xs
xsm
sm
md
lg

ว่าด้วยการปรับดุลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในสถานการณ์ใหม่

เผยแพร่:   โดย: สิริอัญญา

ประชาชนไทยทั้งปวงต้องสดุดีความองอาจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ต่อการแสดงท่าทีไม่สนใจไยดีกับการกดดันและแทรกแซงของสหรัฐอเมริกาและอียู ที่ข่มขู่คุกคามและกดดัน ตลอดจนออกมาตรการข่มเหงรังแกที่กระทำราวกับว่าประเทศไทยเป็นเมืองขึ้น

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แสดงท่าทีตอบโต้ต่อสหรัฐอเมริกาและอียูว่าจะต้องเคารพต่อศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของประเทศไทย

ซึ่งน่าจะมีช่องว่างระหว่างบรรทัดที่ผู้นำประเทศไทยยังไม่ได้พูด หรืองำไว้ไม่พูด ก็คือประเทศไทยเป็นประเทศเอกราช ไม่เคยเป็นขี้ข้าของชาติไหน อย่าสะเออะมากดหัวข่มเหงราวกับว่าเป็นเจ้าประเทศราชของประเทศไทย

ทั้งสหรัฐอเมริกาและอียูได้แสดงท่าทีแทรกแซงก้าวก่ายและละเมิดความเป็นเอกราชของประเทศไทย และขัดต่อกฎบัตรของสหประชาชาติอย่างร้ายแรง โดยไม่มีสิทธิ์ ไม่ถูกต้อง และไม่เป็นธรรม

ทำไมเวลานักการเมืองทุจริตคอร์รัปชันจนประเทศชาติวายวอดจึงเงียบเฉย? และยังแสดงท่าทีเออออห่อหมกฉกฉวยเอาประโยชน์ร่วมกับนักการเมืองชั่ว

ทำไมเวลานักการเมืองละเมิดสิทธิมนุษยชน ตั้งกองกำลังอาวุธเข่นฆ่าสังหารประชาชนโจ่งแจ้งโจ๋งครึ่มกลับเงียบเฉย และยังมีท่าทีประณามประชาชนที่ถูกข่มเหงรังแกและถูกฆ่าอีกด้วย

ทำไมพวกขบวนการล้มเจ้าเคลื่อนไหวในชนบท เจ้าหน้าที่ของสถานทูตจึงไปเข้าร่วมและยังมีการให้ทุนสนับสนุน ทั้งที่รู้ดีว่านี่คือพฤติกรรมก่อกบฏต่อราชอาณาจักรไทย ที่มิตรประเทศไม่พึงทำเด็ดขาด

ทำไมในยามสถานการณ์คับขันที่กองกำลังอาวุธของขบวนการก่อการร้ายที่สร้างสมอาวุธเต็มไปทั้งบ้านทั้งเมืองจะยกกำลังมาสังหารประชาชน แล้วกองทัพไทยจำเป็นต้องเข้ามาแก้ไขปัญหา จึงเสือกมาแสดงความไม่พอใจ

ประชาชนชาวไทยทั้งปวงย่อมอยู่เคียงข้างสนับสนุนกับผู้นำประเทศ ในการพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตยของชาติและรักษาศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของประเทศชาติอย่างเต็มที่และถึงที่สุด

ในสถานการณ์เช่นนี้ ปวงชนชาวไทยทั้งหลายจะต้องเข้าใจสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว การถูกแทรกแซงกดดันจากบางประเทศเป็นการเอื้อโอกาสครั้งใหญ่แก่ประเทศไทยในการปรับดุลยภาพความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเสียใหม่

บนพื้นฐานความเสมอภาค ความเคารพในเอกราชอธิปไตยของกันและกัน ความไม่แทรกแซงในกิจการภายในของกันและกัน การแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน และเอื้อประโยชน์แก่กันและกันอย่างเสมอภาค

ไม่ใช่คบหากันแบบเจ้าประเทศราชกับประเทศราช ที่บังคับขับไสปล้นชิงวิ่งราวข่มเหงรังแกและบ่อนทำลายทุกรูปแบบเหมือนอดีต

สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันนี้เป็นอย่างไรเล่า?

ประเทศตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและอียูกำลังล่มสลายอย่างทั่วด้าน เศรษฐกิจกำลังพังพินาศ สังคมกำลังเน่าเฟะ หนี้สินของประเทศล้นพ้นตัว หนี้สินของประชาชนเกินกว่าที่จะชำระหนี้ได้ในชาตินี้ ทรัพยากรธรรมชาติหมดไป การเบียดเบียนภายในรุนแรง

กระทั่งสมเด็จพระสันตะปาปาซึ่งปกติจะไม่ทรงตรัสเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้ตรัสว่า ระบบเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตกไปไม่ไหวแล้ว จะทำให้ต้องก่อสงครามโลกครั้งที่สาม แต่พระองค์เชื่อว่าความคิดก่อสงครามจะไม่ประสบความสำเร็จ จะทำได้ก็แต่เพียงก่อสงครามเป็นบางพื้นที่เท่านั้น

อาการล่มสลายเหล่านี้ แม้แต่ประเทศอังกฤษก็เห็นได้ชัด จึงมีทีท่าสละเรือหันไปร่วมมือกับกลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ ล่าสุดก็ได้ลงนามความร่วมมือทางการค้ากับจีนเป็นมูลค่าถึง 800,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ด้วยเทคโนโลยีใหม่ และเพื่อสร้างรถไฟฟ้าทั่วเกาะอังกฤษ รวมทั้งกิจการอื่นๆ ที่สำคัญคือเป็นการตกลงค้าขายกันด้วยสกุลเงินหยวน

ในขณะที่ตะวันตกกำลังฟอนเฟะ ตะวันออกกำลังรุ่งเรือง ประเทศในโลกตะวันออกได้ก่อตัวจัดตั้งเป็นองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ มีรัสเซีย จีน อินเดีย อิหร่าน และประเทศอื่นๆ รวม 26 ประเทศ ซึ่งในระยะแรกเริ่มเป็นความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ แต่กำลังยกระดับไปสู่ความร่วมมือด้านความมั่นคง แบบเดียวกับองค์การนาโต้

องค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ดังกล่าวกำลังเติบใหญ่และมีความเข้มแข็ง ทั้งทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และแม้กระทั่งทางแสนยานุภาพ

สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงไปแล้ว อินเดียกำลังกำหนดยุทธศาสตร์มุ่งสู่ตะวันออก รัสเซียกำลังขยายมิตรไปทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชีย จีนกำหนดยุทธศาสตร์ Silk Road Maritime มุ่งใช้สันติวิธีในการหยุดยั้งสงครามเพื่อนำไปสู่การพัฒนาตลอดฟากมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้งหมดนี้ไทยคือศูนย์กลางที่จะเชื่อมโยงสองฝั่งฟากมหาสมุทรอย่างทั่วด้าน และเชื่อมโยงบรรดาประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้กับอาเซียนอย่างสมบูรณ์

จึงเป็นโอกาสอันวิเศษของประเทศไทยที่จะได้ปรับดุลยภาพระหว่างประเทศเสียใหม่ โดยสอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

ด้านหนึ่ง ประเทศไทยยังจำเป็นต้องแสวงหาความเป็นมิตรและความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกา อียู และยุโรป แต่ไม่ใช่ความเป็นมิตรในลักษณะที่ลูกน้องจำยอมต่อลูกพี่ หรือประเทศราชจำยอมต่อเจ้าประเทศราชเหมือนอดีตอีกต่อไปแล้ว ไมตรีทั้งหลายนับแต่นี้ไปต้องอยู่บนพื้นฐานความเสมอภาค ผลประโยชน์ร่วมกันอย่างยุติธรรม และต้องไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกันโดยเด็ดขาด หลักการพื้นฐานนี้จะยอมให้ชาติใดมาละเมิดไม่ได้เป็นอันขาด

ต้องทำให้ทั่วโลกประจักษ์ว่าประเทศไทยใน พ.ศ.นี้ไม่ใช่ประเทศไทยใน รศ.112 อีกต่อไปแล้ว ประชาชาติไทยทั้งมวลผนึกกำลังกับกองทัพไทยเป็นเอกภาพยิ่งกว่ายุคสมัยใดๆ มีความแข็งแกร่งและมีความพร้อมที่จะลุกยืนขึ้นในศตวรรษนี้แล้ว

ด้านหนึ่ง ประเทศไทยจะต้องสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศกลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้อย่างทั่วด้าน ทำนองเดียวกันกับความสัมพันธ์กับประเทศตะวันตกและบนพื้นฐานหลักการเดียวกัน

อีกด้านหนึ่ง โลกอิสลาม 1,500 ล้านคน แม้ว่ายังมีความขัดแย้งกันเองในหลายพื้นที่ แต่ทิศทางใหญ่ก็คือความมั่งคั่งและความปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติในโลกใบนี้ด้วยกัน ที่ผ่านมาเพราะประเทศไทยยอมตนเป็นขี้ข้าทางความคิด จึงตั้งข้อรังเกียจเดียดฉันกับประเทศอิสลาม ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง นับแต่นี้ไปประเทศไทยจำเป็นต้องผูกมิตรไมตรีและสร้างความสัมพันธ์อันดีอย่างทั่วด้านกับประเทศอิสลาม 1,500 ล้านคนทั่วโลก บนพื้นฐานอย่างเดียวกัน

ทั้งหมดนี้คือดุลยภาพใหม่ในกิจการต่างประเทศ หรือในกิจการสากลของประเทศไทย นักการต่างประเทศทั้งหลายจะต้องปรับทัศนะที่คุ้นเคยหรือที่เคยชินหรือที่ปฏิบัติมาแต่เดิม เพราะนั่นคือการทำร้ายต่อมาตุภูมิของตนดังที่ได้เห็นตำตากันอยู่ทุกวี่วันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

นักการต่างประเทศทั้งหมดจะต้องกำหนดยุทธศาสตร์และเข็มมุ่งทั้งปวงในการปรับดุลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศครั้งใหญ่ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น