล่นตามบทได้เนียนแบบทาสชั้นดี
เออ! คุณหนุ่ยเป็นตำหนวดยศโตเต็มบั้งเห็นผู้ร้ายหนีหมายจับจะทำอย่างไรหนอ ถ้ากลับมา คสช. น่าจะเรียกตัวมาถามไถ่ว่ารู้เห็นว่าผู้ร้ายหน้าเหลี่ยมอยู่ไหนทำไมไม่รายงานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือประสานงานกับตำรวจสากลผ่านสถานทูต
คุณหนุ่ยคงบอก “อ้าว! กระพ้มเป็นตำรวจไทย ไม่มีอำนาจจับกุมใครที่ฝรั่งเศส” ตามแบบของพวกตำรวจใหญ่ที่ไปซูฮกคารวะบักเหลี่ยมที่ฮ่องกงหลายรอบนั่นเอง
นี่แหละตำหนวดไทย ทุกวันนี้ยังไม่ถอดถอนยศบักเหลี่ยม กระทรวงต่างประเทศยังไม่เพิกถอนหนังสือเดินทาง ผู้มีอำนาจไม่สั่งการให้ออกหมายจับมาติดคุก มีแต่เสียงเพรียกเรียกหา “กลับมาบ้านเต๊อะ มาปรองดองกัน ลืมความหลัง ตั้งต้นชีวิตกันใหม่”
คำเชิญชวนช่างเป็นเสมือนเสียงเยี่ยวรินรดหัวใจคนไทยคนดีทั้งแผ่นดินยิ่งนัก!
คุณน้องปูไปเที่ยวเบิกบานสำราญใจกว่าปกติ เพราะมีเสียงร่ำลือว่าซื้อตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวเดียว ท่ามกลางความสงสัยว่าคุณเธออาจไปแล้วไปลับด้วยความมุฑิตาการุณย์ของคุณท่านผู้ทรงอำนาจ เพื่อลองใจดูว่า “ถ้าไม่กลับ แสดงว่าผิดจริง”
ป้าดโธ่! คุณน้องปูกลัวอะไรที่ไหน ข้อกล่าวหาโดย ป.ป.ช. เพียงแค่ “ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” หาใช่เป็นเจตนาทุจริต ดังนั้น เรื่องข้อกล่าวหาคดีอาญายังใช้เวลาอีกนานตราบใดที่มีเงินจ้างทนายผีโม่แป้ง ใช้เงินเบิกทางง้างประตูอะไรต่ออะไรได้อีกหลายช่อง
ยิ่งได้อ่านบทโปรยหัวของรัฐธรรมนูญด้วยแล้ว คนร่างให้ทำตามสเปกของว่าที่นายกฯ จริงๆ ทุกเนื้อความไม่มีข้อไหนบ่งบอกว่ารัฐบาลคุณน้องปูเป็นต้นตอของปัญหาการละเมิดกฎหมาย การล่มสลายของโครงการรับจำนำข้าว การเมืองโกงกินมโหฬาร
รัฐธรรมนูญโทษแต่ประชาชนว่าทำนั่นนี่โน่น สร้างวิกฤติสารพัด ฆ่าฟันกัน แถมยังจะเกิดมิคสัญญี เป็นสงครามกลางเมือง สรุปแล้วประชาชนรับเละ ของเน่าๆ ทั้งนั้น...ไม่มีบอกเลยว่าความเป็นของการรัฐประหารเพราะมีกองกำลังต่างชาติกว่า 5 พันเข้ามา
ไม่บอกเหตุผลว่าได้มีการเตรียมตำรวจกว่า 3 หมื่นนายเพื่อทำรัฐประหาร ผสมกองกำลังต่างชาติฆ่าฟันผู้ชุมนุมตามคำสั่งของคนชั่วอยู่ต่างประเทศ ทำให้กองทัพต้องประกาศกฎอัยการศึก ทำรัฐประหาร ส่งกองกำลังต่างชาติปะปนกลับไปกับแรงงานเขมร
คนไทยต้องก้มหน้าก้มตายอมรับบันทึกประวัติศาสตร์ฉบับนี้ว่า “อะไรๆ ก็กู!”
เอาเถอะ! คุณน้องปูคงไปเอ้อระเหย เดินเด้งหน้าเด้งหลัง ช็อปกระจาย ถ้ากลับมาอย่าลืมแจ้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่สนามบินว่ามูลค่าสินค้าเกิน 1 แสนบาทหรือไม่ เพื่อให้การคำนวนภาษีของมูลค่าที่เกินถูกต้อง สมกับสถานภาพเศรษฐีนี อดีตผู้นำประเทศ
ประเด็นคาใจก็คือพวกคุณลูกๆ กล่องดวงใจของบักเหลี่ยมจะได้รับอนุมัติให้ไปต่างประเทศด้วยหรือไม่ เรื่องนี้มีนัยสำคัญต่อสภาวะในบ้านเมือง ช่วงนี้สถานการณ์ดูสงบเพราะพวกตัวร้ายยังกบดานใช้เงินชั่วตักตวงหาความสุขก่อนเปิดศึกยกใหม่
รู้อยู่แล้วว่าคุณบักเหลี่ยมเป็นจอมอาฆาตพยาบาท บอกได้เลยว่าถ้าหน่อเนื้อเชื้อไขอันเป็นที่รักของบักเหลี่ยมพ้นจากแผ่นดินไทยเมื่อไหร่ “มันเล่นบทโหดอีกแน่”
เมื่อนั้น คุณท่านจะทำอย่างไรมิทราบ ต้องรับศึก 2 ด้านหรือไม่...ด้านหนึ่งจากพวกคนดีรักชาติที่คุณท่านได้แปลงให้เป็นศัตรู พวกเขาผิดหวังที่คุณท่านไม่ได้ขุดรากถอนโคนระบอบบักเหลี่ยม อีกด้านคือสมุนบักเหลี่ยม ลุยมาพร้อมกับอารมณ์แค้น
ชะตากรรมแผ่นดินจะเป็นอย่างไร คาดการณ์ไม่ได้จริงๆ!