xs
xsm
sm
md
lg

"อรรถพล"ปัดขี้ข้าแม้ว บี้คสช.เช็กบิลสุวิจักขณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หัวหน้าคสช. เร่งแก้ไขปัญหาประชาชนเดือดร้อนที่เข้าร้องเรียน "วินธัย" แจงฉายหนัง"นเรศวร"ให้ดูฟรี เนื่องจากเจ้าของหนังอยากคืนกำไรสู่สังคม ปัดมัดมือชก"อาร์เอส" ถ่ายสดบอลโลก ผ่านฟรีทีวี ชี้เด้ง 3 บิ๊กขรก. เพื่อความเหมาะสม ไม่เกี่ยวจุดยืนการเมือง ด้าน"อรรถพล" ยิ่มร่าเข้าทำเนียบฯ หลังโดน คสช.เด้งจาก อสส. ออกปากไม่ใช่ขี้ข้า"ระบอบแม้ว" ขณะที่อดีต ส.ส.ปชป.ยื่น คสช. สอบ"สุวิจักขณ์" ส่อทุจริต หลายโครงการ

เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ ( 12 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์? จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้มอบมหายให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุม คสช. เพื่อติดตามสถานการณ์ประจำวัน และความคืบหน้าของการดำเนินงานของ คสช. โดยมีตัวแทนจากส่วนงานต่างๆ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง

พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า หัวหน้า คสช. ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเร่งพิจารณาข้อมูลเรื่องร้องเรียนที่ได้รับ ทั้งจากการยื่นหนังสือและผ่านทางศูนย์รับเรื่องร้องเรียน เพื่อเดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยด่วน หากเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย ขอให้ฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาไปได้อย่างรวดเร็วขึ้น

ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด ขอให้เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจและพลเรือน เร่งบูรณาการการทำงานร่วมกันโดยหลีกเลี่ยงการใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก แต่ขอให้ใช้อำนาจตามกฎหมายปกติ เข้าดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

**แจงดูฟรีหนัง"นเรศวร"

ต่อมาเวลา 10.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงกรณี คสช.จัดกิจกรรมให้ประชาชน รับชมภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ตอนยุทธหัตถี พร้อมกันทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ว่า เนื่องจากทางผู้จัดคิดว่ามีประชาชนหลายคนได้ชมไปแล้วจำนวนมาก ทางเจ้าของหนัง กับเจ้าของโรงภาพยนตร์ จึงอยากมีอะไรที่ตอบแทนสังคม จึงได้มาคุยกับคสช. โดยไม่ได้พูดถึงเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด

"กิจกรรมนี้เหมือนเป็นการคืนกำไรให้สังคม แต่พอมีคนไปแปลงเจตนาที่ผิด คนที่เขาคิดดี จึงเสียใจ" พ.อ.วินธัยกล่าว

สำหรับผู้ที่จะเข้าชมภาพยนตร์ สามารถรับบัตรได้ที่หน้างาน โดยมีการฉายรอบเดียวเท่านั้น ส่วนเรื่องจำนวนโรงภาพยนตร์นั้น แต่ละแห่ง อาจมีมากกว่าหนึ่งโรง หากเจ้าของโรงภาพยนตร์นั้นๆ สามารถจัดสรรให้ได้ โดยการจัดกิจกรรมในพื้นที่ต่างจังหวัด จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพ

ส่วนรอบวันที่ 14 มิ.ย. จะเป็นรอบที่เชิญผู้บังคับบัญชา ข้าราชการ และ สื่อมวลชน เข้ารับชมที่ห้างสรรพสินค้า สยามพารากอน เนื่องจากที่ผ่านมา หากเป็นกิจกรรมของกองทัพ หรือช่วยเหลือสังคม ทางห้างสรรพสินค้าพารากอน จะอนุญาตให้ไปใช้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

** ปัดมัดมือชก"อาร์เอส"ถ่ายบอลโลก

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า คสช.ประสานกับ กสทช. และบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เพื่อขอความร่วมมือถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ผ่านทางฟรีทีวีครบทุกแมตซ์นั้น พ.อ.วินธัย ชี้แจงว่า เป็นเพียงการแนะนำให้ กสทช. กับทางภาคธุรกิจที่ได้รับลิขสิทธิ์หารือกัน เพราะเป็นความประสงค์ของคนจำนวนมาก

"ยืนยันไม่ใช่มาตรการบังคับ ไม่ใช่มัดมือชก แค่ขอความร่วมมือ ไม่ได้ไปก้าวล่วงว่าจะต้องออกมาในรูปแบบไหน แต่ทั้งนี้ ต้องเข้าใจระบบธุรกิจด้วย เพราะไม่เหมือนสมัยก่อน ธุรกิจมีการเดินที่ต่างจากสิบปีที่แล้ว ส่วนจะได้ดูกี่แมตช์ คงต้องรอผลการประชุมในช่วงบ่าย(12 มิ.ย.) ก่อน” พ.อ.วินธัย ระบุ

สำหรับการประกาศ คสช. ที่มีผลให้โยกย้าย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัยการสูงสุด (อสส.) และปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) มาประจำ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ไม่ควรมองว่า บุคคลเหล่านี้กระทำความผิดอะไร แต่เป็นไปด้วยความเหมาะสม

ส่วนที่มีการมองว่าทั้ง 3 คน เหมือนเป็นมือเป็นไม้ให้กับรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาก่อนนั้น คงไม่ใช่ปัจจัยนั้น เพียงแต่ที่ผ่านมาบางคนอาจจะมีส่วนร่วมบ้าง อยู่ในความขัดแย้ง แต่ยืนยันว่าทั้ง 3 คน ไม่ได้มีความผิด

**ขอตปท.เลิกหนุน"เจ๊เพ็ญ"

พ.อ.วินธัย ยังได้กล่าวถึงกรณี นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ เคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหาร อยู่ในต่างประเทศ ว่า ขณะนี้มาตรการที่ดำเนินอยู่คือ ขอความเห็นใจจากต่างประเทศที่จะไม่สนับสนุน เพราะการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ เข้าข่ายยุยง ปลุกปั่น ไม่เป็นไปตามหลักที่ควรจะเป็น ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้า คสช. แสดงความเป็นห่วงในเรื่องนี้นั้น ขณะนี้ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายในประเทศ ส่วนต่างประเทศ ยังให้หน่วยงานที่มีช่องทางอยู่ต่างประเทศ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงกลาโหม ผู้ช่วยทูตต่างๆ พยายามทำความเข้าใจ ยังไม่ได้ใช้ช่องทางกฎหมาย อีกทั้งขณะนี้การเคลื่อนไหวดังกล่าว ยังไม่อยู่ในลักษณะที่น่ากังวลเท่าใด แค่พยายามจะเคลื่อนไหวเท่านั้น ยังเชื่อว่า กลไกภาครัฐที่มีอยู่ยังสามารถทำความเข้าใจได้ ทั้งนี้ เบื้องต้นการดำเนินการดังกล่าว เป็นเรื่องการละเมิดกฎหมายปกติ อาทิ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116

ส่วนกรณีหัวหน้า คสช. ขอความร่วมมือให้ทูตต่างๆ เร่งติดตามผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในต่างประเทศนั้น พ.อ.วินธัย กล่าวว่า เป็นเรื่องความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 เรื่องยุยง ปลุกปั่น และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงเฉพาะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งพวกที่อยู่ในต่างประเทศจะใช้มาตการทำความเข้าใจ เพราะไม่อยากให้มีการสนับสนุนให้มีการเคลื่อนไหวในลักษณะแบบนี้


**"อรรถพล"เข้าทำเนียบฯหลังโดนเด้ง

เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุด ได้เดินทางเข้ารายงานตัวที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากมีคำสั่งของ คสช. ให้มาปฏิบัติราชการ ที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยภายหลังการรายงานตัว นายอรรถพล ได้เข้าสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายาย ร่วมกับ นายกมล สุขสมบูรณ์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา

นายอรรถพล กล่าวกับสื่อมวลชนว่า การเป็นอัยการสูงสุด มีวันสบายใจอยู่ 2 วัน คือวันรับตำแหน่งกับพ้นตำแหน่ง ยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องอึดอัดใจอะไร ไปดูการสั่งคดีที่ผ่านมาได้ ซึ่งแม้จะถูกโยกมาสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่พร้อมทำงานทุกอย่าง เป็นข้าราชการต้องทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการพลเรือน หรือข้าราชการอัยการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเคืองใจในคำสั่งของ คสช. ที่ใช้อำนาจโยกย้ายครั้งนี้หรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ตนเคยบรรยายในฐานะที่เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย โดยบอกกับลูกศิษย์ว่า ถ้าประเทศชาติไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย อยู่ไม่ได้ พอคสช.มาให้มีการบังคับใช้กฎหมาย ตนพอใจ แล้วได้บอกอัยการทุกคน สิ่งสำคัญคือคสช.จะไม่เข้ามาก้าวก่ายดุลพินิจการสั่งคดีของอัยการ

** ปัด"ขี้ข้า"ทักษิณ

เมื่อถามว่า การถูกโยกย้ายครั้งนี้ เนื่องมาจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า อยากให้ดูการกระทำ เมื่อครั้งคดียุบพรรคไทยรักไทยได้หรือไม่ ตนก็เป็นคนว่าความ จนเป็นผลให้พรรคไทยรักไทย ถูกยุบ รวมถึงคดีอาญาทางการเมืองต่างๆ ก็มีส่วนร่วมมาโดยตลอด

" ชื่ออรรถพลขายได้ตลอดในลักษณะบู๊ แต่การมองภาพอย่างไร เราเอาความจริงเป็นตัวตั้ง" นายอรรถพล กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าการโยกย้ายครั้งนี้ เกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ส่วนตัวตอบไม่ได้ แต่วันนี้ยังยิ้มได้ตลอด แล้วเราให้อัยการมาช่วย คสช. ตั้งหลายคน อะไรที่ทำแล้วเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เกิดความปรองดอง สามัคคี ก็ยินดี

"คนชื่ออรรถพล ยิ้มได้เสมอ ใครจะมองผมอย่างไร เช็คดูประวัติได้ การดำเนินคดีของอัยการ เราชี้แจงได้ ผมไม่ได้สนับสนุนการปฏิวัติ แต่สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย" นายอรรถพล กล่าว

นายอรรถพล เปิดเผยด้วยว่า แม้จะถูกให้มาช่วยงานที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ในวันที่ 13 มิ.ย. จะยังเดินทางเข้าร่วมประชุม คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ในฐานะกรรมการ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อพิจารณาการเปิดตำแหน่งรอง ผบ.ตร. รองรับตามคำพิพากษาศาลปกครอง กรณี พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา ( สบ10 )

** จี้คสช.เช็กบิล"สุวิจักขณ์"

ในวันเดียวกันนี้ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยมีตัวแทนรับมอบหนังสือดังกล่าว

นายวิลาศ กล่าวว่า ต้องขอบคุณหัวหน้า คสช. ที่ย้ายนายสุวิจักษ์ แต่ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ต่อ เพราะตลอดเวลามีข่าวความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น อาทิ โครงการปูหินอ่อนลานพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่อ้างว่าเป็นหินอ่อนจากอิตาลี 15 ล้านบาท ทั้งที่ปกติไม่มีใครปูหินอ่อนในลานแจ้ง และยังมีโครงการปรับปรุงห้องต่างๆ ในสภามูลค่ามหาศาล ทั้งที่จะใช้สภาอีกเพียง 2 ปี

นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นหลังยุบสภาแล้ว ซึ่งส่อถึงความไม่โปร่งใส และอยากให้ยับยั้ง อาทิ โครงการทำป้ายเผยแพร่ความรู้การเมืองการปกครองประชาธิปไตย 8 ป้าย 48 ล้านบาท โครงการเปลี่ยนแบบก่อสร้างลานจอดรถใต้ดิน อาคารรัฐสภาใหม่ จาก 3 ชั้นเหลือ 2 ชั้น แล้วทำโครงการสร้างอาคารจอดรถใหม่เพิ่ม ทำโครงการรัฐสภาจังหวัดเพิ่มอีก 6 จังหวัด และยังมีรายงานว่า มีการประสานขอซื้อโรงแรมร้างที่ จ.อุบลราชธานี เนื้อที่ 8ไร่ ในราคา 60 ล้านบาท ในขณะที่ราคาตลาด15 ล้านบาท ทั้งนี้ตนได้แจ้งไว้ด้วยว่า พร้อมจะให้รายละเอียดในแต่ละโครงการ ซึ่งมีอีกมาก รวมทั้งการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ ที่ทราบว่าไปกันทุกสัปดาห์ในช่วงนี้ ที่ส่อไม่โปร่งใส เช่น ไปญี่ปุ่น แต่เดินทางด้วยสายการบินเวียดนาม และเกาหลี ไม่ใช้การบินไทย เป็นต้น

นายวิลาศ กล่าวด้วยว่า อยากให้ คสช. ตรวจสอบด้วยว่ามีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะบางโครงการ มีข้อมูลโยงถึงนักการเมือง และขอให้ดำเนินการอย่างจริงจัง

**"จเร"รอคำสั่ง คสช. มอบหมายงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถูกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย้ายให้ไปปฏิบัติราชการ ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา และให้รองเลขาธิการสภาฯ ที่อาวุโสสูงสุด มารักษาราชการแทน คือ นายจเร พันธุ์เปรื่อง รองเลขาธิการสภาฯ มาปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภาฯ แทน ปรากฏว่าตั้งแต่เช้า นายจเร ได้หารือกับคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงกรอบการทำงานภายในสำนักงานฯ แต่ได้เพียงข้อสรุปในแนวทางปฏิบัติเบื้องต้น ถึงอำนาจการทำงานที่สามารถใช้ได้เทียบเท่านายสุวิจักขณ์ ส่วนภารกิจอื่นๆ ที่ คสช. อาจจะมอบหมายให้ทำ เช่น เป็นฝ่ายธุรการของสภานิติบัญญัติ (สนช.) หรือสภาปฏิรูป ต้องหารืออีกครั้ง

นายจเร กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่า คสช. จะมีคำสั่งให้ดำเนินงานเรื่องใด หรือไม่ คงต้องรอคำสั่งอย่างเป็นทางการก่อน

ส่วนความเคลื่อนไหวของนายสุวิจักขณ์ ตั้งแต่ช่วงเช้า พบว่าได้เดินทางเข้ามาที่รัฐสภา เพื่อปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวข้อง แหล่งข่าวกล่าวว่า นายสุวิจักขณ์ จะไม่เข้าไปทำงาน หรือนั่งทำงานประจำที่สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ โดยจะอยู่ที่ห้องทำงานที่สโมสรรัฐสภา เพราะนายสุวิจักขณ์มีตำแหน่งเป็น ผู้จัดการสโมสรรัฐสภา ด้วย

*** บช.น.จัดงานคืนความสุขให้ประชาชน 15 มิ.ย.นี้

วานนี้(12มิ.ย.) เวลา11.00น. ที่ดองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผช.ผบ.ตร.รรท.ผบช.น. พ.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่2 รักษาพระองค์ คุณนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คุณวิบูลย์ สีรัตนคจร กก.ผจก.บ.เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กทม. ร่วมกันแถลงข่าวจัดกิจกรรม "คืนความสุข สู่ประชาชน" ในวันอาทิตย์ ที่15มิ.ย.57 ตั้งแต่เวลา 15.00-20.00น. บริเวณสวนลุมพินี

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า กิจกรรม"คืนความสุข สู่ประชาชน" ที่จัดขึ้นในวันที่15มิ.ย.57นี้ ภายในงานจะจัดกิจกรรมมากมาย อาทิ การแสดงของวงดุริยางค์ตำรวจ, การจัดกิจกรรมพระราชดำริสาธิตการทำคลอด, กิจกรรมสอนวินัยขับขี่ปลอดภัย, การแสดงโชว์ของสุนัขตำรวจ, การแสดงม้าของทหารและตำรวจ, Mascot Police, วงปี่สก๊อต, สถานีความสุข, จ่าเฉย และการแสดงจากดารานักแสดงศิลปิน อาทิ แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ ควงคู่มากับ สารวัติหมี, จ๊ะ อาร์สยาม, บลูเบอรี่ อาร์สยาม, กระแต อาร์สยาม, กระต่าย อาร์สยาม, ชายแอ็ค-สุทธา ทวีศรีธนโชติ, ไชยา มิตรชัย, หลิว-อาราดา พรหมพฤกษ์, อาร์ต ภูชิสส์ กิติคุณอัครโยธิน, กระต่าย-ทรรศิกา ยิติมิตร, เรยา ไวยาวัจกร บอล-ณัฐพล รัตนิพนธ์, เต๋า-สมชาย เข็มกลัด, ท๊อป-จรณ โสรัตน์ เป้ ไฮร็อค และบิ๊กจ๊ะ สาธิต กรีกุล รวมทั้งบริการเสริมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จากกรมควบคุมโรคติดต่อและโรงพยาบาลตำรวจ บริการตรวจสุขภาพฟรี จากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลตำรวจและทหาร พร้อมทั้งบนิการอหาร และเครื่องดื่มฟรีตลอดทั้งงาน

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมงานที่จัดขึ้นในวันเวลาดังกล่าว เพราะกิจกรรมที่จัดขึ้น อยากให้คนไทยกลับมารักกัน สามัคคีปรองดอง กลับมาเป็นสยามเมืองยิ้มอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหน่วยงานที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับประชนมาโดยตลอด จึงอยากจะส่งมอบความสุขให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน ดังสโลแกนที่ว่า "ตำรวจรักประชาชน ตำรวจเป็นขิงประชาชน"
กำลังโหลดความคิดเห็น