ด้านสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,684 คน ระหว่างวันที่ 15-19 กรกฎาคม 2557 เรื่องค่านิยมของ คสช. ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีนโยบายที่จะสร้างค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ เพื่อสร้างสรรค์ประเทศไทยให้เข้มแข็ง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือและเผยแพร่เรื่องดังกล่าว เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่จะส่งเสริมค่านิยมหลักให้กับคนไทย
เมื่อถามว่า“ค่านิยม”ของคสช. ที่ถูกใจประชาชนอันดับ 1 มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 93.56 % เพราะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศชาติและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจคนไทยให้รักและสามัคคีกัน ฯลฯ อันดับ 2 กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ 92.76% เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนพึงมี ช่วยให้ตระหนักและระลึกถึงคุณความดีของผู้มีพระคุณมากยิ่งขึ้น ฯลฯ อันดับ 3 เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง 89.48 % เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและหน้าที่ของคนไทยทุกคน จะต้องรู้และเข้าใจชัดเจน เพื่อปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง ฯลฯ อันดับ 4 มี สติ รู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติ ตามพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว 88.76% เพราะการมีสติช่วยให้คนมีความคิด มีเหตุผล รู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ถูกชักนำไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ฯลฯ
อันดับ 5 ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม 88.08% เพราะ เป็นการปลูกฝังคุณลักษณะนิสัยที่ดีให้กับคนไทย ทำให้เป็นคนที่มีคุณภาพ ช่วยพัฒนาประเทศได้ ฯลฯ อันดับ 6 มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน 87.32% เพราะ สังคมจะน่าอยู่และสงบสุขหากคนอยู่ในศีลธรรมที่ดีงาม รู้จักการให้ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฯลฯ อันดับ 7 มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ 87.14% เพราะ
เพื่อให้สังคมเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ง่ายต่อการควบคุมดูแล จะได้เป็นสังคมที่น่าอยู่ ฯลฯ อันดับ 8 ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม 86.34% เพราะการศึกษาช่วยพัฒนาคน คุณภาพชีวิต และส่งผลต่อความก้าวหน้าของประเทศชาติ ฯลฯ
อันดับ 9 รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสฯ 85.67% เพราะในหลวงทรงเป็นแบบอย่างที่ดี เศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่เหมาะสม ทำให้รู้จักพอ ฯลฯ อันดับ 10 รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม 84.57% เพราะแสดงให้เห็นถึงความเป็นมาของชาติไทย ควรอนุรักษ์และสืบสานต่อไปเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ปฏิบัติตาม ฯลฯ อันดับ 11 มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลสฯ 83.05% เพราะหากรู้จักควบคุมตนเอง ทำจิตใจให้เข้มแข็ง ไม่อยากได้อยากมี การทุจริตคอร์รัปชันอาจลดน้อยลงหรือหมดไปได้ ฯลฯ อันดับ 12 คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง 81.72% เพราะมีบทเรียนให้เห็น ประเทศชาติต้องประสบปัญหาต่างๆมากมาย เพราะคนเห็นแก่ตัว อำนาจและผลประโยชน์ ฯลฯ
ส่วนคำถามว่า “ค่านิยม”ของ คสช. ที่ประชาชนเห็นว่าควรทำอย่างเร่งด่วน อันดับ 1 มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 84.32% อันดับ 2 กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ 74.46% อันดับ 3 ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม 71.45%
ด้านคำถามว่า“ค่านิยม”ของ คสช.ที่ประชาชนเห็นว่าสามารถทำได้เป็นรูปธรรม อันดับ 1 กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ 80.32% อันดับ 2 มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 79.70% อันดับ 3 ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม 75.11%
ทั้งนี้ เมื่อถามว่า“ค่านิยม”ของ คสช.ที่ประชาชนเห็นว่ายากต่อการปฏิบัติเป็นรูปธรรม อันดับ 1 มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลส มีความละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา 77.97% อันดับ 2 มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน 75.15% อันดับ 3 เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง 74.64%
**หนุนคสช.ปฏิรูปวงการตำรวจ
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลสํารวจความคิดเห็นประชาชนในหัวข้อ คสช.กับการปฏิรูปตํารวจไทยในสายตาประชาชน พบว่า ร้อยละ 57.8 พอใจมากถึงมากที่สุดต่อการทําหน้าที่ของตํารวจไทยในปัจจุบัน
ขณะที่ร้อยละ 90.9 ต้องการให้ คสช.ปฏิรูปวงการตํารวจ พร้อมเห็นด้วยกับแนวคิดที่ให้ตำรวจขึ้นตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้ง รวมถึงยังเห็นด้วยกับคําสั่งของ คสช.ที่มีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการนโยบายตํารวจ เพื่อลดบทบาทของฝ่ายการเมือง
นอกจากนี้ ยังเห็นด้วยกับคําสั่งที่ คสช.ที่ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบันเป็นผู้เสนอชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแทนนายกรัฐมนตรี แต่ขณะที่ 35.5 บอกว่าไม่เห็นด้วย พร้อมเห็นด้วยกับคำสั่ง คสช.ที่เพิ่มปลัดกระทรวงกลาโหมเข้าไปเป็นคณะกรรมการนโยบายตํารวจแห่งชาติ
ด้านความเห็นเกี่ยวกับเกณฑ์ที่ควรใช้ในการพิจารณาเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่เห็นว่า ควรใช้เกณฑ์ความสามารถและผลงานเป็นหลัก
**อยากได้คนกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเป็นผู้นำ
ขณะที่ ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน(Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA)เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ มาสเตอร์โพลล์ (Master Poll)เรื่อง ลักษณะของผู้นำประเทศไทยที่สาธารณชนต้องการในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน โดยศึกษาตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,148 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการในช่วง 10 - 19 ก.ค.57 ที่ผ่านมา
โดยถามถึงคุณลักษณะของผู้นำประเทศไทย ที่สาธารณชนต้องการ พบว่า 88.1 % ระบุมีความกล้าหาญ เด็ดขาด และตรงไปตรงมา 76.7% ระบุว่ากล้าคิด กล้าตัดสินใจ 62.2% ระบุว่า มีความจงรักภักดี 61.0% ระบุ ซื่อสัตย์ สุจริต 55.9% ระบุว่า มีความอดทน เสียสละ 55.6% ระบุว่ามีความรับผิดชอบ 52.9% ระบุมีเป้าหมายชัดเจน ส่วนลำดับรองๆ ลงไปคือ มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ มีวิสัยทัศน์ มียุทธศาสตร์ที่ดี เปิดใจกว้างรับฟังความเห็นผู้อื่น มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี บุคลิกภาพดี เป็นคนเชื่อมประสานที่ดี และมี 10.8% ที่ต้องการคนร่ำรวย
เมื่อสอบถามถึง สิ่งที่ต้องการให้ คสช. แก้ปัญหาเพื่อประชาชนด้านเศรษฐกิจ พบว่า 82.3% ระบุ แก้ปัญหาปากท้อง ราคาสินค้า อาหารและบริการ รองลงมาคือ 76.8% ให้ช่วยเหลือ ดูแลประชาชนเรื่องที่ทำกิน หน้าที่การงาน และการประกอบอาชีพ 74.6% แก้ปัญหาราคาน้ำมัน แก๊ส 67.4% แก้ปัญหาต้นทุนการผลิตสินค้าการเกษตร 56.6% ระบุช่วยเหลือประชาชนที่ว่างงาน และรองๆ ลงไปคือ ดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยไม่ต้องจ่ายมาก ต้องดูแลต้นทุน ค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพของประชาชน ลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน และจัดหาความจำเป็นพื้นฐานเช่น อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย ตามลำดับ
เมื่อถามสิ่งที่ต้องการให้ คสช. แก้ปัญหาเพื่อประชาชนด้านสังคม และการเมือง พบว่า 73.2% ระบุการเมืองต้องไม่มีคอร์รัปชัน 63.6% ระบุเอาจริงเอาจังตามกฎหมาย 61.0% ขจัดกลุ่มผู้มีอิทธิพล ยาเสพติด และอาชญากรรม รองๆ ลงไปคือ การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง ช่วยลดความแตกแยกในหมู่ประชาชน
เมื่อสอบถามถึงความคิดเห็นของสาธารณชนต่อบรรยากาศทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมโดยรวมภายใต้การปฏิบัติงานของ คสช. พบว่า ในด้านสังคม 72.4% ระบุว่าดีขึ้น 18.9% ระบุเหมือนเดิม 8.7% ระบุแย่ลง ด้านการเมือง 69.7% ระบุดีขึ้น 23.5% ระบุเหมือนเดิม และ 6.8% ระบุแย่ลง และด้านเศรษฐกิจ พบว่า 56.8% ระบุดีขึ้น 31.7% ระบุเหมือนเดิม และ 11.5% ระบุแย่ลง ตามลำดับ
เมื่อถามว่า“ค่านิยม”ของคสช. ที่ถูกใจประชาชนอันดับ 1 มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 93.56 % เพราะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศชาติและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจคนไทยให้รักและสามัคคีกัน ฯลฯ อันดับ 2 กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ 92.76% เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนพึงมี ช่วยให้ตระหนักและระลึกถึงคุณความดีของผู้มีพระคุณมากยิ่งขึ้น ฯลฯ อันดับ 3 เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง 89.48 % เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและหน้าที่ของคนไทยทุกคน จะต้องรู้และเข้าใจชัดเจน เพื่อปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง ฯลฯ อันดับ 4 มี สติ รู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติ ตามพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว 88.76% เพราะการมีสติช่วยให้คนมีความคิด มีเหตุผล รู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ถูกชักนำไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ฯลฯ
อันดับ 5 ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม 88.08% เพราะ เป็นการปลูกฝังคุณลักษณะนิสัยที่ดีให้กับคนไทย ทำให้เป็นคนที่มีคุณภาพ ช่วยพัฒนาประเทศได้ ฯลฯ อันดับ 6 มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน 87.32% เพราะ สังคมจะน่าอยู่และสงบสุขหากคนอยู่ในศีลธรรมที่ดีงาม รู้จักการให้ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฯลฯ อันดับ 7 มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ 87.14% เพราะ
เพื่อให้สังคมเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ง่ายต่อการควบคุมดูแล จะได้เป็นสังคมที่น่าอยู่ ฯลฯ อันดับ 8 ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม 86.34% เพราะการศึกษาช่วยพัฒนาคน คุณภาพชีวิต และส่งผลต่อความก้าวหน้าของประเทศชาติ ฯลฯ
อันดับ 9 รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสฯ 85.67% เพราะในหลวงทรงเป็นแบบอย่างที่ดี เศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่เหมาะสม ทำให้รู้จักพอ ฯลฯ อันดับ 10 รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม 84.57% เพราะแสดงให้เห็นถึงความเป็นมาของชาติไทย ควรอนุรักษ์และสืบสานต่อไปเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ปฏิบัติตาม ฯลฯ อันดับ 11 มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลสฯ 83.05% เพราะหากรู้จักควบคุมตนเอง ทำจิตใจให้เข้มแข็ง ไม่อยากได้อยากมี การทุจริตคอร์รัปชันอาจลดน้อยลงหรือหมดไปได้ ฯลฯ อันดับ 12 คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง 81.72% เพราะมีบทเรียนให้เห็น ประเทศชาติต้องประสบปัญหาต่างๆมากมาย เพราะคนเห็นแก่ตัว อำนาจและผลประโยชน์ ฯลฯ
ส่วนคำถามว่า “ค่านิยม”ของ คสช. ที่ประชาชนเห็นว่าควรทำอย่างเร่งด่วน อันดับ 1 มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 84.32% อันดับ 2 กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ 74.46% อันดับ 3 ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม 71.45%
ด้านคำถามว่า“ค่านิยม”ของ คสช.ที่ประชาชนเห็นว่าสามารถทำได้เป็นรูปธรรม อันดับ 1 กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ 80.32% อันดับ 2 มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 79.70% อันดับ 3 ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม 75.11%
ทั้งนี้ เมื่อถามว่า“ค่านิยม”ของ คสช.ที่ประชาชนเห็นว่ายากต่อการปฏิบัติเป็นรูปธรรม อันดับ 1 มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลส มีความละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา 77.97% อันดับ 2 มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน 75.15% อันดับ 3 เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง 74.64%
**หนุนคสช.ปฏิรูปวงการตำรวจ
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลสํารวจความคิดเห็นประชาชนในหัวข้อ คสช.กับการปฏิรูปตํารวจไทยในสายตาประชาชน พบว่า ร้อยละ 57.8 พอใจมากถึงมากที่สุดต่อการทําหน้าที่ของตํารวจไทยในปัจจุบัน
ขณะที่ร้อยละ 90.9 ต้องการให้ คสช.ปฏิรูปวงการตํารวจ พร้อมเห็นด้วยกับแนวคิดที่ให้ตำรวจขึ้นตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้ง รวมถึงยังเห็นด้วยกับคําสั่งของ คสช.ที่มีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการนโยบายตํารวจ เพื่อลดบทบาทของฝ่ายการเมือง
นอกจากนี้ ยังเห็นด้วยกับคําสั่งที่ คสช.ที่ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบันเป็นผู้เสนอชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแทนนายกรัฐมนตรี แต่ขณะที่ 35.5 บอกว่าไม่เห็นด้วย พร้อมเห็นด้วยกับคำสั่ง คสช.ที่เพิ่มปลัดกระทรวงกลาโหมเข้าไปเป็นคณะกรรมการนโยบายตํารวจแห่งชาติ
ด้านความเห็นเกี่ยวกับเกณฑ์ที่ควรใช้ในการพิจารณาเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่เห็นว่า ควรใช้เกณฑ์ความสามารถและผลงานเป็นหลัก
**อยากได้คนกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเป็นผู้นำ
ขณะที่ ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน(Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA)เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ มาสเตอร์โพลล์ (Master Poll)เรื่อง ลักษณะของผู้นำประเทศไทยที่สาธารณชนต้องการในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน โดยศึกษาตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,148 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการในช่วง 10 - 19 ก.ค.57 ที่ผ่านมา
โดยถามถึงคุณลักษณะของผู้นำประเทศไทย ที่สาธารณชนต้องการ พบว่า 88.1 % ระบุมีความกล้าหาญ เด็ดขาด และตรงไปตรงมา 76.7% ระบุว่ากล้าคิด กล้าตัดสินใจ 62.2% ระบุว่า มีความจงรักภักดี 61.0% ระบุ ซื่อสัตย์ สุจริต 55.9% ระบุว่า มีความอดทน เสียสละ 55.6% ระบุว่ามีความรับผิดชอบ 52.9% ระบุมีเป้าหมายชัดเจน ส่วนลำดับรองๆ ลงไปคือ มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ มีวิสัยทัศน์ มียุทธศาสตร์ที่ดี เปิดใจกว้างรับฟังความเห็นผู้อื่น มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี บุคลิกภาพดี เป็นคนเชื่อมประสานที่ดี และมี 10.8% ที่ต้องการคนร่ำรวย
เมื่อสอบถามถึง สิ่งที่ต้องการให้ คสช. แก้ปัญหาเพื่อประชาชนด้านเศรษฐกิจ พบว่า 82.3% ระบุ แก้ปัญหาปากท้อง ราคาสินค้า อาหารและบริการ รองลงมาคือ 76.8% ให้ช่วยเหลือ ดูแลประชาชนเรื่องที่ทำกิน หน้าที่การงาน และการประกอบอาชีพ 74.6% แก้ปัญหาราคาน้ำมัน แก๊ส 67.4% แก้ปัญหาต้นทุนการผลิตสินค้าการเกษตร 56.6% ระบุช่วยเหลือประชาชนที่ว่างงาน และรองๆ ลงไปคือ ดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยไม่ต้องจ่ายมาก ต้องดูแลต้นทุน ค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพของประชาชน ลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน และจัดหาความจำเป็นพื้นฐานเช่น อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย ตามลำดับ
เมื่อถามสิ่งที่ต้องการให้ คสช. แก้ปัญหาเพื่อประชาชนด้านสังคม และการเมือง พบว่า 73.2% ระบุการเมืองต้องไม่มีคอร์รัปชัน 63.6% ระบุเอาจริงเอาจังตามกฎหมาย 61.0% ขจัดกลุ่มผู้มีอิทธิพล ยาเสพติด และอาชญากรรม รองๆ ลงไปคือ การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง ช่วยลดความแตกแยกในหมู่ประชาชน
เมื่อสอบถามถึงความคิดเห็นของสาธารณชนต่อบรรยากาศทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมโดยรวมภายใต้การปฏิบัติงานของ คสช. พบว่า ในด้านสังคม 72.4% ระบุว่าดีขึ้น 18.9% ระบุเหมือนเดิม 8.7% ระบุแย่ลง ด้านการเมือง 69.7% ระบุดีขึ้น 23.5% ระบุเหมือนเดิม และ 6.8% ระบุแย่ลง และด้านเศรษฐกิจ พบว่า 56.8% ระบุดีขึ้น 31.7% ระบุเหมือนเดิม และ 11.5% ระบุแย่ลง ตามลำดับ
