เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (24 มิ.ย.) ที่มณฑลทหารบกที่ 11 พล.ต.นิรันดร สมุทรสาคร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11.) เป็นประธานการประชุมเพื่อหาแนวทางการจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะ (รถแท็กซี่) ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการรถแท็กซี่นิติบุคคล จำนวน 113 ราย และศูนย์วิทยุแท็กซี่ จำนวน 13 ราย ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล รวมถึงผู้แทนจากกรมการขนส่งทางบก กองบัญชาการตำรวจนครบาล กรุงเทพมหานคร และหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที ร่วมประชุมเพื่อรับทราบแนวทางการจัดระเบียบรถแท็กซี่ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ประกอบการ
พล.ต.นิรันดร กล่าวว่า การจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะ ในส่วนของ มทบ. 11 ได้รับผิดชอบดูแลเรื่องรถแท็กซี่สาธารณะ ซึ่งในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการพบปะพูดคุยลงพื้นที่ไปดูสถานที่ต่างๆ ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง และสถานีขนส่งหมอชิต ซึ่งทั้ง 3 แห่ง ไม่มีปัญหา เนื่องจากมีรถแท็กซี่บริการประชาชนมากขึ้น สำหรับวัตถุประสงค์ของ คสช. คือ การดูแลประชาชน เพราะฉะนั้นจึงมีการเปิดพื้นที่เพื่อรับฟังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยที่ผ่านมาทุกภาคส่วนราชการได้ขับเคลื่อนแนวทางเพื่อนำไปสู่แนวทางการปฏิบัติ
ทั้งนี้ฝ่ายทหารได้แบ่งพื้นที่ดูแลรักษาความสงบออกเป็นโซนต่างๆ ทั้ง กทม. และปริมณฑล โดย มทบ. 11 รับผิดชอบพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม และสมุทรสาคร แต่ปัจจุบันหลังมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ได้มีหน่วยทหารต่างๆ เข้ามารับผิดชอบพื้นที่ด้วย และยังคงดูแลสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง เพื่อเกิดความสงบเรียบร้อย สำหรับการดำเนินการของ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยภาค 1 (กกล.รส.ภ1 ) ได้แบ่งขั้นตอนต่างในการปฏิบัติงานดังนี้ คือ
ขั้นที่ 1 จัดระเบียบการบังคับใช้กฎหมายให้เรียบร้อย เพื่อไม่มีผู้มีอิทธิพลเข้ามา และมีการจัดตั้งคณะทำงานจากทุกฝ่าย ในการรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็น ทั้งเรื่องปากท้องของประชาชน และอัตราค่าโดยสาร เพื่อนำไปสู่การดำเนินการขั้นที่ 2 คือการ แก้ไขกฎระเบียบที่มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแล โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ซึ่งอะไรที่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ก็จะเร่งดำเนินการทันที และระยะที่ 3. การบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ซึ่งเมื่อดำเนินการครบทั้ง 3 ขั้นตอนแล้วก็จะทำข้อสรุปเสนอไปยัง พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ผบ.กกล.รส.เพื่อรายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้า คสช. ต่อไป
ในวันเดียวกันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้บังคับการกรมนักเรียน โรงเรียนทหารม้าศูนย์การทหาร จ. สระบุรี ได้ร่วมประชุมผู้ประกอบการรถตู้ประมาณ 30 บริษัท เนื่องจากมีความกังวลว่ารถตู้ในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยฯ จะไม่สามารถประกอบกิจการได้ รวมถึงติดขัดปัญหาด้านกฎหมาย จึงต้องหารือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย
พ.อ.สมบัติกล่าวว่า ขั้นตอนการจัดระเบียบรถตู้อนุสารีย์ชัยฯ แบ่งเป็น 6 ระยะ คือ
1. ห้ามรถตู้จอดแช่ ยกเว้นการจอดรถรับส่งผู้โดยสารเท่านั้น และต้องจอดชิดขอบทาง รวมทั้งให้วินรถตู้ ตั้งโต๊ะขายตั๋วได้เพียงโต๊ะเดียวต่อวิน พร้อมทั้งจัดระเบียบบนทางเท้าควบคู่ไปด้วย เพื่อความเป็นระเบียบอย่างแท้จริง
2.หาสถานีเพื่อมารองรับอย่างถาวร และต้องไม่ทำให้เกิดปัญหาการจราจร
3.จัดระเบียบใน บ.ข.ส.
4.จัดระเบียบกรมการขนส่งทางบก
5. ลดการจ่ายส่วยกับเจ้าหน้าที่ อาทิ ยกเลิกสินบนนำจับทุกประเภท แก้ไข พ.ร.บ.จราจร เรื่องความเร็วและวิ่งเลน 2 ได้ ตำรวจจราจร ตำรวจจับเฉพาะจราจร กรมการขนส่งทางบก ตรวจจับรถผิดประเภท พ.ร.บ.ขนส่ง และลดอัตราค่าปรับ
6. นำรถตู้ที่ตกสำรวจมาจดทะเบียนให้ถูกต้องใน 59 เส้นทาง
พ.อ.สมบัติ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ทางทหารอยากให้มีการร่วมกลุ่มกันเป็นสหกรณ์รถตู้ โดยยึดแนวทางพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อดูแลสิทธิของตัวเอง รถแท็กซี่ ก็มีกลุ่มสหกรณ์ จักรยานยนต์ก็มีสหกรณ์ แล้วทำไมรถตู้ถึงทำไม่ได้ การที่เราไม่ได้ร่วมเป็นกลุ่มก้อน คำพูดเราก็ไม่มีน้ำหนัก อยากให้ไปดูและช่วยกันเสนอรูปแบบมา ว่าจะจัดการกลุ่มสหกรณ์รถตู้ในรูกแบบใด
ทั้งนี้ ในส่วนของทหารก็จะให้คำแนะนำ และประคับประคองให้รถตู้เดินไปข้างหน้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะถอนตัวออกมา นอกจากนี้ เราได้มีการหารือ กับกทม. ว่าให้ผ่อนผัน หรือยกเว้นค่าจอดว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ทั้งนี้ทราบว่า การที่ทหารเข้ามาจัดระเบียบรถตู้ เป็นการสร้างผลกระทบให้กับผู้ที่เคยได้ประโยชน์
"ทั้ง 6 จุด บริเวณราชเทวี รวมถึงใต้ทางด่วน ได้ทำเรื่องขอกับปลัดกทม. โดยมีลายเซ็นรับรองจากตำรวจจราจรในพื้นที่ว่าไม่สามารถจัดพื้นที่จราจรได้ จึงให้ใช้ริมฟุตบาททางเท้า อย่างไรก็ตาม หากการจัดระเบียบรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เรียบร้อยจะใช้เป็นโมเดลจัดระเบียบรถตู้ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจะมีผลบังคับตั้งแต่ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ และต้องจัดระเบียบตั้งแต่ต้นทาง และปรายทาง โดยจะให้หน่วยทหารที่อยู่ในพื้นที่แต่ละจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ" พ.อ.สมบัติ กล่าว
พ.อ.สมบัติ กล่าวว่าหากเราดูแลให้ราคาค่าต้นทุนของรถตู้ลด เชื่อว่าราคาค่าโดยสารต้องลดตามด้วย ผลประโยชน์ก็จะไปตกที่ประชาชน ทั้งนี้ทางผู้ประกอบการรถตู้ ต้องไปปรับราคาค่าโดยสารให้ตรงกับบริษัทขนส่ง และการดำเนินการของทหาร เพื่อจัดระเบียบคืนความสุขให้กับประชาชนทุกคน พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ให้และผู้ใช้บริการ เพราะการย้ายสถานที่จอดรถตู้ ก็ยังคงบริเวณใกล้เคียงกับอนุสาวรีย์ฯ
"ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 30 มิ.ย.เป็นต้นไป รถตู้ทุกคันที่จอดอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ จะต้องย้ายไปจอดบริเวณใต้แอร์พอร์ตลิ้งก์ มักกะสัน โดยเราได้ขอใช้พื้นที่ดังกล่าวชั่วคราว เพื่อดำเนินการจัดระเบียบรถตู้จนกว่าจะแล้วเสร็จ จึงต้องขอบคุณการทางพิเศษ ที่มองเห็นความสำคัญ และให้เราได้ใช้พื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้จะมีการจัดชุดตรวจประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ พลเรือน กรมการขนส่ง ขสมก. เข้าตรวจสอบรถตู้ทุกคัน ว่าปฎิบัติตามที่ได้ตกลงไว้หรือไม่" พ.อ.สมบัติ กล่าว
พล.ต.นิรันดร กล่าวว่า การจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะ ในส่วนของ มทบ. 11 ได้รับผิดชอบดูแลเรื่องรถแท็กซี่สาธารณะ ซึ่งในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการพบปะพูดคุยลงพื้นที่ไปดูสถานที่ต่างๆ ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง และสถานีขนส่งหมอชิต ซึ่งทั้ง 3 แห่ง ไม่มีปัญหา เนื่องจากมีรถแท็กซี่บริการประชาชนมากขึ้น สำหรับวัตถุประสงค์ของ คสช. คือ การดูแลประชาชน เพราะฉะนั้นจึงมีการเปิดพื้นที่เพื่อรับฟังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยที่ผ่านมาทุกภาคส่วนราชการได้ขับเคลื่อนแนวทางเพื่อนำไปสู่แนวทางการปฏิบัติ
ทั้งนี้ฝ่ายทหารได้แบ่งพื้นที่ดูแลรักษาความสงบออกเป็นโซนต่างๆ ทั้ง กทม. และปริมณฑล โดย มทบ. 11 รับผิดชอบพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม และสมุทรสาคร แต่ปัจจุบันหลังมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ได้มีหน่วยทหารต่างๆ เข้ามารับผิดชอบพื้นที่ด้วย และยังคงดูแลสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง เพื่อเกิดความสงบเรียบร้อย สำหรับการดำเนินการของ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยภาค 1 (กกล.รส.ภ1 ) ได้แบ่งขั้นตอนต่างในการปฏิบัติงานดังนี้ คือ
ขั้นที่ 1 จัดระเบียบการบังคับใช้กฎหมายให้เรียบร้อย เพื่อไม่มีผู้มีอิทธิพลเข้ามา และมีการจัดตั้งคณะทำงานจากทุกฝ่าย ในการรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็น ทั้งเรื่องปากท้องของประชาชน และอัตราค่าโดยสาร เพื่อนำไปสู่การดำเนินการขั้นที่ 2 คือการ แก้ไขกฎระเบียบที่มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแล โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ซึ่งอะไรที่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ก็จะเร่งดำเนินการทันที และระยะที่ 3. การบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ซึ่งเมื่อดำเนินการครบทั้ง 3 ขั้นตอนแล้วก็จะทำข้อสรุปเสนอไปยัง พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ผบ.กกล.รส.เพื่อรายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้า คสช. ต่อไป
ในวันเดียวกันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้บังคับการกรมนักเรียน โรงเรียนทหารม้าศูนย์การทหาร จ. สระบุรี ได้ร่วมประชุมผู้ประกอบการรถตู้ประมาณ 30 บริษัท เนื่องจากมีความกังวลว่ารถตู้ในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยฯ จะไม่สามารถประกอบกิจการได้ รวมถึงติดขัดปัญหาด้านกฎหมาย จึงต้องหารือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย
พ.อ.สมบัติกล่าวว่า ขั้นตอนการจัดระเบียบรถตู้อนุสารีย์ชัยฯ แบ่งเป็น 6 ระยะ คือ
1. ห้ามรถตู้จอดแช่ ยกเว้นการจอดรถรับส่งผู้โดยสารเท่านั้น และต้องจอดชิดขอบทาง รวมทั้งให้วินรถตู้ ตั้งโต๊ะขายตั๋วได้เพียงโต๊ะเดียวต่อวิน พร้อมทั้งจัดระเบียบบนทางเท้าควบคู่ไปด้วย เพื่อความเป็นระเบียบอย่างแท้จริง
2.หาสถานีเพื่อมารองรับอย่างถาวร และต้องไม่ทำให้เกิดปัญหาการจราจร
3.จัดระเบียบใน บ.ข.ส.
4.จัดระเบียบกรมการขนส่งทางบก
5. ลดการจ่ายส่วยกับเจ้าหน้าที่ อาทิ ยกเลิกสินบนนำจับทุกประเภท แก้ไข พ.ร.บ.จราจร เรื่องความเร็วและวิ่งเลน 2 ได้ ตำรวจจราจร ตำรวจจับเฉพาะจราจร กรมการขนส่งทางบก ตรวจจับรถผิดประเภท พ.ร.บ.ขนส่ง และลดอัตราค่าปรับ
6. นำรถตู้ที่ตกสำรวจมาจดทะเบียนให้ถูกต้องใน 59 เส้นทาง
พ.อ.สมบัติ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ทางทหารอยากให้มีการร่วมกลุ่มกันเป็นสหกรณ์รถตู้ โดยยึดแนวทางพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อดูแลสิทธิของตัวเอง รถแท็กซี่ ก็มีกลุ่มสหกรณ์ จักรยานยนต์ก็มีสหกรณ์ แล้วทำไมรถตู้ถึงทำไม่ได้ การที่เราไม่ได้ร่วมเป็นกลุ่มก้อน คำพูดเราก็ไม่มีน้ำหนัก อยากให้ไปดูและช่วยกันเสนอรูปแบบมา ว่าจะจัดการกลุ่มสหกรณ์รถตู้ในรูกแบบใด
ทั้งนี้ ในส่วนของทหารก็จะให้คำแนะนำ และประคับประคองให้รถตู้เดินไปข้างหน้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะถอนตัวออกมา นอกจากนี้ เราได้มีการหารือ กับกทม. ว่าให้ผ่อนผัน หรือยกเว้นค่าจอดว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ทั้งนี้ทราบว่า การที่ทหารเข้ามาจัดระเบียบรถตู้ เป็นการสร้างผลกระทบให้กับผู้ที่เคยได้ประโยชน์
"ทั้ง 6 จุด บริเวณราชเทวี รวมถึงใต้ทางด่วน ได้ทำเรื่องขอกับปลัดกทม. โดยมีลายเซ็นรับรองจากตำรวจจราจรในพื้นที่ว่าไม่สามารถจัดพื้นที่จราจรได้ จึงให้ใช้ริมฟุตบาททางเท้า อย่างไรก็ตาม หากการจัดระเบียบรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เรียบร้อยจะใช้เป็นโมเดลจัดระเบียบรถตู้ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจะมีผลบังคับตั้งแต่ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ และต้องจัดระเบียบตั้งแต่ต้นทาง และปรายทาง โดยจะให้หน่วยทหารที่อยู่ในพื้นที่แต่ละจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ" พ.อ.สมบัติ กล่าว
พ.อ.สมบัติ กล่าวว่าหากเราดูแลให้ราคาค่าต้นทุนของรถตู้ลด เชื่อว่าราคาค่าโดยสารต้องลดตามด้วย ผลประโยชน์ก็จะไปตกที่ประชาชน ทั้งนี้ทางผู้ประกอบการรถตู้ ต้องไปปรับราคาค่าโดยสารให้ตรงกับบริษัทขนส่ง และการดำเนินการของทหาร เพื่อจัดระเบียบคืนความสุขให้กับประชาชนทุกคน พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ให้และผู้ใช้บริการ เพราะการย้ายสถานที่จอดรถตู้ ก็ยังคงบริเวณใกล้เคียงกับอนุสาวรีย์ฯ
"ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 30 มิ.ย.เป็นต้นไป รถตู้ทุกคันที่จอดอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ จะต้องย้ายไปจอดบริเวณใต้แอร์พอร์ตลิ้งก์ มักกะสัน โดยเราได้ขอใช้พื้นที่ดังกล่าวชั่วคราว เพื่อดำเนินการจัดระเบียบรถตู้จนกว่าจะแล้วเสร็จ จึงต้องขอบคุณการทางพิเศษ ที่มองเห็นความสำคัญ และให้เราได้ใช้พื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้จะมีการจัดชุดตรวจประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ พลเรือน กรมการขนส่ง ขสมก. เข้าตรวจสอบรถตู้ทุกคัน ว่าปฎิบัติตามที่ได้ตกลงไว้หรือไม่" พ.อ.สมบัติ กล่าว
