จากกรณีมีผู้ที่ใช้ชื่อว่า "สมาชิกหมายเลข 960410" ตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ www.pantip.com รวม 2 หัวข้อ "ไม่ทราบว่าแม่ชีที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ จะสามารถเอาผิดในทางพระธรรมวินัย และกฎหมายได้หรือไม่ อย่างไรครับ"ลิงค์ http://pantip.com/topic/30870363 และ"เชอรี่...เจ้าหญิงแห่งวัดถ้ำ" ลิงค์ http://pantip.com/topic/30889978 วิพากษ์วิจารณ์แม่ชี้คนหนึ่งในวัดถ้ำขวัญเมือง หมู่ 4 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร ว่าแม่ชีเชอรี่ หรือแม่ชีสุปริญญา ฮุนนางกุล มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สวมใส่ยกทรงที่สวยงาม มีการใช้เครื่องประทินผิวทาให้หน้าขาว ทาปากแดง ผูกผ้าพันคอลายดอก ใช้กระเป๋าแบรนด์เนมสีฉูดฉาด ราคาแพง ไม่เหมาะกับผู้ปฏิบัติธรรม ใส่นาฬิกาข้อมือ ไม่ทำวัตรเช้า-เย็น ไปกิจนิมนต์กับเจ้าอาวาสทุกงาน อำนาจในวัดทุกอย่างขึ้นอยู่กับแม่ชี ทั้งที่น่าจะเป็นกิจของสงฆ์ ฯลฯ นั้น
เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพระประพาฬ รักฐิตศรีโร พระลูกวัดถ้ำขวัญเมือง ซึ่งอุปสมบทได้เพียง 5 พรรษา โดยได้รับอนุญาตจากผู้ช่วยเจ้าอาวาส ให้ชี้แจงกับสื่อมวลชน กรณีมีข่าวว่าคนที่มาอุปสมบทต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 30,000 บาทต่อคนว่า ไม่เป็นความจริง เพราะทางวัดคิดค่าใช้จ่ายเพียง 10,000 บาท เป็นค่าอัฐบริขาร และค่าอาหารเลี้ยงคนที่มาร่วมงาน
สำหรับการปิดประกาศของทางวัดห้ามบุคคลบางคนเข้ามาภายในวัด โดยการขึ้นป้ายขนาดใหญ่พร้อมภาพถ่ายและระบุชื่อ จนชาวบ้านหลายคนไม่สบายใจและไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่าวัดเป็นของพุทธศาสนิกชน ทุกคนมีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมทางศาสนาได้อย่างเท่าเทียมกันนั้น สาเหตุที่ขึ้นป้ายประกาศห้าม เนื่องจากทางวัดเกรงว่าบุคคลในภาพ จะมาสร้างความแตกแยกภายในวัด ซึ่งบุคคลที่อยู่ในภาพทำการฝ่าฝืนกฎระเบียบของวัด ไม่ปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง จึงมีมาตรการการลงโทษ
พระประพาฬ ยังปฏิเสธกรณีที่หลายคนมองว่าแม่ชีเชอรี่ เบิกจ่ายเงินในวัดอย่างเสรีว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากการเบิกจ่ายเงินทุกครั้ง จะต้องมีคนรับรู้และร่วมเซ็นชื่อ คือ เจ้าอาวาส มัคนายก และแม่ชีเชอรี่ โดยแม่ชีเชอรี่จะเป็นธุระเบิกจ่ายตามคำสั่งของเจ้าอาวาส ซึ่งประเด็นนี้หลังเจ้าอาวาสเสร็จภารกิจนิมนต์ที่ต่างจังหวัด อาจจะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอีกครั้ง แต่ยังไม่ทราบว่าเมื่อไหร่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า แม่ชีเชอรี่ซื้อที่ดินเพื่อสร้างรีสอร์ต ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าทางวัดทราบเรื่องหรือไม่ พระประพาฬ ตอบว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่จะเรียนกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสได้ทราบต่อไป เพราะขณะนี้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสยังติดนิมนต์อยู่ที่จ.สงขลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชาวบ้านและผู้นำชุมชน หลังทราบเรื่องแม่ชีเชอรี่ตกเป็นข่าวแล้ว หลายคนเรียกร้องให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง มาตรวจสอบกระแสเงินเข้าออกร่วมกับทางวัด เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เพราะที่ผ่านมามีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยการดำเนินการของแม่ชี ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงแม่ชีเชอรี่ที่จะได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะแต่ละปีทางวัดถ้ำขวัญเมือง จะมีเงินทอดกฐินนับสิบล้านบาท ยังไม่รวมเงินบริจาคอื่นๆภายในวัด ส่วนการก่อสร้างอาคารสถานที่ในวัด รวมมูลค่าแล้วน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท พร้อมเรียกร้องให้เจ้าอาวาสและแม่ชีเชอรี่ ออกมาชี้แจงข้อสงสัย ทุกอย่างจะได้จบ และไม่ทำให้ชื่อเสียงของวัดต้องเสียหายมากไปกว่านี้
นอกจากนี้ชาวบ้านยังตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมทางวัดให้พระที่อุปสมบทเพียง 5 พรรษาชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ทั้งที่พระชั้นผู้ใหญ่ควรจะออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง อีกทั้งการชี้แจงของพระประพาฬ ก็ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงหลายอย่าง โดยเฉพาะกรณีบุคคลต้องห้ามเข้าวัดนั้น ส่วนใหญ่เป็นศิษย์เก่าแก่ตั้งแต่สมัยหลวงปู่สรวง เป็นเจ้าอาวาส บางคนร่วมก่อตั้งวัด บางคนเป็นมัคนายก บางคนเป็นกรรมการวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้รับการติดต่อผู้ที่ถูกขึ้นป้ายห้ามเข้าวัดหลายคนว่า พร้อมจะเปิดตัว และเปิดเผยเรื่องราวต่างๆภายในวัด รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด.
เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพระประพาฬ รักฐิตศรีโร พระลูกวัดถ้ำขวัญเมือง ซึ่งอุปสมบทได้เพียง 5 พรรษา โดยได้รับอนุญาตจากผู้ช่วยเจ้าอาวาส ให้ชี้แจงกับสื่อมวลชน กรณีมีข่าวว่าคนที่มาอุปสมบทต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 30,000 บาทต่อคนว่า ไม่เป็นความจริง เพราะทางวัดคิดค่าใช้จ่ายเพียง 10,000 บาท เป็นค่าอัฐบริขาร และค่าอาหารเลี้ยงคนที่มาร่วมงาน
สำหรับการปิดประกาศของทางวัดห้ามบุคคลบางคนเข้ามาภายในวัด โดยการขึ้นป้ายขนาดใหญ่พร้อมภาพถ่ายและระบุชื่อ จนชาวบ้านหลายคนไม่สบายใจและไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่าวัดเป็นของพุทธศาสนิกชน ทุกคนมีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมทางศาสนาได้อย่างเท่าเทียมกันนั้น สาเหตุที่ขึ้นป้ายประกาศห้าม เนื่องจากทางวัดเกรงว่าบุคคลในภาพ จะมาสร้างความแตกแยกภายในวัด ซึ่งบุคคลที่อยู่ในภาพทำการฝ่าฝืนกฎระเบียบของวัด ไม่ปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง จึงมีมาตรการการลงโทษ
พระประพาฬ ยังปฏิเสธกรณีที่หลายคนมองว่าแม่ชีเชอรี่ เบิกจ่ายเงินในวัดอย่างเสรีว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากการเบิกจ่ายเงินทุกครั้ง จะต้องมีคนรับรู้และร่วมเซ็นชื่อ คือ เจ้าอาวาส มัคนายก และแม่ชีเชอรี่ โดยแม่ชีเชอรี่จะเป็นธุระเบิกจ่ายตามคำสั่งของเจ้าอาวาส ซึ่งประเด็นนี้หลังเจ้าอาวาสเสร็จภารกิจนิมนต์ที่ต่างจังหวัด อาจจะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอีกครั้ง แต่ยังไม่ทราบว่าเมื่อไหร่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า แม่ชีเชอรี่ซื้อที่ดินเพื่อสร้างรีสอร์ต ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าทางวัดทราบเรื่องหรือไม่ พระประพาฬ ตอบว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่จะเรียนกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสได้ทราบต่อไป เพราะขณะนี้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสยังติดนิมนต์อยู่ที่จ.สงขลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชาวบ้านและผู้นำชุมชน หลังทราบเรื่องแม่ชีเชอรี่ตกเป็นข่าวแล้ว หลายคนเรียกร้องให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง มาตรวจสอบกระแสเงินเข้าออกร่วมกับทางวัด เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เพราะที่ผ่านมามีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยการดำเนินการของแม่ชี ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงแม่ชีเชอรี่ที่จะได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะแต่ละปีทางวัดถ้ำขวัญเมือง จะมีเงินทอดกฐินนับสิบล้านบาท ยังไม่รวมเงินบริจาคอื่นๆภายในวัด ส่วนการก่อสร้างอาคารสถานที่ในวัด รวมมูลค่าแล้วน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท พร้อมเรียกร้องให้เจ้าอาวาสและแม่ชีเชอรี่ ออกมาชี้แจงข้อสงสัย ทุกอย่างจะได้จบ และไม่ทำให้ชื่อเสียงของวัดต้องเสียหายมากไปกว่านี้
นอกจากนี้ชาวบ้านยังตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมทางวัดให้พระที่อุปสมบทเพียง 5 พรรษาชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ทั้งที่พระชั้นผู้ใหญ่ควรจะออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง อีกทั้งการชี้แจงของพระประพาฬ ก็ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงหลายอย่าง โดยเฉพาะกรณีบุคคลต้องห้ามเข้าวัดนั้น ส่วนใหญ่เป็นศิษย์เก่าแก่ตั้งแต่สมัยหลวงปู่สรวง เป็นเจ้าอาวาส บางคนร่วมก่อตั้งวัด บางคนเป็นมัคนายก บางคนเป็นกรรมการวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้รับการติดต่อผู้ที่ถูกขึ้นป้ายห้ามเข้าวัดหลายคนว่า พร้อมจะเปิดตัว และเปิดเผยเรื่องราวต่างๆภายในวัด รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด.