ASTVผู้จัดการรายวัน-คสช.สั่งลุยตรวจโกดังข้าวทั่วประเทศ นำร่อง 4 จังหวัดวันนี้ ส่วนจังหวัดที่เหลือเริ่มสัปดาห์หน้า ลั่นเจอทุจริตให้แจ้งความดำเนินคดีทันที "ปนัดดา" เผยมีทีมทั้งหมด 100 ชุด ตรวจโกดังกว่า 1 พันแห่ง ปริมาณข้าว 18 ล้านตัน คาดใช้เวลา 45 วันตรวจเสร็จ ก่อนเสนอ "ประยุทธ์" พิจารณา ป.ป.ช.ขอเข้าร่วมหวังหาข้อมูลการทุจริต คสช.ไฟเขียวงบช่วยข้าวนาปีวงเงิน 4.8 พันล้านแล้ว "พาณิชย์"ประกาศราคาแนะนำปุ๋ย เผยราคาลงถุงละ 50 บาท
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อมอบนโยบายและชี้แจงแนวทางในการตรวจสอบปริมาณข้าวที่เก็บไว้ในโกดังและไซโล วานนี้ (2 ก.ค.) ว่า ขอให้การตรวจสอบข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลดำเนินการด้วยมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ต้องมีความชัดเจน อยู่บนพื้นฐานที่ทุกฝ่ายยอมรับ และให้ยึดถือปริมาณข้าวตามบัญชีที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร ของกระทรวงการคลังที่ได้ปิดบัญชีไปแล้วเป็นหลัก โดยการตรวจสอบจะตรวจว่ามีข้าวครบตามบัญชีหรือไม่ และให้เก็บตัวอย่างข้าว เพื่อส่งตรวจสอบคุณภาพด้วย
ทั้งนี้ ยังได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดตั้งศูนย์รับข้อมูลข่าวสาร หากเกิดปัญหาในการตรวจสอบสต๊อกข้าว ก็ขอให้รายงานไปยังกองทัพภาค และรายงานให้คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) เป็นรายวัน
สำหรับการตรวจสอบสต๊อกข้าว จะเริ่มทันทีในวันนี้ (3 ก.ค.) โดยนำร่องใน 4 จังหวัดก่อน คือ กำแพงเพชร พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช ส่วนจังหวัดอื่นๆ จะตรวจพร้อมกันในสัปดาห์หน้า
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การตรวจสอบข้าวในสต๊อกรัฐบาลในครั้งนี้ มีคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวจำนวน 100 ชุด ประกอบด้วยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยมีกองทัพบกเป็นหน่วยงานหลักในการตรวจสอบ โดยการตรวจสอบหากพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น ก็จะแจ้งความดำเนินคดีในทันที
โดยการตรวจสอบปริมาณข้าวทั้งระบบ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ1 เดือนครึ่ง หรือแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนก.ย.2557 จากนั้นจะสามารถสรุปผลการตรวจสอบสต๊อกข้าวในโกดังกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศได้ว่ามีปริมาณข้าวตรงตามที่แจ้งไว้หรือไม่ ซึ่งปริมาณข้าวที่จะตรวจสอบในครั้งนี้มีประมาณ 18 ล้านตัน โดยเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ก็จะรายงานต่อ นบข. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นประธานต่อไป
นายจิรชัย มูลทองโร่ย ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การตรวจสอบสต๊อกข้าว จะตรวจสอบว่าปริมาณข้าวตรงตามบัญชีที่มีอยู่หรือไม่ ถ้าตัวเลขข้าวที่มีอยู่กับตัวเลขข้าวในบัญชีไม่ตรงกันเกิน 5% ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโกดังและไซโลทันที รวมทั้งจะเก็บตัวอย่างข้าวไปตรวจสอบคุณภาพว่ามีคุณภาพดีหรือไม่ด้วย
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า คณะกรรมการป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จะลงพื้นที่สังเกตการตรวจสอบสต๊อกข้าว โดยจะตรวจสอบงานที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวเป็นการเฉพาะ เพื่อหาข้อมูลข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในกระบวนการไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอลงพื้นที่ด้วย เพราะเป็นการทำงานป้องกัน ปราบปราม และตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันร่วมกันระหว่างหน่วยงาน โดยเน้นตรวจสอบสต๊อกข้าวในโรงสี และโกดังกลางที่มีเรื่องร้องเรียนว่าปริมาณข้าวหายมากผิดปกติ
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช. แถลงผลการประชุม คสช. ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่ นบข. เสนอหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเกษตรกร รวมวงเงินดำเนินการ 4,804.1 ล้านบาท เช่น การลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการผลิตแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 2,292 ล้านบาท โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม 700 ล้านบาท โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก 1,100 ล้านบาท และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกเพิ่ม 315 ล้านบาท รวมถึงโครงการประกันภัยข้าวนาปี ที่ได้อนุมัติไปแล้ว 376 ล้านบาท เมื่อการประชุมครั้งที่แล้ว
สำหรับความคืบหน้าการช่วยเหลือลดต้นทุนการผลิตให้กับชาวนา วานนี้ (2 ก.ค.) กรมการค้าภายใน ได้ออกประกาศกำหนดราคาแนะนำจำหน่ายปุ๋ยเคมีแล้ว โดยมีราคาลดลงเฉลี่ย 40-50 บาทต่อถุง เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับชาวนา ตามมติที่ประชุม นบข. ที่ให้มีมาตรการลดต้นทุนการผลิตให้ชาวนา
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและติดตามสถานการณ์การจำหน่ายปุ๋ยของผู้ผลิต และผู้ประกอบการว่าได้ให้ความร่วมมืออย่างไร ส่วนการประกาศราคาแนะนำขายสำหรับยาปราบศัตรูพืช คาดว่า ภายในสัปดาห์นี้น่าจะประกาศราคาแนะนำได้
นายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย กล่าวว่า สมาคมฯ มีสมาชิกเป็นผู้ผลิตและผู้ค้าปุ๋ยทั่งประเทศคิดเป็นสัดส่วน 70% พร้อมให้ความร่วมมือจำหน่ายปุ๋ยในราคาแนะนำที่กรมการค้าภายในกำหนด แม้จะได้รับผลกระทบทางธุรกิจบ้าง แต่การประกาศราคาแนะนำ ควรประกาศล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ค้ามีระยะเวลาปรับตัว
"การลดราคาปุ๋ย เป็นความร่วมมือกับ คสช. ที่ต้องการร่วมแรงร่วมใจกันในการช่วยเหลือชาวนา ซึ่งน่าจะมีซัพพลายพอที่จะใช้ทำนาไปจนสิ้นฤดูกาล แต่ผู้ผลิตอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยง เพราะแนวโน้มวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้นตามทิศทางราคาพลังงานโลก"นายเปล่งศักดิ์กล่าว
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อมอบนโยบายและชี้แจงแนวทางในการตรวจสอบปริมาณข้าวที่เก็บไว้ในโกดังและไซโล วานนี้ (2 ก.ค.) ว่า ขอให้การตรวจสอบข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลดำเนินการด้วยมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ต้องมีความชัดเจน อยู่บนพื้นฐานที่ทุกฝ่ายยอมรับ และให้ยึดถือปริมาณข้าวตามบัญชีที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร ของกระทรวงการคลังที่ได้ปิดบัญชีไปแล้วเป็นหลัก โดยการตรวจสอบจะตรวจว่ามีข้าวครบตามบัญชีหรือไม่ และให้เก็บตัวอย่างข้าว เพื่อส่งตรวจสอบคุณภาพด้วย
ทั้งนี้ ยังได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดตั้งศูนย์รับข้อมูลข่าวสาร หากเกิดปัญหาในการตรวจสอบสต๊อกข้าว ก็ขอให้รายงานไปยังกองทัพภาค และรายงานให้คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) เป็นรายวัน
สำหรับการตรวจสอบสต๊อกข้าว จะเริ่มทันทีในวันนี้ (3 ก.ค.) โดยนำร่องใน 4 จังหวัดก่อน คือ กำแพงเพชร พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช ส่วนจังหวัดอื่นๆ จะตรวจพร้อมกันในสัปดาห์หน้า
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การตรวจสอบข้าวในสต๊อกรัฐบาลในครั้งนี้ มีคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวจำนวน 100 ชุด ประกอบด้วยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยมีกองทัพบกเป็นหน่วยงานหลักในการตรวจสอบ โดยการตรวจสอบหากพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น ก็จะแจ้งความดำเนินคดีในทันที
โดยการตรวจสอบปริมาณข้าวทั้งระบบ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ1 เดือนครึ่ง หรือแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนก.ย.2557 จากนั้นจะสามารถสรุปผลการตรวจสอบสต๊อกข้าวในโกดังกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศได้ว่ามีปริมาณข้าวตรงตามที่แจ้งไว้หรือไม่ ซึ่งปริมาณข้าวที่จะตรวจสอบในครั้งนี้มีประมาณ 18 ล้านตัน โดยเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ก็จะรายงานต่อ นบข. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นประธานต่อไป
นายจิรชัย มูลทองโร่ย ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การตรวจสอบสต๊อกข้าว จะตรวจสอบว่าปริมาณข้าวตรงตามบัญชีที่มีอยู่หรือไม่ ถ้าตัวเลขข้าวที่มีอยู่กับตัวเลขข้าวในบัญชีไม่ตรงกันเกิน 5% ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโกดังและไซโลทันที รวมทั้งจะเก็บตัวอย่างข้าวไปตรวจสอบคุณภาพว่ามีคุณภาพดีหรือไม่ด้วย
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า คณะกรรมการป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จะลงพื้นที่สังเกตการตรวจสอบสต๊อกข้าว โดยจะตรวจสอบงานที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวเป็นการเฉพาะ เพื่อหาข้อมูลข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในกระบวนการไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอลงพื้นที่ด้วย เพราะเป็นการทำงานป้องกัน ปราบปราม และตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันร่วมกันระหว่างหน่วยงาน โดยเน้นตรวจสอบสต๊อกข้าวในโรงสี และโกดังกลางที่มีเรื่องร้องเรียนว่าปริมาณข้าวหายมากผิดปกติ
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช. แถลงผลการประชุม คสช. ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่ นบข. เสนอหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเกษตรกร รวมวงเงินดำเนินการ 4,804.1 ล้านบาท เช่น การลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการผลิตแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 2,292 ล้านบาท โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม 700 ล้านบาท โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก 1,100 ล้านบาท และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกเพิ่ม 315 ล้านบาท รวมถึงโครงการประกันภัยข้าวนาปี ที่ได้อนุมัติไปแล้ว 376 ล้านบาท เมื่อการประชุมครั้งที่แล้ว
สำหรับความคืบหน้าการช่วยเหลือลดต้นทุนการผลิตให้กับชาวนา วานนี้ (2 ก.ค.) กรมการค้าภายใน ได้ออกประกาศกำหนดราคาแนะนำจำหน่ายปุ๋ยเคมีแล้ว โดยมีราคาลดลงเฉลี่ย 40-50 บาทต่อถุง เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับชาวนา ตามมติที่ประชุม นบข. ที่ให้มีมาตรการลดต้นทุนการผลิตให้ชาวนา
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและติดตามสถานการณ์การจำหน่ายปุ๋ยของผู้ผลิต และผู้ประกอบการว่าได้ให้ความร่วมมืออย่างไร ส่วนการประกาศราคาแนะนำขายสำหรับยาปราบศัตรูพืช คาดว่า ภายในสัปดาห์นี้น่าจะประกาศราคาแนะนำได้
นายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย กล่าวว่า สมาคมฯ มีสมาชิกเป็นผู้ผลิตและผู้ค้าปุ๋ยทั่งประเทศคิดเป็นสัดส่วน 70% พร้อมให้ความร่วมมือจำหน่ายปุ๋ยในราคาแนะนำที่กรมการค้าภายในกำหนด แม้จะได้รับผลกระทบทางธุรกิจบ้าง แต่การประกาศราคาแนะนำ ควรประกาศล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ค้ามีระยะเวลาปรับตัว
"การลดราคาปุ๋ย เป็นความร่วมมือกับ คสช. ที่ต้องการร่วมแรงร่วมใจกันในการช่วยเหลือชาวนา ซึ่งน่าจะมีซัพพลายพอที่จะใช้ทำนาไปจนสิ้นฤดูกาล แต่ผู้ผลิตอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยง เพราะแนวโน้มวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้นตามทิศทางราคาพลังงานโลก"นายเปล่งศักดิ์กล่าว
