เด้ง "เจริญศรี" ผอ.ส่วนฝ่ายผลิตข่าว NBT หลังเผยแพร่ข่าวที่ขัดต่อประกาศของ คสช. พร้อมตั้ง "จิตติมา"รักษาการแทน ด้านอธิบดีกรมประชาฯปัด"คสช."ไม่มีส่วนรู้เห็นในคำสั่งดังกล่าว อ้างปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามนโยบาย พร้อมเรียกเข้าชี้แจง 16 มิ.ย.นี้
เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ปรากฏข่าว การเผยแพร่เอกสาร ซึ่งเป็นหนังสือคำสั่งสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยที่ 63/2557 ลงนามโดย นายจำลอง สิงห์โตงาม ผอ.สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 13 มิ.ย. ให้ข้าราชการหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยคำสั่งดังกล่าว ได้สั่งให้ น.ส.เจริญศรี หงส์ประสงค์ ผอ.ส่วนผลิตข่าว และรายการข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยให้เหตุผล ว่า ส่วนผลิตข่าวและรายการข่าวของสถานีได้เผยแพร่ข่าวที่ขัดต่อประกาศของ คสช. และมีคำสั่งให้ให้ น.ส.จิตติมา วุฒิวัฒน์ มาปฏิบัติหน้าที่แทน โดยมีเนื้อหาดังนี้
ตามที่มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 14/2557 เรื่องห้ามสร้างความขัดแย้ง หรือต่อต้านการปฏิบัติงานของ คสช. และฉบับที่ 18/2557 เรื่องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ และผู้บังคับบัญชาได้มอบนโยบาย และจัดประชุมชี้แจงให้ผู้อำนวยการส่วน หัวหน้าฝ่ายสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ปฏิบัติตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยเคร่งครัด แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2557 เวลา 19.00 น. ส่วนผลิตข่าวและรายการข่าว สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ได้เผยแพร่ข่าวที่ขัดต่อประกาศดังกล่าว
ดังนั้น เพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ จึงให้ น.ส.เจริญศรี หงส์ประสงค์ ผู้อำนวยการส่วนผลิตข่าวและรายการข่าว สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หยุดปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการส่วนผลิตข่าวและรายการข่าว และให้ น.ส.จิตติมา วุฒิวัฒน์ ตำแหน่งนักสื่อสารมวลชน ระดับชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการส่วนผลิตข่าว และรายการข่าว แทนจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ด้านนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยยืนยันว่า เรื่องดังกล่าว ไม่ได้เป็นการปลดออกจากตำแหน่ง เป็นเพียงการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ บรรณาธิการข่าวประจำวันชั่วคราว และขณะนี้ก็ยังไม่มีมาตรการ หรือบทลงโทษใด ๆ เพราะยังไม่ได้กระทำความผิดถึงขั้นที่จะต้องถูกลงโทษหนัก
"ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ผมจะเรียก น.ส.เจริญศรี และผอ.สถานีฯ เข้ามาพูดคุยเป็นการภายในเพื่อซักถาม ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และอาจจะมีการตักเตือนให้ระวังในการนำเสนอข่าวให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกับนโยบาย ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ด้วยซึ่งถ้าการพูดคุยดูแล้วไม่มีปัญหาอะไร ก็สามารถกลับเข้ามาทำงานได้ตามปกติ ในตำแหน่งเดิมเราเป็นข้าราชการเหมือนกันผมให้ความเคารพ และไม่ได้ใจร้ายขนาดที่จะไล่ออก เรื่องนี้ต้องมาพูดคุยกันก่อน ยืนยันเรื่องดังกล่าว คสช.ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง และไม่ได้ส่งสัญญาณให้มีคำสั่งออกมา ผมกล้ายืนยันว่า ไม่มีแน่นอน เรื่องนี้เป็นการดำเนินการภายในของช่อง11 ” นายอภินันท์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการวางมาตรการอย่างไรต่อไป หากมีการนำเสนอไปในทางที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก นายอภินันท์ กล่าวว่าเราจะใช้กรณีนี้เป็นตัวอย่าง และจะต้องมีการนั่งพูดคุยถึงกติกาในการเสนอข่าว ที่จะต้องระมัดระวังมากกว่าเดิม รวมถึงต้องใช้ดุลยพินิจในการตรวจสอบข่าวก่อนออกอากาศ ที่ละเอียดอ่อนมากกว่าเดิมด้วย.
เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ปรากฏข่าว การเผยแพร่เอกสาร ซึ่งเป็นหนังสือคำสั่งสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยที่ 63/2557 ลงนามโดย นายจำลอง สิงห์โตงาม ผอ.สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 13 มิ.ย. ให้ข้าราชการหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยคำสั่งดังกล่าว ได้สั่งให้ น.ส.เจริญศรี หงส์ประสงค์ ผอ.ส่วนผลิตข่าว และรายการข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยให้เหตุผล ว่า ส่วนผลิตข่าวและรายการข่าวของสถานีได้เผยแพร่ข่าวที่ขัดต่อประกาศของ คสช. และมีคำสั่งให้ให้ น.ส.จิตติมา วุฒิวัฒน์ มาปฏิบัติหน้าที่แทน โดยมีเนื้อหาดังนี้
ตามที่มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 14/2557 เรื่องห้ามสร้างความขัดแย้ง หรือต่อต้านการปฏิบัติงานของ คสช. และฉบับที่ 18/2557 เรื่องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ และผู้บังคับบัญชาได้มอบนโยบาย และจัดประชุมชี้แจงให้ผู้อำนวยการส่วน หัวหน้าฝ่ายสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ปฏิบัติตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยเคร่งครัด แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2557 เวลา 19.00 น. ส่วนผลิตข่าวและรายการข่าว สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ได้เผยแพร่ข่าวที่ขัดต่อประกาศดังกล่าว
ดังนั้น เพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ จึงให้ น.ส.เจริญศรี หงส์ประสงค์ ผู้อำนวยการส่วนผลิตข่าวและรายการข่าว สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หยุดปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการส่วนผลิตข่าวและรายการข่าว และให้ น.ส.จิตติมา วุฒิวัฒน์ ตำแหน่งนักสื่อสารมวลชน ระดับชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการส่วนผลิตข่าว และรายการข่าว แทนจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ด้านนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยยืนยันว่า เรื่องดังกล่าว ไม่ได้เป็นการปลดออกจากตำแหน่ง เป็นเพียงการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ บรรณาธิการข่าวประจำวันชั่วคราว และขณะนี้ก็ยังไม่มีมาตรการ หรือบทลงโทษใด ๆ เพราะยังไม่ได้กระทำความผิดถึงขั้นที่จะต้องถูกลงโทษหนัก
"ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ผมจะเรียก น.ส.เจริญศรี และผอ.สถานีฯ เข้ามาพูดคุยเป็นการภายในเพื่อซักถาม ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และอาจจะมีการตักเตือนให้ระวังในการนำเสนอข่าวให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกับนโยบาย ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ด้วยซึ่งถ้าการพูดคุยดูแล้วไม่มีปัญหาอะไร ก็สามารถกลับเข้ามาทำงานได้ตามปกติ ในตำแหน่งเดิมเราเป็นข้าราชการเหมือนกันผมให้ความเคารพ และไม่ได้ใจร้ายขนาดที่จะไล่ออก เรื่องนี้ต้องมาพูดคุยกันก่อน ยืนยันเรื่องดังกล่าว คสช.ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง และไม่ได้ส่งสัญญาณให้มีคำสั่งออกมา ผมกล้ายืนยันว่า ไม่มีแน่นอน เรื่องนี้เป็นการดำเนินการภายในของช่อง11 ” นายอภินันท์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการวางมาตรการอย่างไรต่อไป หากมีการนำเสนอไปในทางที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก นายอภินันท์ กล่าวว่าเราจะใช้กรณีนี้เป็นตัวอย่าง และจะต้องมีการนั่งพูดคุยถึงกติกาในการเสนอข่าว ที่จะต้องระมัดระวังมากกว่าเดิม รวมถึงต้องใช้ดุลยพินิจในการตรวจสอบข่าวก่อนออกอากาศ ที่ละเอียดอ่อนมากกว่าเดิมด้วย.
