**เหล่าบิ๊กข้าราชการทั้งหลายยังคงหายใจกันไม่ได้ทั่วท้อง เพราะยังมีข่าวยืนยันมาว่าการจัดทัพข้าราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังคงดำเนินต่อไป
ยังไม่หมดแค่การโยกย้ายล็อตใหญ่ช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะล่าสุดที่คสช. มีคำสั่งเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 30 มิ.ย. เด้งสองปลัดกระทรวงคนดัง คือ สมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม และ โชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ตอนนี้ทั้งสองคนกลายเป็นอดีตปลัดฯไปแล้ว โดนเข้ากรุที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ให้จับตาดูกันต่อไป เพราะอาจมีการโยกย้ายบิ๊กข้าราชการอีกบางส่วนตามมา แต่อาจต้องเว้นอีกสักระยะต่อจากนี้ หลังจากจัดทัพใหญ่กันไปแล้วเกือบแทบทุกกระทรวง
ข่าววงในบอกว่า เหตุที่ยังมีการย้ายบิ๊กขรก.หลายกระทรวงทั้งระดับ 11และระดับ 10 กันไม่จบไม่สิ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลังคสช. สั่งให้ทุกกระทรวงส่งแผนงาน-โครงการต่างๆ เพื่อเอาไปจัดทำเป็นงบฯรายจ่ายประจำปี 58 รวมถึงคสช. มีการตรวจสอบความคืบหน้างบและโครงการต่างๆ ที่เป็นงบผูกพันประจำปีและงบตั้งใหม่ที่จะอยู่ในงบฯปี 58 ก็ได้พบว่า บางกระทรวงมีการตั้งงบ-โครงการที่ทำค้างไว้สมัยรัฐบาลเพื่อไทย แล้วเอามาขอทำต่อในงบฯ 58
**คสช.เห็นว่า อาจเป็นการตั้งงบและโครงการที่จะทำให้นักการเมืองบางกลุ่มโดยเฉพาะในรัฐบาลชุดที่แล้วรวมถึงคนในกระทรวงนั้นๆ จะได้ประโยชน์
เช่น การประมูลโครงการต่างๆ–การจัดซื้อจัดจ้าง ที่กลุ่มเครือข่ายนักการเมือง บริษัทนักการเมืองจะได้งานไป จนอาจเปิดช่องให้มีการหาผลประโยชน์ได้ เมื่อ คสช.รู้ข้อมูลส่วนนี้ จึงตัดสินใจย้ายบิ๊กข้าราชการหลายคนในช่วงนี้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อโฟกัสไปที่ กระทรวงมหาดไทย ก็น่าติดตามอย่างมาก หลังช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือช่วง เสาร์-อาทิตย์ ที่เป็นวันหยุดราชการ วิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็ซุ่มเงียบลงนามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย 2 คำสั่ง เพื่อโยกย้ายปรับเปลี่ยนระดับ 10 ของกระทรวง รวม 7 ตำแหน่ง
เริ่มจากคำสั่งล็อตแรก ที่ออกมาวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย. แม้จะเป็นแค่คำสั่งโยกย้ายแบบล็อตเล็กๆ ที่ให้มีผลตั้งแต่ 7 ก.ค. 57 แต่ก็มีความน่าสนใจในตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน เมื่อ มีการโยก"พินิจ หาญพานิชย์" อธิบดีกรมที่ดิน ไปเป็น ผวจ.สมุทรปราการ แทน คณิต เอี่ยมระหงส์ ผวจ.สมุทรปราการ ที่โดนย้ายเข้ากรุไปเป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
**ส่วนอธิบดีกรมที่ดินที่ว่างลง ก็เอาอดีตพ่อเมืองปทุมธานีคนดัง “พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า”ที่ตอนนี้เป็น ผวจ.ชุมพร ไปเป็นอธิบดีกรมที่ดินแทน
อีกทั้งยังโยก กฤษดา บุญราช ผวจ.สงขลา มาเป็นรองปลัดฯมหาดไทย แทน ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล ที่ข้ามห้วยไปเป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเต็มตัวแล้ว แล้วก็ให้นายธำรงค์ เจริญกุล จาก ผวจ.พังงา ไปเป็น ผวจ.สงขลาแทน
**แต่ถัดมาอีกวันเดียว คือ วันอาทิตย์ที่ 29 มิ.ย. วิบูลย์ ปลัดฯ มท. ก็มีคำสั่งออกมาอีกครั้ง โดยเด้ง ศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง ไปเป็น รองปลัดฯมหาดไทย แล้วโยก กฤษฎา บุญราช ที่คำสั่งเมื่อวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.ให้ไปเป็นรองปลัดฯ มท. ก็มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งให้ มาเป็น อธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งหากเป็นสถานการณ์ปกติ รับรองได้ว่า การออกคำสั่งแบบนี้ของวิบูลย์ ต้องถูกวิจารณ์อย่างหนักจากทั้งคนใน และคนนอกกระทรวงมหาดไทยแน่นอน
สำหรับ พินิจ อธิบดีกรมที่ดิน และศิริพงษ์ อธิบดีกรมการปกครอง หากจำกันได้ “ทีมข่าวการเมือง”บอกไว้ตั้งแต่วันที่ คสช. ทำรัฐประหารใหม่ๆ ว่า ยังไง พินิจ กับศิริพงษ์ สอง คนนี้ ต้องโดนเด้งแน่นอน ด้วยความที่ภาพชัดว่าได้ดิบได้ดีเพราะฝ่ายการเมืองเพื่อไทยหนุนหลัง แม้อยู่รอดมาได้เป็นเดือน ก่อนที่สุดท้ายต้องกระเด็นออกจากเก้าอี้ตามคาด
อย่าง พินิจ นั้นนอกจากเป็น น้องเขย อนันต์ อัศวโภคิน มหาเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และธุรกิจอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่ตัว อนันต์ ได้เปิดตัวชัดว่าเป็นกลุ่มทุนให้กับพรรคเพื่อไทย และแนบแน่นกับทักษิณ จนถูกคสช. เชิญไปรายงานตัวมาแล้ว อีกทั้งตัวของ พินิจ ที่เคยเป็นรอง ผวจ.เชียงราย ร่วม 4 ปี รวมถึง ผู้ว่าฯลำพูน ที่แม้จะแค่ช่วงสั้นๆ ก่อนมาเป็นอธิบดีกรมที่ดิน แต่ก็มีข่าวว่าสนิทกับแกนนำพรรคเพื่อไทย สายภาคเหนือหลายคน
ด้วยเหตุนี้ คนในมหาดไทยเอง ก็เก็งกันตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.แล้ว ยังไง พินิจ ซึ่งจะเกษียณในปี 2559 ไม่รอดแน่นอน แต่นึกไม่ถึงว่าจะอยู่ได้ยาวมาจนถึงปลายเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งเชื่อว่า เหตุที่ปลัดฯมหาดไทย ต้องมาเขย่าโผคลองหลอดอีกรอบ เมื่อปลายสัปดาห์ ตัว วิบูลย์ น่าจะได้รับสัญญาณอะไรบางอย่างจากคสช. มาแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ที่ พินิจ โดนโยกจาก อธิบดีกรมที่ดิน มาอยู่สมุทรปราการ ว่าไปแล้วก็ถือว่าไม่ขี้เหร่ เกินไปนัก เพราะสมุทรปราการ ก็เป็นจังหวัดใหญ่ มีความสำคัญไม่ใช่น้อย ยังไงก็ดีกว่าโดนเด้งเข้ากรุ เหมือนพวกผู้ว่าฯสายเพื่อไทยหลายคนก่อนหน้านี้ รวมถึงตัว คณิต เอี่ยมระหงส์ ตามข่าวบอกว่า เป็นคนซึ่ง ประชา ประสพดี อดีตรมช.มหาดไทย-อดีต ส.ส.สมุทรปราการ หลายสมัยผลักดันมาเป็น ผวจ.สมุทรปราการ ต่อจากนี้ก็ต้องไปเข้ากรุผู้ตรวจฯ ยาว
ขณะที่ ศิริพงษ์ ก็ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะที่ผ่านมาภาพชัดว่าอยู่กับสายเพื่อไทยมาตลอดเพราะได้ขยับจากผู้ว่าฯปทุมธานี มาเป็นอธิบดีปกครองฯ ก็เพราะ ทักษิณ ชินวัตร ไฟเขียวเห็นชอบ บทบาทก่อนหน้านี้ก็เช่นสั่งให้ทุกอำเภอขึ้นป้ายคัตเอาต์ สนับสนุนการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯจนโดนด่ายับเยิน
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีคำสั่งให้นายอำเภอทั่วประเทศ ทำซีดีบันทึกเสียง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ออกโทรทัศน์แจงเรื่องจ่ายชำระหนี้ให้กับชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวล่าช้า เพื่อส่งไปยังทุกหมู่บ้านทั่วประเทศเอาไปเปิดตามหอกระจายข่าว หากไม่เด้ง ศิริพงษ์ ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
** ส่วน กฤษฎา บุญราช อธิบดีปกครองคนใหม่ที่จะเกษียณในปี 2560 เป็นใครมาจากไหน ถึงได้โยกจาก ผวจ.สงขลา มาเป็นรองปลัดฯมท. ไม่ถึง 24 ชั่วโมง แล้วก็มาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง ข่าวบอกว่า ชื่อนี้มีอดีตบิ๊กทหารที่ตอนนี้เป็นกุนซือใหญ่ในคสช.คนหนึ่ง ชื่นชอบฝีมือมากสมัยเป็นรองผู้ว่าฯ อยู่ที่ยะลา
เพราะเห็นว่าทำงานถึงลูกถึงคนในการแก้ปัญหาภาคใต้ เลยสนับสนุนให้เติบใหญ่มาตลอด จนได้เป็น ผวจ.สงขลา มาหลายปีติดต่อกันแม้แต่สมัยรัฐบาลเพื่อไทย ก็ไม่โดนเด้ง เมื่อคสช. มีอำนาจ อดีตบิ๊กทหารคนดังกล่าว ก็เลยดันมาเป็นอธิบดีปกครอง
ทั้งนี้ มีข่าวบางกระแสพูดกันว่า คนที่มีบทบาทสำคัญในการทำโผมหาดไทย แล้วส่งซิกไปยัง วิบูลย์ ให้ปรับเปลี่ยนตามที่ คสช. ต้องการ ไม่ใช่ใครที่ไหน “บิ๊กโด่ง –พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร”รอง ผบ.ทบ.นั่นเอง เนื่องจาก “บิ๊กโด่ง”ในฐานะเลขาธิการคสช. จะมีข้อมูลที่ทหารจากกองทัพภาคต่างๆ ส่งข้อมูลมายัง ทีมงานคสช. ว่า ผู้ว่าฯคนไหน จังหวัดใด ทำงานดี ไม่ดี ใฝ่การเมืองสูง เอาไว้ในพื้นที่ไม่ได้ เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของคสช. จากนั้น เมื่อ“บิ๊กโด่ง”ได้ข้อมูลแล้ว ก็จะประสานไปยัง ปลัดฯวิบูลย์ อีกที ให้ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม คาดได้ว่า รายการปรับเปลี่ยนโยกย้ายในกระทรวงมหาดไทยอาจไม่จบแค่นี้ บิ๊กมหาดไทยบางคนที่ภาพดูไม่ค่อยเป็นกลางในช่วงที่ผ่านมา ก็คงต้องลุ้นระทึกไปตลอดโดยเฉพาะอธิบดีบางกรม ที่ถูกจับตามาตลอดว่า น่าจะต้องหลุดจากเก้าอี้แต่ก็ไม่หลุดเสียที ซึ่งก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะรอดไปได้เรื่อยๆ แม้ต่อให้ ปลัดฯวิบูลย์ กางปีกป้องให้อยู่ แต่หากมีสัญญาณมาจาก คสช. เชื่อได้ว่า วิบูลย์ ก็ต้องเด็ดทิ้ง
** เพราะลำพังเก้าอี้ปลัดฯมหาดไทยของตัวเอง ก็ยังต้องลุ้นเหมือนกัน ว่าจะได้อยู่จนเกษียณหรือไม่ !
ยังไม่หมดแค่การโยกย้ายล็อตใหญ่ช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะล่าสุดที่คสช. มีคำสั่งเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 30 มิ.ย. เด้งสองปลัดกระทรวงคนดัง คือ สมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม และ โชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ตอนนี้ทั้งสองคนกลายเป็นอดีตปลัดฯไปแล้ว โดนเข้ากรุที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ให้จับตาดูกันต่อไป เพราะอาจมีการโยกย้ายบิ๊กข้าราชการอีกบางส่วนตามมา แต่อาจต้องเว้นอีกสักระยะต่อจากนี้ หลังจากจัดทัพใหญ่กันไปแล้วเกือบแทบทุกกระทรวง
ข่าววงในบอกว่า เหตุที่ยังมีการย้ายบิ๊กขรก.หลายกระทรวงทั้งระดับ 11และระดับ 10 กันไม่จบไม่สิ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลังคสช. สั่งให้ทุกกระทรวงส่งแผนงาน-โครงการต่างๆ เพื่อเอาไปจัดทำเป็นงบฯรายจ่ายประจำปี 58 รวมถึงคสช. มีการตรวจสอบความคืบหน้างบและโครงการต่างๆ ที่เป็นงบผูกพันประจำปีและงบตั้งใหม่ที่จะอยู่ในงบฯปี 58 ก็ได้พบว่า บางกระทรวงมีการตั้งงบ-โครงการที่ทำค้างไว้สมัยรัฐบาลเพื่อไทย แล้วเอามาขอทำต่อในงบฯ 58
**คสช.เห็นว่า อาจเป็นการตั้งงบและโครงการที่จะทำให้นักการเมืองบางกลุ่มโดยเฉพาะในรัฐบาลชุดที่แล้วรวมถึงคนในกระทรวงนั้นๆ จะได้ประโยชน์
เช่น การประมูลโครงการต่างๆ–การจัดซื้อจัดจ้าง ที่กลุ่มเครือข่ายนักการเมือง บริษัทนักการเมืองจะได้งานไป จนอาจเปิดช่องให้มีการหาผลประโยชน์ได้ เมื่อ คสช.รู้ข้อมูลส่วนนี้ จึงตัดสินใจย้ายบิ๊กข้าราชการหลายคนในช่วงนี้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อโฟกัสไปที่ กระทรวงมหาดไทย ก็น่าติดตามอย่างมาก หลังช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือช่วง เสาร์-อาทิตย์ ที่เป็นวันหยุดราชการ วิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็ซุ่มเงียบลงนามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย 2 คำสั่ง เพื่อโยกย้ายปรับเปลี่ยนระดับ 10 ของกระทรวง รวม 7 ตำแหน่ง
เริ่มจากคำสั่งล็อตแรก ที่ออกมาวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย. แม้จะเป็นแค่คำสั่งโยกย้ายแบบล็อตเล็กๆ ที่ให้มีผลตั้งแต่ 7 ก.ค. 57 แต่ก็มีความน่าสนใจในตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน เมื่อ มีการโยก"พินิจ หาญพานิชย์" อธิบดีกรมที่ดิน ไปเป็น ผวจ.สมุทรปราการ แทน คณิต เอี่ยมระหงส์ ผวจ.สมุทรปราการ ที่โดนย้ายเข้ากรุไปเป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
**ส่วนอธิบดีกรมที่ดินที่ว่างลง ก็เอาอดีตพ่อเมืองปทุมธานีคนดัง “พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า”ที่ตอนนี้เป็น ผวจ.ชุมพร ไปเป็นอธิบดีกรมที่ดินแทน
อีกทั้งยังโยก กฤษดา บุญราช ผวจ.สงขลา มาเป็นรองปลัดฯมหาดไทย แทน ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล ที่ข้ามห้วยไปเป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเต็มตัวแล้ว แล้วก็ให้นายธำรงค์ เจริญกุล จาก ผวจ.พังงา ไปเป็น ผวจ.สงขลาแทน
**แต่ถัดมาอีกวันเดียว คือ วันอาทิตย์ที่ 29 มิ.ย. วิบูลย์ ปลัดฯ มท. ก็มีคำสั่งออกมาอีกครั้ง โดยเด้ง ศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง ไปเป็น รองปลัดฯมหาดไทย แล้วโยก กฤษฎา บุญราช ที่คำสั่งเมื่อวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.ให้ไปเป็นรองปลัดฯ มท. ก็มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งให้ มาเป็น อธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งหากเป็นสถานการณ์ปกติ รับรองได้ว่า การออกคำสั่งแบบนี้ของวิบูลย์ ต้องถูกวิจารณ์อย่างหนักจากทั้งคนใน และคนนอกกระทรวงมหาดไทยแน่นอน
สำหรับ พินิจ อธิบดีกรมที่ดิน และศิริพงษ์ อธิบดีกรมการปกครอง หากจำกันได้ “ทีมข่าวการเมือง”บอกไว้ตั้งแต่วันที่ คสช. ทำรัฐประหารใหม่ๆ ว่า ยังไง พินิจ กับศิริพงษ์ สอง คนนี้ ต้องโดนเด้งแน่นอน ด้วยความที่ภาพชัดว่าได้ดิบได้ดีเพราะฝ่ายการเมืองเพื่อไทยหนุนหลัง แม้อยู่รอดมาได้เป็นเดือน ก่อนที่สุดท้ายต้องกระเด็นออกจากเก้าอี้ตามคาด
อย่าง พินิจ นั้นนอกจากเป็น น้องเขย อนันต์ อัศวโภคิน มหาเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และธุรกิจอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่ตัว อนันต์ ได้เปิดตัวชัดว่าเป็นกลุ่มทุนให้กับพรรคเพื่อไทย และแนบแน่นกับทักษิณ จนถูกคสช. เชิญไปรายงานตัวมาแล้ว อีกทั้งตัวของ พินิจ ที่เคยเป็นรอง ผวจ.เชียงราย ร่วม 4 ปี รวมถึง ผู้ว่าฯลำพูน ที่แม้จะแค่ช่วงสั้นๆ ก่อนมาเป็นอธิบดีกรมที่ดิน แต่ก็มีข่าวว่าสนิทกับแกนนำพรรคเพื่อไทย สายภาคเหนือหลายคน
ด้วยเหตุนี้ คนในมหาดไทยเอง ก็เก็งกันตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.แล้ว ยังไง พินิจ ซึ่งจะเกษียณในปี 2559 ไม่รอดแน่นอน แต่นึกไม่ถึงว่าจะอยู่ได้ยาวมาจนถึงปลายเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งเชื่อว่า เหตุที่ปลัดฯมหาดไทย ต้องมาเขย่าโผคลองหลอดอีกรอบ เมื่อปลายสัปดาห์ ตัว วิบูลย์ น่าจะได้รับสัญญาณอะไรบางอย่างจากคสช. มาแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ที่ พินิจ โดนโยกจาก อธิบดีกรมที่ดิน มาอยู่สมุทรปราการ ว่าไปแล้วก็ถือว่าไม่ขี้เหร่ เกินไปนัก เพราะสมุทรปราการ ก็เป็นจังหวัดใหญ่ มีความสำคัญไม่ใช่น้อย ยังไงก็ดีกว่าโดนเด้งเข้ากรุ เหมือนพวกผู้ว่าฯสายเพื่อไทยหลายคนก่อนหน้านี้ รวมถึงตัว คณิต เอี่ยมระหงส์ ตามข่าวบอกว่า เป็นคนซึ่ง ประชา ประสพดี อดีตรมช.มหาดไทย-อดีต ส.ส.สมุทรปราการ หลายสมัยผลักดันมาเป็น ผวจ.สมุทรปราการ ต่อจากนี้ก็ต้องไปเข้ากรุผู้ตรวจฯ ยาว
ขณะที่ ศิริพงษ์ ก็ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะที่ผ่านมาภาพชัดว่าอยู่กับสายเพื่อไทยมาตลอดเพราะได้ขยับจากผู้ว่าฯปทุมธานี มาเป็นอธิบดีปกครองฯ ก็เพราะ ทักษิณ ชินวัตร ไฟเขียวเห็นชอบ บทบาทก่อนหน้านี้ก็เช่นสั่งให้ทุกอำเภอขึ้นป้ายคัตเอาต์ สนับสนุนการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯจนโดนด่ายับเยิน
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีคำสั่งให้นายอำเภอทั่วประเทศ ทำซีดีบันทึกเสียง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ออกโทรทัศน์แจงเรื่องจ่ายชำระหนี้ให้กับชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวล่าช้า เพื่อส่งไปยังทุกหมู่บ้านทั่วประเทศเอาไปเปิดตามหอกระจายข่าว หากไม่เด้ง ศิริพงษ์ ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
** ส่วน กฤษฎา บุญราช อธิบดีปกครองคนใหม่ที่จะเกษียณในปี 2560 เป็นใครมาจากไหน ถึงได้โยกจาก ผวจ.สงขลา มาเป็นรองปลัดฯมท. ไม่ถึง 24 ชั่วโมง แล้วก็มาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง ข่าวบอกว่า ชื่อนี้มีอดีตบิ๊กทหารที่ตอนนี้เป็นกุนซือใหญ่ในคสช.คนหนึ่ง ชื่นชอบฝีมือมากสมัยเป็นรองผู้ว่าฯ อยู่ที่ยะลา
เพราะเห็นว่าทำงานถึงลูกถึงคนในการแก้ปัญหาภาคใต้ เลยสนับสนุนให้เติบใหญ่มาตลอด จนได้เป็น ผวจ.สงขลา มาหลายปีติดต่อกันแม้แต่สมัยรัฐบาลเพื่อไทย ก็ไม่โดนเด้ง เมื่อคสช. มีอำนาจ อดีตบิ๊กทหารคนดังกล่าว ก็เลยดันมาเป็นอธิบดีปกครอง
ทั้งนี้ มีข่าวบางกระแสพูดกันว่า คนที่มีบทบาทสำคัญในการทำโผมหาดไทย แล้วส่งซิกไปยัง วิบูลย์ ให้ปรับเปลี่ยนตามที่ คสช. ต้องการ ไม่ใช่ใครที่ไหน “บิ๊กโด่ง –พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร”รอง ผบ.ทบ.นั่นเอง เนื่องจาก “บิ๊กโด่ง”ในฐานะเลขาธิการคสช. จะมีข้อมูลที่ทหารจากกองทัพภาคต่างๆ ส่งข้อมูลมายัง ทีมงานคสช. ว่า ผู้ว่าฯคนไหน จังหวัดใด ทำงานดี ไม่ดี ใฝ่การเมืองสูง เอาไว้ในพื้นที่ไม่ได้ เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของคสช. จากนั้น เมื่อ“บิ๊กโด่ง”ได้ข้อมูลแล้ว ก็จะประสานไปยัง ปลัดฯวิบูลย์ อีกที ให้ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม คาดได้ว่า รายการปรับเปลี่ยนโยกย้ายในกระทรวงมหาดไทยอาจไม่จบแค่นี้ บิ๊กมหาดไทยบางคนที่ภาพดูไม่ค่อยเป็นกลางในช่วงที่ผ่านมา ก็คงต้องลุ้นระทึกไปตลอดโดยเฉพาะอธิบดีบางกรม ที่ถูกจับตามาตลอดว่า น่าจะต้องหลุดจากเก้าอี้แต่ก็ไม่หลุดเสียที ซึ่งก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะรอดไปได้เรื่อยๆ แม้ต่อให้ ปลัดฯวิบูลย์ กางปีกป้องให้อยู่ แต่หากมีสัญญาณมาจาก คสช. เชื่อได้ว่า วิบูลย์ ก็ต้องเด็ดทิ้ง
** เพราะลำพังเก้าอี้ปลัดฯมหาดไทยของตัวเอง ก็ยังต้องลุ้นเหมือนกัน ว่าจะได้อยู่จนเกษียณหรือไม่ !