ชุมพร - พระลูกวัดถ้ำขวัญเมือง ออกโรงป้อง แจงติดป้ายห้ามบุคคลบางคนเข้าวัด เพราะเกรงสร้างความแตกแยก พร้อมยืนยันคนที่จะบวชที่วัดถ้ำขวัญเมืองเสียค่าใช้จ่ายแค่ 1 หมื่นบาท ส่วนกรณีข่าวลือแม่ชีซื้อที่ดินเพื่อสร้างรีสอร์ต อ้างยังไม่รู้เรื่อง
สำหรับความกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ถึงพฤติกรรมของแม่ชีเชอรี่ วัดถ้ำขวัญเมือง อ.สวี จ.ชุมพร ที่ขับรถปอร์เช่ราคาหลายล้าน และใช้กระเป๋าข้าวของเครื่องประดับยี่ห้อแบรนด์เนมราคาสุดแพงว่าเหมาะสมหรือไม่ และดูเหมือนว่าเรื่องดังกล่าวจะเริ่มบานปลายและแตกประเด็นใหม่ต่อไปเรื่อยๆ
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พระประพาฬ รักฐิตศรีโร พระลูกวัดถ้ำขวัญเมือง อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งบรรพชาได้เพียงแค่ 5 พรรษา หลังจากได้รับอนุญาตจากผู้ช่วยเจ้าอาวาสให้ชี้แจงต่อสื่อมวลชน กรณีมีการลงข่าวว่าคนที่มาบวชกับทางวัดจะต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 30,000 บาทต่อคน ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะในการบวชที่วัดทางวัดคิดค่าใช้จ่ายเพียง 10,000 บาทเท่านั้น เพื่อเป็นค่าอัฐบริขาร และค่าอาหารที่เลี้ยงคนที่มาร่วมงาน
นอกจากนั้น พระประพาฬ ยังได้ชี้ถึงการปิดประกาศของทางวัดห้ามบุคคลบางคนเข้ามาภายในวัด ซึ่งมีการขึ้นป้ายขนาดใหญ่พร้อมติดภาพถ่าย และระบุชื่อ ว่า ห้ามคนเหล่านี้เข้ามาภายในวัดหรือร่วมกิจกรรมกับทางวัด จนมีชาวบ้านหลายคนไม่ค่อยสบายใจ และไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่าวัดเป็นของชาวพุทธศาสนิกชน ทุกคนมีสิทธิสามารถมาร่วมกิจกรรมทางศาสนาได้อย่างเท่าเทียม ว่า สาเหตุที่มีการขึ้นป้ายประกาศห้ามบุคคลบางคนเข้าวัด เนื่องจากทางวัดเกรงว่าบุคคลต้องห้ามในภาพอาจจะมาสร้างความแตกแยกภายในวัด และบุคคลที่ออยู่ในภาพยังทำการฝ่าฝืนกฎระเบียบของวัดไม่ปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง จึงมีมาตรการการลงโทษโดยห้ามเข้าวัด และร่วมทำกิจกรรมของวัด
พระประพาฬ ยังปฏิเสธกรณีที่มีหลายคนมองว่า แม่ชีเชอรี่ สามารถเบิกจ่ายเงินในวัดอย่างเสรี ว่า เรื่องการเบิกจ่ายเงินอย่างเสรีนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากการเบิกจ่ายเงินทุกครั้งจะต้องมีคนรับรู้ และร่วมเซ็นชื่อคือ เจ้าอาวาส มัคคทายกวัด และแม่ชีเชอรี่ โดยแม่ชีเชอรี่ จะเป็นธุระในการเบิกจ่ายตามคำสั่งของเจ้าอาวาส ซึ่งประเด็นนี้หลังจากที่เจ้าอาวาสเสร็จภารกิจนิมนต์จากต่างจังหวัด อาจจะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้อีกครั้ง แต่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นเมื่อไหร่
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังสอบถามถึงมีกระแสข่าวกรณีที่มีข่าวลือออกมาว่า แม่ชีเชอรี่ ได้ไปซื้อที่ดินเพื่อปลูกสร้างรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า ทางวัดทราบหรือไม่ ซึ่งพระประพาฬ บอกว่าขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่อง แต่ก็จะนำเรียนต่อผู้ช่วยเจ้าอาวาสได้รับทราบในโอกาสต่อไป เพราะขณะนี้ท่านผู้ช่วยเจ้าอาวาสยังติดนิมนต์อยู่ที่จังหวัดสงขลา
ส่วนบรรยากาศการเคลื่อนไหวของชาวบ้าน และผู้นำชุมชนในพื้นที่หลังทราบเรื่องของแม่ชีเชอรี่ ที่ตกเป็นข่าวต่อสาธารณชน หลายคนออกมาเรียกร้อง อยากให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบกระแสเงินเข้าออกร่วมกับทางวัดถ้ำขวัญเมือง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งที่ผ่านมา มีหลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสงสัยเคลือบแคลงในการดำเนินการของแม่ชี และเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย รวมถึงแม่ชีเชอรี่ ที่จะได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ
ที่ผ่านมา ในแต่ละปีทางวัดถ้ำขวัญเมือง จะมีเงินรายได้จากการทอดกฐินเข้ามาปีละนับสิบล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมเงินบริจาคอื่นๆ ภายในวัด ส่วนการก่อสร้างวัดทั้งตัวอาคาร และสถานที่ในวัดรวมมูลค่าแล้วน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท พร้อมเรียกร้องให้เจ้าอาวาส และแม่ชีเชอรี่ ออกมาชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ต่อสังคมเพื่อทุกอย่างจะได้จบลง และไม่ทำให้ชื่อเสียงของวัดต้องเสียหายมากไปกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า การออกมาชี้แจงครั้งนี้ทำไมทางวัดถึงให้พระที่เพิ่งบวชเพียง 5 พรรษา และอยู่ที่วัดแห่งนี้มาเพียง 5 ปี ออกมาชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ในขณะที่เรื่องนี้ พระผู้ใหญ่ควรจะออกมาทำความเข้าใจ และชี้แจงข้อสงสัยด้วยตัวเอง และการชี้แจงในครั้งนี้ก็ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงหลายอย่าง โดยเฉพาะกรณีบุคคลต้องห้ามที่ทางวัดไม่ให้เข้าวัดนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ส่วนใหญ่เป็นศิษย์เก่าแก่ตั้งแต่สมัยหลวงปู่สรวง เป็นเจ้าอาวาสเกือบทั้งหมด บางคนเป็นคนที่เคยร่วมก่อตั้งวัด บางคนเป็นมัคทายก บางคนเป็นถึงกรรมการวัด ซึ่งขณะนี้มีหลายคนที่พร้อมจะเปิดตัว และกระชากหน้ากากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกมา