ASTVผู้จัดการรายวัน – “เฮียฮ้อ” ออกโรงแจงประเด็นบอลโลกอีกครั้ง หลังถูกบิดเบือนข้อเท็จจริง ตกเป็นจำเลยสังคม ย้ำชัดถ่ายสดบอลโลกทางฟรีทีวีครบ 64 แมทช์ตามที่ตกลงกับกสทช.ตั้งแต่ 11มิ.ย.ที่ผ่านมา ชัดเจนไม่ได้เล่นแง่ แม้เงินชดเชย 427ล้านบาท ตอนนี้ได้มาเพียง100 ล้านบาท ล่าสุดสรุปตัวเลขผู้บริโภคคืนกล่อง 2 แสนราย และค่าสมัครสมชิกรับชมฟุตบอลโลกอีก 3 หมื่นราย คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 326 กว่าล้านบาท
วานนี้ (2ก.ค.) อาร์เอส ได้จัดแถลงการณ์ชี้แจงและทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ขึ้นอีกครั้ง หลังจากในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้ ทางอาร์เอสตกเป็นจำเลยทางสังคม และถูกนำเสนอข่าวอย่างบิดเบือนคาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ในกรณีที่ว่า อาร์เอสมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกทางฟรีทีวีไม่ครบ 64 แมตช์ โดยเฉพาะในช่วงการแข่งขัน 16 ทีมสุดท้าย ที่ไม่ได้มีการถ่ายทอดสดจำนวน 2 คู่ทางช่อง5หรือช่อง7
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การแถลงข่าวในวันนี้ เพื่อต้องการชี้แจงให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนว่าทางอาร์เอสได้ทำการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครบทั้ง 64 แมทช์ทางฟรีทีวี ตามแผนที่ตกลงไว้กับทางกสทช เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะมีความเข้าใจคาดเคลื่อนกันกับความหมายของคำว่าฟรีทีวี ที่ทางอาร์เอสหมายถึง ฟรีทีวีในปัจจุบันที่มีอยู่ 24 ช่องในระบบทีวีดิจิตอล ซึ่งช่อง8 ถือเป็นหนึ่งช่องฟรีทีวีในระบบทีวีดิจิตอล แต่ทางกสทช.อาจจะเข้าใจถึงคำว่าฟรีทีวีในระบบทีวีอะนาล็อก ทำให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน
อย่างไรก็ตามทางอาร์เอสได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว สำหรับการถ่ายทอดสดในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่มี2 คู่ที่ไม่ได้มีแผนที่จะถ่ายทอดสดทางช่อง5หรือช่อง7 แต่มีเฉพาะช่อง8ในระบบทีวีดิจิตอล ทางอาร์เอสจึงได้ติดต่อกับทางช่อง11 ให้ร่วมถ่ายทอดสดทั้ง 2 คู่แล้ว
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่ศาลปกครองพิพากษาตัดสินให้อาร์เอสชนะคดี เกี่ยวกับหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 หรือ กฏมัสต์แฮฟ ข้อ3 ลำดับที่7 การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เพราะอาร์เอสเป็นผู้ได้รับสิทธิในการแพร่ภาพและเสียง การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ปี ค.ศ. 2014 อยู่แล้ว ในขณะที่ออกประกาศดังกล่าว จึงไม่เป็นธรรมกับอาร์เอส และเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่อาจนำประกาศดังกล่าวมาใช้กับอาร์เอสได้ ซึ่งอาร์เอสยังคงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดครั้งนี้อยู่
แม้ว่าในช่วงวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางอาร์เอสจะได้รับการประสานจากกสทช. หารือเร่งด่วนเพื่อนำการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้มาออกอากาศทางฟรีทีวีครบ 64 แมทช์ให้คนไทยได้รับชมโดยพร้อมจะให้เงินสนับสนุนเพื่อชดเชยความเสียหายเป็นเม็ดเงิน 427 ล้านบาท ซึ่งในเชิงธุรกิจถือเป็นตัวเลขที่ไม่คุ้มกับโอกาสทางธุรกิจที่จะสูญเสียไปก็ตาม แต่ทางอาร์เอสพร้อมให้ความร่วมมือ โดยเร่งประสานผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย คือ พลโท ชาติอุดม ติตกะสิริ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีกองทัพบกช่อง5 และนายพลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง7 ในการร่วมถ่ายทอดฟุตบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมายังดำเนินไปตามแผนที่วางไว้
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า รายได้จากฟุตบอลโลก 650 ล้านบาทน่าจะได้ตามแผนที่วางไว้ ขณะที่เงินชดเชยจากกสทช.427 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ได้รับมาเพียง 100 ล้านบาทเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือยังไม่ทราบว่าจะได้ช่วงเวลาใด ซึ่งหากทางกสทช.จะจ่ายไม่ครบ 427 ล้านบาท ตอนนี้ยังไม่คิดถึงขั้นนั้น และยังไม่มีแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ด้านนางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า สำหรับตัวเลขการคืนกล่องบอลโลก อยู่ที่กว่า 2 แสนกล่อง จากทั้งหมดที่ขายไป 3 แสนกล่อง จากเป้าหมาย 1 ล้านกล่อง ซึ่งทางอาร์เอสจะชดเชยค่าเสียให้รายละ 1,590 บาท คิดเป็นมูลค่าที่ต้องจ่ายประมาณ 318 ล้านบาท ส่วนตัวเลขสมาชิกที่สมัครดูฟุตบอลโลกมีอยู่ 30,000 กว่าราย ชดเชยให้รายละ 299 บาท คิดเป็นเงิน 8.9 ล้านบาท รวมแล้วทางอาร์เอสต้องชดเชยให้ลูกค้าเป็นมูลค่า 326 กว่าล้านบาท
“เงินชดเชย 427 ล้านบาท ที่ได้จากกสทช.ส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ชดเชยให้ลูกค้าที่ซื้อกล่องบอลโลกและสมัครสมาชิกรับชมฟุตบอลโลกก็เกือบจะหมดแล้ว ถือเป็นการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจที่อาร์เอสน่าจะได้อย่างน้อย 770 ล้านบาท แต่ทางกสทช.ให้มา 427 ล้านบาท ถึงแม้จะเป็นตัวเลขไม่คุ้มเสียแต่เป็นตัวเลขที่ถูกพิจารณาบนข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งหากสุดท้ายแล้วกสทช.จะไม่จ่ายให้ครบ ก็ต้องมีหลักฐานมายืนยันว่าเกิดจากสาเหตุใด ขณะที่อาร์เอสดำเนินตามแผนที่นำเสนออย่างถูกต้องครบถ้วน โดยมีการถ่ายทอดสดทางช่อง5 จำนวน 38 แมทช์ ช่อง7 อีก 29 แมทช์ และช่อง8 อีก 56 แมทช์”
วานนี้ (2ก.ค.) อาร์เอส ได้จัดแถลงการณ์ชี้แจงและทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ขึ้นอีกครั้ง หลังจากในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้ ทางอาร์เอสตกเป็นจำเลยทางสังคม และถูกนำเสนอข่าวอย่างบิดเบือนคาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ในกรณีที่ว่า อาร์เอสมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกทางฟรีทีวีไม่ครบ 64 แมตช์ โดยเฉพาะในช่วงการแข่งขัน 16 ทีมสุดท้าย ที่ไม่ได้มีการถ่ายทอดสดจำนวน 2 คู่ทางช่อง5หรือช่อง7
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การแถลงข่าวในวันนี้ เพื่อต้องการชี้แจงให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนว่าทางอาร์เอสได้ทำการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครบทั้ง 64 แมทช์ทางฟรีทีวี ตามแผนที่ตกลงไว้กับทางกสทช เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะมีความเข้าใจคาดเคลื่อนกันกับความหมายของคำว่าฟรีทีวี ที่ทางอาร์เอสหมายถึง ฟรีทีวีในปัจจุบันที่มีอยู่ 24 ช่องในระบบทีวีดิจิตอล ซึ่งช่อง8 ถือเป็นหนึ่งช่องฟรีทีวีในระบบทีวีดิจิตอล แต่ทางกสทช.อาจจะเข้าใจถึงคำว่าฟรีทีวีในระบบทีวีอะนาล็อก ทำให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน
อย่างไรก็ตามทางอาร์เอสได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว สำหรับการถ่ายทอดสดในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่มี2 คู่ที่ไม่ได้มีแผนที่จะถ่ายทอดสดทางช่อง5หรือช่อง7 แต่มีเฉพาะช่อง8ในระบบทีวีดิจิตอล ทางอาร์เอสจึงได้ติดต่อกับทางช่อง11 ให้ร่วมถ่ายทอดสดทั้ง 2 คู่แล้ว
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่ศาลปกครองพิพากษาตัดสินให้อาร์เอสชนะคดี เกี่ยวกับหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 หรือ กฏมัสต์แฮฟ ข้อ3 ลำดับที่7 การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เพราะอาร์เอสเป็นผู้ได้รับสิทธิในการแพร่ภาพและเสียง การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ปี ค.ศ. 2014 อยู่แล้ว ในขณะที่ออกประกาศดังกล่าว จึงไม่เป็นธรรมกับอาร์เอส และเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่อาจนำประกาศดังกล่าวมาใช้กับอาร์เอสได้ ซึ่งอาร์เอสยังคงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดครั้งนี้อยู่
แม้ว่าในช่วงวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางอาร์เอสจะได้รับการประสานจากกสทช. หารือเร่งด่วนเพื่อนำการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้มาออกอากาศทางฟรีทีวีครบ 64 แมทช์ให้คนไทยได้รับชมโดยพร้อมจะให้เงินสนับสนุนเพื่อชดเชยความเสียหายเป็นเม็ดเงิน 427 ล้านบาท ซึ่งในเชิงธุรกิจถือเป็นตัวเลขที่ไม่คุ้มกับโอกาสทางธุรกิจที่จะสูญเสียไปก็ตาม แต่ทางอาร์เอสพร้อมให้ความร่วมมือ โดยเร่งประสานผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย คือ พลโท ชาติอุดม ติตกะสิริ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีกองทัพบกช่อง5 และนายพลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง7 ในการร่วมถ่ายทอดฟุตบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมายังดำเนินไปตามแผนที่วางไว้
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า รายได้จากฟุตบอลโลก 650 ล้านบาทน่าจะได้ตามแผนที่วางไว้ ขณะที่เงินชดเชยจากกสทช.427 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ได้รับมาเพียง 100 ล้านบาทเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือยังไม่ทราบว่าจะได้ช่วงเวลาใด ซึ่งหากทางกสทช.จะจ่ายไม่ครบ 427 ล้านบาท ตอนนี้ยังไม่คิดถึงขั้นนั้น และยังไม่มีแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ด้านนางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า สำหรับตัวเลขการคืนกล่องบอลโลก อยู่ที่กว่า 2 แสนกล่อง จากทั้งหมดที่ขายไป 3 แสนกล่อง จากเป้าหมาย 1 ล้านกล่อง ซึ่งทางอาร์เอสจะชดเชยค่าเสียให้รายละ 1,590 บาท คิดเป็นมูลค่าที่ต้องจ่ายประมาณ 318 ล้านบาท ส่วนตัวเลขสมาชิกที่สมัครดูฟุตบอลโลกมีอยู่ 30,000 กว่าราย ชดเชยให้รายละ 299 บาท คิดเป็นเงิน 8.9 ล้านบาท รวมแล้วทางอาร์เอสต้องชดเชยให้ลูกค้าเป็นมูลค่า 326 กว่าล้านบาท
“เงินชดเชย 427 ล้านบาท ที่ได้จากกสทช.ส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ชดเชยให้ลูกค้าที่ซื้อกล่องบอลโลกและสมัครสมาชิกรับชมฟุตบอลโลกก็เกือบจะหมดแล้ว ถือเป็นการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจที่อาร์เอสน่าจะได้อย่างน้อย 770 ล้านบาท แต่ทางกสทช.ให้มา 427 ล้านบาท ถึงแม้จะเป็นตัวเลขไม่คุ้มเสียแต่เป็นตัวเลขที่ถูกพิจารณาบนข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งหากสุดท้ายแล้วกสทช.จะไม่จ่ายให้ครบ ก็ต้องมีหลักฐานมายืนยันว่าเกิดจากสาเหตุใด ขณะที่อาร์เอสดำเนินตามแผนที่นำเสนออย่างถูกต้องครบถ้วน โดยมีการถ่ายทอดสดทางช่อง5 จำนวน 38 แมทช์ ช่อง7 อีก 29 แมทช์ และช่อง8 อีก 56 แมทช์”