"หมอเหรียญทอง"หอบหลักฐานให้ ผบก.ปอท.ดำเนินคดีกับ "โรส" พร้อม 5 ผู้กระทำความผิดกฎหมายอาญา ม.112 หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทชี้หลักฐานการกระทำความผิดชัดเจน ด้านประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติฯ เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพิ่มเติมในคดี "อั้ม เนโกะ"หมิ่นเบื้องสูงฯ พร้อมอัดฉีดเงินรางวัลนำจับค่าตัวสุดต่ำแค่ 5 พันบาท
วานนี้ (19มิ.ย) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ประธานองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน เดินทางเข้าพบพล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผบก.ปอท.เพื่อแจ้งความและมอบหลักฐาน ให้ปอท.ดำเนินคดีกับ
1.นางฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส จำนวน 2 คดี (ต่างกรรมต่างวาระ)
2.นายมนูญ ชัยชนะ หรือ เอนก ซานฟราน จำนวน 2 คดี
3.นายเสน่ห์ ถิ่นแสน หรือ เพียงดิน รักไทย จำนวน 2 คดี
4.นายชูพงษ์ ถี่ถ้วน หรือ ชูพงษ์ เปลี่ยนระบอบ จำนวน 2 คดี
5.นางฉัตรวดี อมรพัฒน์ นายมนูญ ชัยชนะ นายเสน่ห์ ถิ่นแสน และ นายอำนวย แก้วชมภู (ร่วมกันกระทำผิด) จำนวน 1 คดี ในข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่3ปี-15ปี และประมวลกฎหมายอาญามาตรา116
พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวว่า วันนี้ได้นำหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ จำนวน 3 ชุด มามอบใหัทางปอท.เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ซึ่ง 1 ในนั้น เป็นคลิปที่น.ส.อมรพันธ์ โพสเข้ามาในเฟซบุ๊กส่วนตัวของตน มามอบต่อพนักงานสอบสวน และคดีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกที่องค์กรเก็บขยะแผ่นดินดำเนินการ และหลังจากนี้จะติดตามคดีหมิ่นเบื้องสูง ที่ค้างเก่าด้วย แม้ว่านางสาวอมรพันธ์ ขณะนี้จะอาศัยอยู่ต่างประเทศ ก็เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการประสานเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ ทั้งนี้ตนยืนยันว่าการจัดตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดินนี้ มีภารกิจเพียงอย่างเดียว คือต่อต้านการหมิ่นเบื้องสูง โดยจะช่วยงานราชการในการสืบค้นหาผู้กระทำความผิด และเพื่อสร้างกองทัพประชาชนพิทักษ์สถาบันกษัตริย์ แต่ไม่ใช่กองทัพที่ติดอาวุธ หรือองค์กรที่ยุยงให้คนฆ่ากัน โดยยืนยันว่าองค์กรนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองเเต่อย่างใด
" ทุกวันนี้การใช้ชีวิตต้องระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่คิดว่าทำสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งผมก็เป็นเพียงคนธรรมดา ไม่อยากเป็นศัตรูกับใคร แต่ขอร้องให้คนที่หมิ่นสถาบันหยุดการกระทำดังกล่าว "พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าว
ด้านพล.ต.ต.ศิริพงษ์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผบก.ปอท. เป็นผู้ดำเนินการสอบปากคำพล.ต.นพ.เหรียญทอง เบื้องต้น ก่อนส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดพิจารณา ว่าจะสอบสวนเอง หรือจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้สอบสวนอย่างละเอียดเมื่อพยานหลักฐานครบถ้วนก็จะส่งเรื่องไปสถานเอกอัครราชฑูตอังกฤษประจำประเทศไทยเพื่อประสานไปยังประเทศอังกฤษ ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป
****ตั้งรางวัลนำจับ “อั้ม เนโกะ” ค่าตัวต่ำแค่ 5 พัน
ที่ กองปราบปราม นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.โอภาส บำรุงกิจ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อให้ถ้อยคำและมอบหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่กระทำการเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยทำหนังสือขอให้ตรวจสอบภาพและถ้อยคำของบุคคลต่างๆ รวม 7 ราย อาทิ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล , นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ “อั้ม เนโกะ”และนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อพิจารณาดำเนินคดีกลุ่มบุคคลดังกล่าว
นายสงกานต์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่กระทำการเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ที่ปรากฎภาพเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ต่างๆ และแจ้งดำเนินคดีกับ “อั้ม เนโกะ” นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในความผิดฐานดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนา โดยกระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานที่อันเป็นที่เคารพในทางศาสนา ภายหลังปรากฎภาพถ่ายกำลังกอดพระพุทธรูป ซึ่งวันเดียวกันนี้ ตนได้นำภาพถ่ายต่างๆ ที่รวบรวมไว้ตั้งแต่ปี 2555 ถึงปัจจุบัน และที่ได้รับจากสมาชิกเครือข่ายฯ ซึ่งรวบรวมไว้ รวม 26 ภาพ ประกอบกับถ้อยคำที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์เฟซบุ๊กของบุคคลเหล่านี้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดมามอบไว้เป็นหลักฐานเพิ่มเติม
"สำหรับกรณีของนายศรัณย์ หรือ “อั้ม เนโกะ” นั้น ทางสมาชิกเครือข่ายได้รวบรวมเงินสดจำนวน 5,000 บาท ฝากไว้กับผม เพื่อเป็นรางวัลนำจับที่จะมอบให้กับผู้ชี้เบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมตัว จึงอยากให้ผู้ที่พบเห็นหรือทราบเบาะแสของ “อั้ม เนโกะ” ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ หรือแจ้งมาที่ผม อย่างไรก็ตามหลังจากเข้าให้ถ้อยคำและลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ บก.ป.แล้ว ก็จะนำเรื่องเสนอดังกล่าวเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อดำเนินการต่อไป" นายสงกานต์ กล่าว
วานนี้ (19มิ.ย) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ประธานองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน เดินทางเข้าพบพล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผบก.ปอท.เพื่อแจ้งความและมอบหลักฐาน ให้ปอท.ดำเนินคดีกับ
1.นางฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส จำนวน 2 คดี (ต่างกรรมต่างวาระ)
2.นายมนูญ ชัยชนะ หรือ เอนก ซานฟราน จำนวน 2 คดี
3.นายเสน่ห์ ถิ่นแสน หรือ เพียงดิน รักไทย จำนวน 2 คดี
4.นายชูพงษ์ ถี่ถ้วน หรือ ชูพงษ์ เปลี่ยนระบอบ จำนวน 2 คดี
5.นางฉัตรวดี อมรพัฒน์ นายมนูญ ชัยชนะ นายเสน่ห์ ถิ่นแสน และ นายอำนวย แก้วชมภู (ร่วมกันกระทำผิด) จำนวน 1 คดี ในข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่3ปี-15ปี และประมวลกฎหมายอาญามาตรา116
พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวว่า วันนี้ได้นำหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ จำนวน 3 ชุด มามอบใหัทางปอท.เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ซึ่ง 1 ในนั้น เป็นคลิปที่น.ส.อมรพันธ์ โพสเข้ามาในเฟซบุ๊กส่วนตัวของตน มามอบต่อพนักงานสอบสวน และคดีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกที่องค์กรเก็บขยะแผ่นดินดำเนินการ และหลังจากนี้จะติดตามคดีหมิ่นเบื้องสูง ที่ค้างเก่าด้วย แม้ว่านางสาวอมรพันธ์ ขณะนี้จะอาศัยอยู่ต่างประเทศ ก็เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการประสานเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ ทั้งนี้ตนยืนยันว่าการจัดตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดินนี้ มีภารกิจเพียงอย่างเดียว คือต่อต้านการหมิ่นเบื้องสูง โดยจะช่วยงานราชการในการสืบค้นหาผู้กระทำความผิด และเพื่อสร้างกองทัพประชาชนพิทักษ์สถาบันกษัตริย์ แต่ไม่ใช่กองทัพที่ติดอาวุธ หรือองค์กรที่ยุยงให้คนฆ่ากัน โดยยืนยันว่าองค์กรนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองเเต่อย่างใด
" ทุกวันนี้การใช้ชีวิตต้องระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่คิดว่าทำสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งผมก็เป็นเพียงคนธรรมดา ไม่อยากเป็นศัตรูกับใคร แต่ขอร้องให้คนที่หมิ่นสถาบันหยุดการกระทำดังกล่าว "พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าว
ด้านพล.ต.ต.ศิริพงษ์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผบก.ปอท. เป็นผู้ดำเนินการสอบปากคำพล.ต.นพ.เหรียญทอง เบื้องต้น ก่อนส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดพิจารณา ว่าจะสอบสวนเอง หรือจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้สอบสวนอย่างละเอียดเมื่อพยานหลักฐานครบถ้วนก็จะส่งเรื่องไปสถานเอกอัครราชฑูตอังกฤษประจำประเทศไทยเพื่อประสานไปยังประเทศอังกฤษ ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป
****ตั้งรางวัลนำจับ “อั้ม เนโกะ” ค่าตัวต่ำแค่ 5 พัน
ที่ กองปราบปราม นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.โอภาส บำรุงกิจ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อให้ถ้อยคำและมอบหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่กระทำการเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยทำหนังสือขอให้ตรวจสอบภาพและถ้อยคำของบุคคลต่างๆ รวม 7 ราย อาทิ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล , นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ “อั้ม เนโกะ”และนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อพิจารณาดำเนินคดีกลุ่มบุคคลดังกล่าว
นายสงกานต์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่กระทำการเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ที่ปรากฎภาพเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ต่างๆ และแจ้งดำเนินคดีกับ “อั้ม เนโกะ” นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในความผิดฐานดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนา โดยกระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานที่อันเป็นที่เคารพในทางศาสนา ภายหลังปรากฎภาพถ่ายกำลังกอดพระพุทธรูป ซึ่งวันเดียวกันนี้ ตนได้นำภาพถ่ายต่างๆ ที่รวบรวมไว้ตั้งแต่ปี 2555 ถึงปัจจุบัน และที่ได้รับจากสมาชิกเครือข่ายฯ ซึ่งรวบรวมไว้ รวม 26 ภาพ ประกอบกับถ้อยคำที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์เฟซบุ๊กของบุคคลเหล่านี้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดมามอบไว้เป็นหลักฐานเพิ่มเติม
"สำหรับกรณีของนายศรัณย์ หรือ “อั้ม เนโกะ” นั้น ทางสมาชิกเครือข่ายได้รวบรวมเงินสดจำนวน 5,000 บาท ฝากไว้กับผม เพื่อเป็นรางวัลนำจับที่จะมอบให้กับผู้ชี้เบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมตัว จึงอยากให้ผู้ที่พบเห็นหรือทราบเบาะแสของ “อั้ม เนโกะ” ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ หรือแจ้งมาที่ผม อย่างไรก็ตามหลังจากเข้าให้ถ้อยคำและลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ บก.ป.แล้ว ก็จะนำเรื่องเสนอดังกล่าวเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อดำเนินการต่อไป" นายสงกานต์ กล่าว