สาวใหญ่ร้องทหารบี้ปลัดอำเภอคืนเงินค่าทำบัตร ปชช.ไทยให้นักธุรกิจจีน

ลำปาง - สาวใหญ่นักธุรกิจเหมืองแร่ โร่ร้องทหาร มทบ.32 ขอช่วยตามบี้ “ปลัดอำเภอ” หลอกจ่ายเงินค่าทำบัตร ปชช.ให้เพื่อนนักธุรกิจจีน 6 คน รวม 2 ล้าน ตั้งแต่ปี 53 แต่จนถึงวันนี้ยังทำไม่ได้ ทวงแล้วทวงอีกได้คืนแค่ 4.9 แสน ค้างอีกกว่า 1.5 ล้าน แถมท้าให้ฟ้องอีก

น.ส.กุลประภัสสร พัชรพงศ์สุข อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/2 ซ.กาญจนาภิเษก 20 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งมาประกอบกิจการเกี่ยวกับโรงแต่งแร่ใน จ.ลำปาง ร้องเรียนศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี วานนี้ (28 มิ.ย.) เพื่อให้ติดตามเงินจากปลัดอำเภอแห่งหนึ่ง

โดยระบุว่ าถูกปลัดอำเภอคนดังกล่าวหลอกว่าสามารถทำบัตรประชาชนคนต่างด้าวให้ถูกต้องได้ 6 คน แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 2 ล้านบาท สุดท้ายก็ไม่สามารถออกบัตรประชาชนให้ได้ แถมยังคืนเงินมาให้เพียง 4.9 แสนบาท ค้างอีก 1.5 ล้านบาท

น.ส.กุลประภัสสร ได้ให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อปี 2553 ตนได้รู้จักกับเจ้าของธุรกิจเหมืองรายหนึ่งชื่อนางดา (นามสมมติ) หลังจากนั้น นางดา ได้สอบถามตนเองว่า มีญาติพี่น้องที่ต้องการเข้ามาอยู่ในประเทศไทย และต้องการมีบัตรประชาชนไทยหรือไม่ ถ้าหากต้องการทำก็ให้บอก เพราะรู้จักกับปลัดอำเภอคนหนึ่ง ที่สามารถทำให้ได้

ซึ่งตนเองก็สนใจ เนื่องจากมีเพื่อนที่อยู่ประเทศจีน ต้องการจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และเพื่อความเชื่อมั่นจึงอยากทำบัตรประชาชนไทย จึงตกลงที่จะทำบัตรประชาชน

หลังจากนั้น นางดา จึงได้นำเอกสาร พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการออกบัตรประชาชนให้แก่คนต่างด้าว 6 คน กระจายอยู่ในภูมิลำเนา 3 อำเภอของจังหวัดลำปาง เป็นจำนวนเงิน 2,000,000 บาท มาให้ และตนก็ได้แจ้งไปยังเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศให้โอนเงินมา แล้วโอนต่อให้แก่ นางดาเพื่อนำไปให้ปลัดคนดังกล่าว

หลังจากที่โอนเงินให้แล้ว นางดา ได้พาไปพบกับปลัดคนหนึ่งในอำเภอแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง ตนได้สอบถามปลัดคนนั้นว่า สามารถทำได้จริงหรือไม่ ซึ่งปลัดยืนยันว่า สามารถเพิ่มชื่อได้จริง ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังให้ดำเนินการอยู่ ตนเองจึงเชื่อว่าสามารถทำได้อย่างถูกต้อง

แต่หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป ตนเองก็ทวงถามอีก ปลัดก็อ้างว่ากำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ เนื่องจากมีหลายขั้นตอน ขณะนี้รอให้ข้างบนเซ็นอยู่ ตนเองจึงถามว่าข้างบนคือใคร ปลัดก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องรู้

จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไป เพื่อนซึ่งอยู่ต่างประเทศที่โอนเงินมาให้ได้ทวงถาม ตนจึงได้สอบถามไปยังปลัดคนดังกล่าว และนางดา จนกระทั่งนางดา ได้โอนเงินคืนกลับมาให้ตนเอง 490,000 บาท และบอกว่าปลัดจะรีบดำเนินการให้

เมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี ตนก็ได้ทวงถาม นางดา อีกครั้ง ซึ่งนางดา ระบุว่าได้ให้ปลัดดำเนินการทั้งหมด โดยนำเอกสารการโอนเงินให้แก่ปลัดมาเป็นหลักฐาน พร้อมเอกสารการขอเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน กรณีออกจากภูมิลำเนาไปไม่ทราบที่อยู่ การแจ้งเกิดเกินกำหนด รวมถึงเอกสารค่าใช้จ่ายจริงที่ให้แก่ผู้ดำเนินการมาให้

น.ส.กุลประภัสสร บอกว่า ตนเองก็รอมาอีกเกือบ 6 เดือน ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงได้เข้าพบปลัดอีกครั้งในเดือนเมษายนปี 2556 และขอยกเลิก พร้อมขอเงินที่ค้างอีก 1,510,000 บาทคืน เพื่อจะส่งให้แก่เพื่อนที่ต่างประเทศ แต่ปลัดก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด สุดท้ายก็ท้าให้ตนเองไปฟ้องร้องเอาเอง ซึ่งตนเองก็ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมือง เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่เรื่องก็ยังเงียบ จึงได้เข้าร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัด และกองอำนวยการรักษาความสงบ มทบ.32 เพราะต้องการให้ปลัดคนดังกล่าวนำเงินมาคืนให้แก่ตน เพื่อจะได้ส่งคืนให้แก่เพื่อนที่ต่างประเทศ

ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กกล.มทบ.32 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.จนถึงวานนี้ (28 มิ.ย.) มีประชาชนร้องเรียนเรื่องราวต่างๆ ทั้งโทรศัพท์ และมาแจ้งด้วยตนเองมากกว่า 100 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องหนี้นอกระบบ ยาเสพติด และการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า