“ยิ่งลักษณ์” เรียกประชุมมหาดไทย “จารุพงศ์” เผยทบทวนโครงการอะไรทำได้หรือไม่ “ประชา” คาดทวงคืนกระทรวงให้ได้สัปดาห์หน้า จวก “สาธิต” แทนที่จะสำนักบุญคุณชาติกลับไปร่วมมือกบฏ สร้างความแตกแยก จี้ ศรส.เอาจริง เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์อินเดีย
วันนี้ (7 ก.พ.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี เรียกประชุมรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ กระทรวงมหาดไทย เช่น นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ รมช.มหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงษ์ ปลัดดระทรวงมหาดไทย เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่ม กปปส.แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารในส่วนของกระทรวงมหาดไทย
ภายหลังการประชุม นายจารุพงศ์ เปิดเผยว่า เพื่อทบทวนโครงการต่างๆ ของกระทรวงมหาดไทย ที่จะตัองเร่งรัดการทำงานตามงบประมาณปี 57 โดยเฉพาะการพัฒนาจังหวัด เพื่อให้ข้าราชการเกิดความมั่นใจว่า อะไรที่ทำได้และทำไม่ได้
ด้านนายประชากล่าวว่า นายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยที่ดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับการใช้ชีวิตของประชาชน ทำการขับเคลื่อนกลไกการบริหารราชการต่างๆ สาธารณูปโภค ไม่ให้หยุดชะงัก ลดความเดือดร้อนจากผลกระทบการชุมนุมของม็อบ กปปส.ให้เหลือน้อยที่สุด ขณะเดียวกันยังได้พูดถึงการขอพื้นที่กระทรวงมหาดไทยคืน ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเจรจากับม็อบกปปส.มาแล้ว 2-3 ครั้งแต่ยังไม่สำเร็จ ฉะนั้นก็จะใช้กฎหมายให้กระชับขึ้น คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะขอคืนให้ได้ โดย ศรส.จะวางแผนร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะกระทรวงมหาดไทยถือว่าอยู่ใกล้กับที่ชุมนุม หากเกิดปัญหาก็จะมีการนำมวลชนมาอยู่ตลอด
นายประชายังกล่าวถึงกรณีสาธิต เซกัล นายกสมาคมธุกิจไทย-อินเดีย แกนนำ กปปส. ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอความเป็นธรรมกรณี ศรส.ออกคำสั่งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเนรเทศนายสาธิตออกจากประเทศไทยว่า นายสาธิตมาอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารของพระเจ้าอยู่หัวของแผ่นดินไทย มาทำธุรกิจการค้า ได้กำไรจากแผ่นดินไทยมหาศาล แต่กลับทำตัวไม่เหมาะสม ไปร่วมการชุมนุมกับ กปปส.ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เป็นแกนนำ ซึ่งถูกข้อหากบฏ แทนที่จะสำนึกบุญคุณกลับมาออกมาสร้างความแตกแยก การเนรเทศออกนอกประเทศมีเงื่อนไขของมันอยู่ ถ้าเข้าองค์ประกอบก็สามารถดำเนินการได้ เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแน่นอน เพราะเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลแยกแยะได้ ไม่ว่าใครก็ตามไปปลุกปั่นสร้างความแตกแยกในแผ่นดินคนอื่นก็อยู่ได้ไม่ วันนี้นายสาธิตควรพิจารณาตัวเอง ไม่ต้องรอให้มีการเนรเทศ ซึ่ง ศรส.ต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
