xs
xsm
sm
md
lg

ร้องทหารตามเช็กบิลปลัดฯ ตุ๋นทำบัตรปชช.นักธุรกิจจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (29 มิ.ย.) น.ส.กุลประภัสสร พัชรพงศ์สุข อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/2 ซอยกาญจนาภิเษก 20 แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งประกอบกิจการโรงแต่งแร่ใน จ.ลำปาง ร้องเรียนศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบก (กกล.รส.มทบ.) ที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี เพื่อให้ติดตามเงินจากปลัดอำเภอคนหนึ่ง โดยระบุว่า ถูกปลัดอำเภอคนดังกล่าวหลอกว่า สามารถทำบัตรประชาชนไทยให้คนต่างด้าวได้ 6 คน แต่มีค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 2 ล้านบาท สุดท้ายไม่สามารถทำบัตรประชาชนให้ได้ เมื่อทวงเงินคืนหลายครั้ง ก็จ่ายมาเพียง 4.9 แสนบาท ยังค้างอีก 1.5 ล้านบาท และท้าให้ไปฟ้องร้องเอาเอง
น.ส.กุลประภัสสร ให้ถ้อยคำว่า เมื่อปี 2553ได้รู้จักกับเจ้าของเหมืองแร่รายหนึ่ง ชื่อนางดา (นามสมมติ) หลังจากนั้นนางดา ได้สอบถามว่ามีญาติพี่น้องต้องการเข้ามาอยู่ในประเทศไทย และต้องการมีบัตรประชาชนไทยหรือไม่ ถ้าหากต้องการทำ ก็ให้บอก เพราะรู้จักกับปลัดอำเภอคนหนึ่งที่สามารถทำให้ได้ ซึ่งตนเองก็สนใจ เนื่องจากมีเพื่อนที่อยู่ประเทศจีน ต้องการจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และเพื่อความเชื่อมั่นจึงอยากทำบัตรประชาชนไทย จึงตกลงที่จะทำบัตร
จากนั้นนางดาได้นำเอกสาร พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการออกบัตรให้แก่คนต่างด้าว 6 คน กระจายอยู่ในภูมิลำเนา 3 อำเภอของ จ.ลำปาง เป็นเงิน 2,000,000 บาทมาให้ ซึ่งตนได้แจ้งไปยังเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศให้โอนเงินมา แล้วโอนต่อให้แก่นางดาเพื่อนำไปให้ปลัดคนดังกล่าว
หลังจากที่โอนเงินให้แล้ว นางดาได้พาไปพบกับปลัดคนหนึ่งในอำเภอหนึ่งของ จ.ลำปาง ตนได้สอบถามว่าทำได้จริงหรือไม่ ซึ่งปลัดยืนยันว่า สามารถเพิ่มชื่อได้จริง ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังให้ดำเนินการอยู่ ตนจึงเชื่อว่าสามารถทำได้ถูกต้องตามกฏหมาย แต่หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป ตนจึงทวงถามอีก ปลัดก็อ้างว่า อยู่ระหว่างดำเนินการ เนื่องจากมีหลายขั้นตอน ขณะนี้รอให้ข้างบนเซ็นอยู่ ตนจึงถามว่า ข้างบนคือใคร ปลัดก็บอกว่า ไม่จำเป็นต้องรู้
จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไป เพื่อนซึ่งอยู่ต่างประเทศที่โอนเงินมาให้ได้ทวงถาม จึงได้สอบถามไปยังปลัดคนดังกล่าว และนางดา จนกระทั่งนางดา ได้โอนเงินคืนกลับมาให้ 490,000 บาท และบอกว่าปลัดจะรีบดำเนินการให้
เมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี ก็ได้ทวงถามนางดาอีกครั้ง ซึ่งนางดา ระบุว่าได้ให้ปลัดดำเนินการทั้งหมด โดยนำเอกสารการโอนเงินให้แก่ปลัดมาเป็นหลักฐาน พร้อมเอกสารการขอเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน กรณีออกจากภูมิลำเนาไปไม่ทราบที่อยู่ การแจ้งเกิดเกินกำหนด รวมถึงเอกสารค่าใช้จ่ายจริงมาให้
น.ส.กุลประภัสสร กล่าวว่า ตนรอมาอีกเกือบ 6 เดือน ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงได้เข้าพบปลัดอีกครั้ง ในเดือนเมษายน ปี 2556 และขอยกเลิก พร้อมขอเงินที่ค้างอีก 1,510,000 บาทคืน เพื่อจะส่งให้แก่เพื่อนที่ต่างประเทศ แต่ปลัดบ่ายเบี่ยงมาตลอด สุดท้ายก็ท้าให้ตนเองไปฟ้องร้องเอาเอง ซึ่งตนเองก็ได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมือง เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่เรื่องก็ยังเงียบ จึงได้เข้าร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัด และกกล.รส.มทบ.ที่ 32 เพราะต้องการให้ปลัดนำเงินมาคืน จะได้ส่งคืนให้เพื่อนที่ต่างประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น