ASTVผู้จัดการรายวัน - "บิ๊กตู่" สั่งจัดระเบียบสังคมใหม่ ทั้งรื้อโครงสร้างแก้ปัญหาลอตเตอรี่ขายเกินราคา เร่งสรุปก่อนออกสลากงวดหน้า พร้อมจัดระเบียบรถตู้ แก้ปัญหาจราจรรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ด้านนครบาลร่วมมือทหาร จัดระเบียบวินมอเตอร์ไซค์ ในเขตกทม.และปริมณฑล ตรวจสอบกลุ่มอิทธิพล ล้างวินเถื่อน
พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ ปลัดบัญชีทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา โดยเบื้องต้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ/ผู้บัญชาการทหารบก ได้มีการสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบปัญหาดังกล่าว และให้เร่งรายงานกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะถือเป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งมีการร้องเรียนเข้ามามาก
"ต้องรื้อกันใหม่ทั้งระบบ ทั้งในเรื่องของโควต้า และผลประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่องส่วนต่างราคาที่เกินขึ้นมา ให้ไปดูว่าตกอยู่ที่ใคร หากผลประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่กับส่วนรวม ก็ให้ยกเลิกไป และให้นำผลประโยชน์ที่ได้เข้ามาในระบบเพื่อพัฒนาประเทศ และหากเป็นไปได้ความเห็นส่วนตัวคณะกรรมการน่าจะรายงานกลับมายังหัวหน้า คสช.ได้ทันการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดหน้า วันที่ 1 ก.ค.นี้" พล.ท.อนันตพร ระบุ
ขณะที่ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หัวหน้า คสช.ได้ให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคสช. ฝ่ายเศรษฐกิจไปรวบรวมข้อมูล องค์ประกอบของราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลว่าเป็นอย่างไร และให้รายงานกลับมาเพื่อพิจารณาราคาที่แท้จริงตามโครงสร้างราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อไป ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในที่ประชุมว่า อยากให้เรื่องของราคาเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน
**จัดระเบียบจราจรรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ
พ.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการ กองพลทหารม้าที่ 2รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) เป็นประธานในการประชุม ร่วมกับ พ.ต.ท. จุมพล คณานุรักษ์ รองผู้กำกับฝ่ายจราจร สน.พญาไท เพื่อชี้แจ้งทำความเข้าใจและหาแนวทางร่วมกัน ในการจัดระเบียบวินรถตู้ และการปฏิบัติตามกฎหมาย ตามคำสั่งของ คสช. ต่อผู้ประกอบการวินรถตู้รับจ้าง พื้นที่ เกาะราชวิถึ บริเวณรอบวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีผู้แทนผู้ประกอบการกว่า 20 คน
ทั้งนี้ ที่ประชุมใช้เวลาประมาณ 2 ชม. หารือกันอย่างกว้าวขวาง ซึ่ง พ.อ.เฉลิมพล ได้สรุปผลการประชุมออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เริ่มทดลองปฏิบัติในวันจันทร์ที่ 23 มิ.ย.นี้ ระยะเวลา 5 วัน ก่อนปฏิบัติจริง ซึ่งเน้นหนักที่การจัดหาที่จอดรถใต้แอร์พอร์ตลิงก์ และพื้นที่สาธารณะ การปรับอัตราค่าโดยสารให้เป็นธรรม จัดที่จำหน่ายตั๋วที่ไม่กีดขวางทางจราจร และไม่ให้จอดรถแช่เพื่อรอผู้โดยสารเด็ดขาด
ระยะที่ 2 ซึ่งไม่มีกรอบกำหนดระยะเวลาให้หาสถานที่แห่งใหม่ให้เป็นจุดจอดรถที่ถาวรให้บูรณาการร่วมกับ ขสมก. ห้ามรถยนต์สาธารณะวิ่งทับซ้อนช่องทาง และจัดทำทะเบียนรถตู้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากรถที่ไม่มีทะเบียนสาธารณะให้มาจัดทำทะเบียนให้ถูกต้อง
ระยะที่ 3 ให้แก้ไข พ.ร.บ. และกฎหมายให้สะดวกต่อการเดินรถ ปรับปรุงกฎ ระเบียบต่างๆ และพิจารณาออกทะเบียนรถยนต์สาธารณะ และรถตู้ส่วนบุคคล ให้มีความแตกต่างกัน เพื่อจะได้ตรวจสอบได้
***ตรวจสอบกลุ่มอิทธิพล ล้างวินเถื่อน
ด้าน พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ รองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ประชุมจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามนโยบายจัดระเบียบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้เป็นรูปธรรมภายในเดือนมิถุนายนนี้
โดยแผนการจัดระเบียบเบื้องต้น แบ่งเป็น 3 ระยะ
ระยะที่ 1 ลดความเดือดร้อนของประชาชน โดยกำหนดให้ดำเนินการเสร็จสิ้นภายใน 7 วัน อาทิ การจัดทำป้ายจุดจอดรถจักรยานยนต์รับจ้างให้เป็นมาตรฐานเดียว, กำหนดอัตราค่าโดยสารที่เป็นธรรมชัดเจน, จุดจอดรถไม่กีดขวางการจราจรและทางเดินเท้า, ขจัดผู้มีอิทธิพลแสวงหาผลประโยชน์จากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง และกวดขันจับกุมวินเถื่อน
ระยะที่ 2 ดำเนินการต่อเนื่องจากระยะแรก โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ที่มีปัญหา เพิ่มจำนวนผู้ขับรถในวินตามความเหมาะสม ดำเนินการจดทะเบียนให้ถูกต้อง
ระยะที่ 3 จดทะเบียนวินรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ถูกต้อง ทั้งสถานที่จอดรถ ผู้ขับขี่ และจดทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ พร้อมแก้ไขระเบียบที่มีปัญหาในแนวทางปฏิบัติ
สำหรับขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกลุ่มรายชื่อผู้มีอิทธิพล ทั้งนักการเมือง ทหาร ตำรวจ ที่เรียกรับผลประโยชน์ โดยจะเชิญผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มรายชื่อผู้มีอิทธิพลเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนการกำหนดอัตราค่าโดยสาร กรมการขนส่งทางบกจะเป็นผู้กำหนดอัตราที่เหมาะสม โดยคิดตามระยะทางที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงชัดเจน
พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ ปลัดบัญชีทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา โดยเบื้องต้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ/ผู้บัญชาการทหารบก ได้มีการสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบปัญหาดังกล่าว และให้เร่งรายงานกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะถือเป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งมีการร้องเรียนเข้ามามาก
"ต้องรื้อกันใหม่ทั้งระบบ ทั้งในเรื่องของโควต้า และผลประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่องส่วนต่างราคาที่เกินขึ้นมา ให้ไปดูว่าตกอยู่ที่ใคร หากผลประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่กับส่วนรวม ก็ให้ยกเลิกไป และให้นำผลประโยชน์ที่ได้เข้ามาในระบบเพื่อพัฒนาประเทศ และหากเป็นไปได้ความเห็นส่วนตัวคณะกรรมการน่าจะรายงานกลับมายังหัวหน้า คสช.ได้ทันการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดหน้า วันที่ 1 ก.ค.นี้" พล.ท.อนันตพร ระบุ
ขณะที่ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หัวหน้า คสช.ได้ให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคสช. ฝ่ายเศรษฐกิจไปรวบรวมข้อมูล องค์ประกอบของราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลว่าเป็นอย่างไร และให้รายงานกลับมาเพื่อพิจารณาราคาที่แท้จริงตามโครงสร้างราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อไป ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในที่ประชุมว่า อยากให้เรื่องของราคาเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน
**จัดระเบียบจราจรรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ
พ.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการ กองพลทหารม้าที่ 2รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) เป็นประธานในการประชุม ร่วมกับ พ.ต.ท. จุมพล คณานุรักษ์ รองผู้กำกับฝ่ายจราจร สน.พญาไท เพื่อชี้แจ้งทำความเข้าใจและหาแนวทางร่วมกัน ในการจัดระเบียบวินรถตู้ และการปฏิบัติตามกฎหมาย ตามคำสั่งของ คสช. ต่อผู้ประกอบการวินรถตู้รับจ้าง พื้นที่ เกาะราชวิถึ บริเวณรอบวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีผู้แทนผู้ประกอบการกว่า 20 คน
ทั้งนี้ ที่ประชุมใช้เวลาประมาณ 2 ชม. หารือกันอย่างกว้าวขวาง ซึ่ง พ.อ.เฉลิมพล ได้สรุปผลการประชุมออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เริ่มทดลองปฏิบัติในวันจันทร์ที่ 23 มิ.ย.นี้ ระยะเวลา 5 วัน ก่อนปฏิบัติจริง ซึ่งเน้นหนักที่การจัดหาที่จอดรถใต้แอร์พอร์ตลิงก์ และพื้นที่สาธารณะ การปรับอัตราค่าโดยสารให้เป็นธรรม จัดที่จำหน่ายตั๋วที่ไม่กีดขวางทางจราจร และไม่ให้จอดรถแช่เพื่อรอผู้โดยสารเด็ดขาด
ระยะที่ 2 ซึ่งไม่มีกรอบกำหนดระยะเวลาให้หาสถานที่แห่งใหม่ให้เป็นจุดจอดรถที่ถาวรให้บูรณาการร่วมกับ ขสมก. ห้ามรถยนต์สาธารณะวิ่งทับซ้อนช่องทาง และจัดทำทะเบียนรถตู้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากรถที่ไม่มีทะเบียนสาธารณะให้มาจัดทำทะเบียนให้ถูกต้อง
ระยะที่ 3 ให้แก้ไข พ.ร.บ. และกฎหมายให้สะดวกต่อการเดินรถ ปรับปรุงกฎ ระเบียบต่างๆ และพิจารณาออกทะเบียนรถยนต์สาธารณะ และรถตู้ส่วนบุคคล ให้มีความแตกต่างกัน เพื่อจะได้ตรวจสอบได้
***ตรวจสอบกลุ่มอิทธิพล ล้างวินเถื่อน
ด้าน พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ รองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ประชุมจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามนโยบายจัดระเบียบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้เป็นรูปธรรมภายในเดือนมิถุนายนนี้
โดยแผนการจัดระเบียบเบื้องต้น แบ่งเป็น 3 ระยะ
ระยะที่ 1 ลดความเดือดร้อนของประชาชน โดยกำหนดให้ดำเนินการเสร็จสิ้นภายใน 7 วัน อาทิ การจัดทำป้ายจุดจอดรถจักรยานยนต์รับจ้างให้เป็นมาตรฐานเดียว, กำหนดอัตราค่าโดยสารที่เป็นธรรมชัดเจน, จุดจอดรถไม่กีดขวางการจราจรและทางเดินเท้า, ขจัดผู้มีอิทธิพลแสวงหาผลประโยชน์จากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง และกวดขันจับกุมวินเถื่อน
ระยะที่ 2 ดำเนินการต่อเนื่องจากระยะแรก โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ที่มีปัญหา เพิ่มจำนวนผู้ขับรถในวินตามความเหมาะสม ดำเนินการจดทะเบียนให้ถูกต้อง
ระยะที่ 3 จดทะเบียนวินรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ถูกต้อง ทั้งสถานที่จอดรถ ผู้ขับขี่ และจดทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ พร้อมแก้ไขระเบียบที่มีปัญหาในแนวทางปฏิบัติ
สำหรับขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกลุ่มรายชื่อผู้มีอิทธิพล ทั้งนักการเมือง ทหาร ตำรวจ ที่เรียกรับผลประโยชน์ โดยจะเชิญผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มรายชื่อผู้มีอิทธิพลเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนการกำหนดอัตราค่าโดยสาร กรมการขนส่งทางบกจะเป็นผู้กำหนดอัตราที่เหมาะสม โดยคิดตามระยะทางที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงชัดเจน