การปล่อยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศ ทำให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องถูกตั้งคำถามว่า เปิดทางให้อดีตนายกรัฐมนตรีหนีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพิ่งชี้มูลกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยระบุว่านางสาวยิ่งลักษณ์มีความผิด
ขั้นตอนต่อไปคือ การส่งเรื่องให้อัยการพิจารณา ก่อนยื่นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยลงโทษ เช่นเดียวกับการทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร (ชินวัตร) และทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หนีออกนอกประเทศ ก่อนที่ศาลตัดสิน จนมีฐานะเป็นนักโทษหนีคดีถึงปัจจุบัน
การเดินทางออกนอกประเทศของนางสาวยิ่งลักษณ์ครั้งนี้ จึงมีข้อถกเถียงกันว่า จะกลับหรือไม่กลับ ไปแล้วไปลับเหมือนพี่ชายหรือไม่ ซึ่งคนส่วนใหญ่เชื่อว่า สุดท้ายแล้ว นางสาวยิ่งลักษณ์จะเจริญรอยตามพ.ต.ท.ทักษิณ
เผ่นหนีออกนอกประเทศก่อนศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา ไม่ยอมติดคุกชดใช้ความผิดเช่นเดียวกับพี่ชาย
คสช.กำลังตกเป็นจำเลยทางสังคม เจอข้อหารู้เห็นเป็นใจ เปิดโอกาสให้นางสาวยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศ
คสช.อาจกลัวว่า ถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ต้องติดคุก จะก่อชนวนความวุ่นวายซึ่งเป็นอันตรายต่อนโยบายคืนความสุขให้ประชาชน จึงมีการเจรจาตกลงกัน
ยอมให้นางสาวยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศ แลกเปลี่ยนการยุติบทบาทความเคลื่อนไหวทางการเมือง ตัดชนวนความวุ่นวายทิ้งเสียแต่ต้น
ส่วนการที่นางสาวยิ่งลักษณ์ใช้วอยซ์ทีวี โจมตี ป.ป.ช.ฉอดๆ นั้น คสช.ไม่ว่า
นักการเมืองที่ทำผิด ไม่ว่าร้ายแรงเพียงใด มักจะไม่ถูกเล่นงานกันถึงตาย ไม่ว่าโกงบ้านกินเมืองขนาดไหน ก็ไม่ต้องติดคุก
การเปิดทางให้อดีตนายกรัฐมนตรีหนีออกนอกประเทศ กำลังเป็นอีกตัวอย่างของนักการเมืองที่ก่อความผิด แต่ถูกปล่อยให้ลอยนวล ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่คงยอมรับไม่ได้
เพราะนโยบายรับจำนำข้าวโกงกันเป็นล่ำเป็นสัน โกงกันหน้าด้านๆ แม้ถูกท้วงติงมาตั้งแต่ยังไม่เริ่มโครงการ แต่นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่เคยฟัง ดันทุรังมาตลอด
และแม้จะมีคำเตือนถึงการทุจริตมโหฬารจาก ป.ป.ช. มีเสียงเรียกร้องให้ทบทวนโครงการจากแทบทุกภาคส่วน แต่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ดื้อด้านไม่ทบทวนอะไรทั้งสิ้น
ประมาณการเบื้องต้นว่า โครงการรับจำนำข้าวจะเกิดความสูญเสียไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุกคน ถึงจะติดคุกตลอดชีวิต ก็ไม่คุ้มกับความเสียหายที่ก่อไว้
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เคยประกาศขอรับผิดชอบหากเกิดความเสียหาย แต่ชีวิตนายกิตติรัตน์มีค่าอะไรกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น
ส่วนนางสาวยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดเต็มประตู แต่ถ้าถูกปล่อยให้ลอยนวลถือเป็นกรรมของประชาชน เพราะต้องร่วมกันชดใช้หนี้ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์สร้างไว้
คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด โดยไม่มีใครได้รับเอกสิทธิ์ถูกยกเว้นดำเนินคดี
เพราะคดีนี้ความผิดชัดแจ้ง ประเทศต้องเสียหายหนัก และควรเป็นคดีตัวอย่างที่บรรดารัฐมนตรีจะต้องเรียงแถวเข้าคุก ไม่เว้นแม้แต่นายกรัฐมนตรี
หลังจากปิดคดีทุจริตรับจำนำข้าว นักการเมืองที่ปล้นประเทศจะต้องหัวหดกันบ้างละ อย่าคิดว่า มีอำนาจแล้วจะโกงกันอย่างไรก็ได้ เพราะฉากสุดท้าย จะเหมือนนางสาวยิ่งลักษณ์ รัฐมนตรีและข้าราชการอีกหลายคนที่ต้องชดใช้กรรม
คสช.ต้องนำร่องการปราบทุจริตของนักการเมือง ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู โดยไม่ปล่อยให้ใครที่ร่วมกันโกงโครงการจำนำข้าวพ้นเงื้อมมือกฎหมายแม้แต่คนเดียว
อย่ากลัว “ยิ่งลักษณ์” จะเป็นชนวนความวุ่นวาย อย่ามุ่งแต่จะคืนความสุข โดยยัดเยียดความเจ็บช้ำให้ประชาชนต้องแบกรับ อย่าทำให้สังคมต้องยืนตาปริบๆ ดูนักการเมืองหน้าขี้โกงลอยนวลตามเคย
การเดินทางไปต่างประเทศของนางสาวยิ่งลักษณ์ครั้งนี้ จะกลับหรือไม่กลับก็ได้ แต่สุดท้าย ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสิน นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่มีวันอยู่ฟังคำตัดสินแน่ๆ
จะอยู่ให้โง่ไปทำไม เพราะติดคุกแน่ๆ สู้เลียนแบบพี่ชายดีกว่า มีเงินเหลือเฟือเสียอย่าง จะเร่ร่อนไปประเทศไหนก็ได้ และไม่มีใครใส่ใจ ออกหมายขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาติดคุกอีกด้วย
คสช.อาจรู้สึกว่า นางสาวยิ่งลักษณ์อาจเป็นตัวกวนน้ำให้ขุ่น อาจทำให้การเมืองเกิดความนิ่ง จึงอยากไล่ไปให้พ้นหูพ้นตาอยู่แล้ว และสบช่องทันทีที่ขอเดินทางออกนอกประเทศ
ออกนอกประเทศครั้งนี้ “ยิ่งลักษณ์” อาจกลับมา แต่ครั้งหน้า “ยิ่งลักษณ์” ไปแล้วจะไปลับ และพ.ต.ท.ทักษิณคงยินดีอ้าแขนรับน้องสาวเข้าเป็นสมาชิกนักโทษหนีคดีคนล่าสุด
ถึงตอนนั้น คสช.จะอ้างว่า ไม่รู้เห็นเป็นใจ ปล่อย “ยิ่งลักษณ์” เผ่นหนีได้อย่างไร
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพิ่งชี้มูลกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยระบุว่านางสาวยิ่งลักษณ์มีความผิด
ขั้นตอนต่อไปคือ การส่งเรื่องให้อัยการพิจารณา ก่อนยื่นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยลงโทษ เช่นเดียวกับการทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร (ชินวัตร) และทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หนีออกนอกประเทศ ก่อนที่ศาลตัดสิน จนมีฐานะเป็นนักโทษหนีคดีถึงปัจจุบัน
การเดินทางออกนอกประเทศของนางสาวยิ่งลักษณ์ครั้งนี้ จึงมีข้อถกเถียงกันว่า จะกลับหรือไม่กลับ ไปแล้วไปลับเหมือนพี่ชายหรือไม่ ซึ่งคนส่วนใหญ่เชื่อว่า สุดท้ายแล้ว นางสาวยิ่งลักษณ์จะเจริญรอยตามพ.ต.ท.ทักษิณ
เผ่นหนีออกนอกประเทศก่อนศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา ไม่ยอมติดคุกชดใช้ความผิดเช่นเดียวกับพี่ชาย
คสช.กำลังตกเป็นจำเลยทางสังคม เจอข้อหารู้เห็นเป็นใจ เปิดโอกาสให้นางสาวยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศ
คสช.อาจกลัวว่า ถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ต้องติดคุก จะก่อชนวนความวุ่นวายซึ่งเป็นอันตรายต่อนโยบายคืนความสุขให้ประชาชน จึงมีการเจรจาตกลงกัน
ยอมให้นางสาวยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศ แลกเปลี่ยนการยุติบทบาทความเคลื่อนไหวทางการเมือง ตัดชนวนความวุ่นวายทิ้งเสียแต่ต้น
ส่วนการที่นางสาวยิ่งลักษณ์ใช้วอยซ์ทีวี โจมตี ป.ป.ช.ฉอดๆ นั้น คสช.ไม่ว่า
นักการเมืองที่ทำผิด ไม่ว่าร้ายแรงเพียงใด มักจะไม่ถูกเล่นงานกันถึงตาย ไม่ว่าโกงบ้านกินเมืองขนาดไหน ก็ไม่ต้องติดคุก
การเปิดทางให้อดีตนายกรัฐมนตรีหนีออกนอกประเทศ กำลังเป็นอีกตัวอย่างของนักการเมืองที่ก่อความผิด แต่ถูกปล่อยให้ลอยนวล ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่คงยอมรับไม่ได้
เพราะนโยบายรับจำนำข้าวโกงกันเป็นล่ำเป็นสัน โกงกันหน้าด้านๆ แม้ถูกท้วงติงมาตั้งแต่ยังไม่เริ่มโครงการ แต่นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่เคยฟัง ดันทุรังมาตลอด
และแม้จะมีคำเตือนถึงการทุจริตมโหฬารจาก ป.ป.ช. มีเสียงเรียกร้องให้ทบทวนโครงการจากแทบทุกภาคส่วน แต่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ดื้อด้านไม่ทบทวนอะไรทั้งสิ้น
ประมาณการเบื้องต้นว่า โครงการรับจำนำข้าวจะเกิดความสูญเสียไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุกคน ถึงจะติดคุกตลอดชีวิต ก็ไม่คุ้มกับความเสียหายที่ก่อไว้
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เคยประกาศขอรับผิดชอบหากเกิดความเสียหาย แต่ชีวิตนายกิตติรัตน์มีค่าอะไรกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น
ส่วนนางสาวยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดเต็มประตู แต่ถ้าถูกปล่อยให้ลอยนวลถือเป็นกรรมของประชาชน เพราะต้องร่วมกันชดใช้หนี้ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์สร้างไว้
คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด โดยไม่มีใครได้รับเอกสิทธิ์ถูกยกเว้นดำเนินคดี
เพราะคดีนี้ความผิดชัดแจ้ง ประเทศต้องเสียหายหนัก และควรเป็นคดีตัวอย่างที่บรรดารัฐมนตรีจะต้องเรียงแถวเข้าคุก ไม่เว้นแม้แต่นายกรัฐมนตรี
หลังจากปิดคดีทุจริตรับจำนำข้าว นักการเมืองที่ปล้นประเทศจะต้องหัวหดกันบ้างละ อย่าคิดว่า มีอำนาจแล้วจะโกงกันอย่างไรก็ได้ เพราะฉากสุดท้าย จะเหมือนนางสาวยิ่งลักษณ์ รัฐมนตรีและข้าราชการอีกหลายคนที่ต้องชดใช้กรรม
คสช.ต้องนำร่องการปราบทุจริตของนักการเมือง ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู โดยไม่ปล่อยให้ใครที่ร่วมกันโกงโครงการจำนำข้าวพ้นเงื้อมมือกฎหมายแม้แต่คนเดียว
อย่ากลัว “ยิ่งลักษณ์” จะเป็นชนวนความวุ่นวาย อย่ามุ่งแต่จะคืนความสุข โดยยัดเยียดความเจ็บช้ำให้ประชาชนต้องแบกรับ อย่าทำให้สังคมต้องยืนตาปริบๆ ดูนักการเมืองหน้าขี้โกงลอยนวลตามเคย
การเดินทางไปต่างประเทศของนางสาวยิ่งลักษณ์ครั้งนี้ จะกลับหรือไม่กลับก็ได้ แต่สุดท้าย ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสิน นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่มีวันอยู่ฟังคำตัดสินแน่ๆ
จะอยู่ให้โง่ไปทำไม เพราะติดคุกแน่ๆ สู้เลียนแบบพี่ชายดีกว่า มีเงินเหลือเฟือเสียอย่าง จะเร่ร่อนไปประเทศไหนก็ได้ และไม่มีใครใส่ใจ ออกหมายขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาติดคุกอีกด้วย
คสช.อาจรู้สึกว่า นางสาวยิ่งลักษณ์อาจเป็นตัวกวนน้ำให้ขุ่น อาจทำให้การเมืองเกิดความนิ่ง จึงอยากไล่ไปให้พ้นหูพ้นตาอยู่แล้ว และสบช่องทันทีที่ขอเดินทางออกนอกประเทศ
ออกนอกประเทศครั้งนี้ “ยิ่งลักษณ์” อาจกลับมา แต่ครั้งหน้า “ยิ่งลักษณ์” ไปแล้วจะไปลับ และพ.ต.ท.ทักษิณคงยินดีอ้าแขนรับน้องสาวเข้าเป็นสมาชิกนักโทษหนีคดีคนล่าสุด
ถึงตอนนั้น คสช.จะอ้างว่า ไม่รู้เห็นเป็นใจ ปล่อย “ยิ่งลักษณ์” เผ่นหนีได้อย่างไร