xs
xsm
sm
md
lg

“ลาดา อาร์สยาม” ลูกสาวคนงามของเจ้าพ่อเพลงแหล่ “บุญโทน คนหนุ่ม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ออกงานและขึ้นเวทีร้องเพลงประกบคู่กับพ่อมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ซึ่งเธอได้หัดร้องเพลงแหล่และชื่นชอบเพลงลูกทุ่ง โดยหวังว่าจะเจริญรอยตามพ่อที่มีฉายาเจ้าพ่อเพลงแหล่ “ลาดา-อาภาภัทร สุขสวัสดิ์ชล” หรือ “ลาดา อาร์สยาม” ลูกสาวคนเก่งของบุญโทน คนหนุ่ม
ชุด concept เพลงแชะ แชะ (อยากเซลฟี่กับเธอ)
ขึ้นเวทีและออกงานร้องเพลงกับพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ จนมีโอกาสได้เข้ามาเป็นนักร้องในสังกัดค่ายอาร์สยาม และมีซิงเกิลแรกกับทางค่ายชื่อเพลงว่า แชะ แชะ (อยากเซลฟี่กับเธอ) ซึ่งเพลงออกไปได้ไม่ถึงสองเดือนก็มียอดวิวในยูทิวบ์เป็นหลักล้านเลยทีเดียว

แม้ว่าหลายคนจะบอกให้เธอไปประกวดนางงาม เพราะเธอเคยผ่านเวที Miss Teen Thailand 2013 ได้ตำแหน่ง Miss Smart Teen มาแล้ว แต่ทว่าสิ่งที่เป็นตัวตนที่สุดในความคิดของเธอ คือการจับไมค์ร้องเพลง นับว่าเป็นลูกไม้ที่หล่นใต้ต้นได้อย่างตรงเป๊ะจริงๆ...

   • แรกเริ่มร้องเพลง...

ลาดาเริ่มร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบค่ะ ตอนนั้นร้องเพลงกับพ่อบุญโทน เริ่มมาจากพ่อเป็นนักร้อง ส่วนคุณแม่เป็นผู้จัดการ แล้วไม่มีเวลาอยู่กับลูกที่บ้าน ก็เลยจับลูกร้องเพลงตั้งแต่เด็กซะเลย จะได้อยู่ด้วยกัน ออกไปทำงานด้วยกัน โดยไม่ถามเราสักคำว่าเราร้องได้หรือไม่ได้ สรุปว่าเราก็ร้องได้ (หัวเราะ)

ตอนนั้นไม่ได้ฝึกอะไรมาก ก็ขึ้นเวทีร้องเพลงเลยค่ะ จำได้ว่าร้องเพลง “เด็กดอยใจดี” ของพี่มายด์ ป่วนเมือง ซึ่งกำลังดัง เราก็ขึ้นเวทีร้องเพลงนี้เลย ไม่ตื่นเต้น ไม่อาย ไม่เขิน ไม่อะไรเลยนะคะ ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่แปลกดีเหมือนกัน ตอนแรกคุณแม่ก็กลัวว่าจะทำไม่ได้ ก็มียืนสั่นอยู่ข้างเวที แต่เราโอเคนะ แล้วอีกอย่าง ตอนอยู่บนเวที เราเห็นคนดูสนุก ยิ่งรู้สึกดีมากๆ ค่ะ (ยิ้ม)

   • ออกงานกับคุณพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ แบบนี้แสดงว่านักร้องเป็นความฝันเลยใช่ไหมคะ

เราได้เห็นพ่อร้องเพลงบนเวทีมาตั้งแต่เรายังเด็กๆ ตอนนั้นจริงๆ ก็ยังไม่มีความฝันอะไร แต่พอได้ลองขึ้นเวทีตอน 6 ขวบ ได้เริ่มทำงาน เริ่มโต เริ่มมีความคิด ก็เลยเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่มันเป็นตัวเราที่สุดคือสิ่งที่เราได้สื่อออกไปให้คนข้างล่างเวทีได้รับ ได้มีความสุข สิ่งนั้นมันเลยทำให้ลาดาเริ่มชอบการร้องเพลง

ส่วนตัวลาดาจะเป็นเด็กที่ให้ทำอะไรก็จะทำนะคะ เพราะว่าตั้งแต่เกิดมาจะไม่เคยพูดกับพ่อแม่เลยว่าเราทำนั่นไม่ได้ ทำนี่ไม่ได้ ให้ทำอะไร เราทำได้หมด อย่างร้องเพลงก็เหมือนกัน เราก็ทำ พอเราทำแล้วบังเอิญว่าเราก็ชอบไปด้วย เพราะเราได้ร้องเพลงแล้วเห็นว่าคนอื่นๆ สนุก มีความสุขกับสิ่งที่เราทำ อีกอย่างน่าจะเป็นอะไรที่เราทำได้ดี ตั้งแต่ตอนนั้น ลาดาก็ได้ออกงานร้องเพลงมาเรื่อยๆ แล้วก็เริ่มเก็บเงินเลยค่ะ บางงาน เจ้าภาพก็จะถามหาเรา เขาจะจ้างเราไปร้องเพลงด้วย (ยิ้ม)

ก่อนหน้านี้ ลาดาไม่เคยประกวดร้องเพลง ไม่เคยเรียนร้องเพลง ไม่เคยเรียนเต้นมาก่อนเลยนะคะจะมีแค่เคยไปร้องเพลงในรายการ “ร้องแลกไลค์ไทยแลนด์” และเวทีประกวดรายการ “เสียงสวรรค์พิชิตฝัน” ของช่อง 8 ค่ะ หลังจากนั้นก็เลยได้เรียนพื้นฐาน 1 ปี ตอนที่ได้เป็นศิลปินฝึกหัดค่ะ (ยิ้ม)

   • เห็นว่าเข้ามาอยู่ในสังกัดค่ายอาร์สยาม และตอนนี้ก็ปล่อยซิงเกิลแรกออกมาแล้ว มียอดวิวเป็นหลักล้าน

ตอนแรกลาดาก็ไม่เคยคิดเลยนะคะว่าจะได้มาอยู่ค่ายอาร์สยาม เพราะว่าเราก็ไม่ได้มีเส้นมีสายหรืออะไรทางนี้เลย จะมีก็แต่ร้องเพลงกับคุณพ่อไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่ได้คิดอะไร พอได้เข้ามาอยู่ในอาร์สยาม มันเลยทำให้เรารู้สึกว่าฟินมากๆ

ลาดาเข้ามาในค่ายอาร์สยาม ตอนที่ไปในเวทีประกวดรายการเสียงสวรรค์พิชิตฝันค่ะ ตอนนั้นเหมือนเป็นทีมรวมญาติคนดัง ก็จะมีการนำน้าของพี่จ๊ะ อาร์สยาม น้องของพี่กระแต อาร์สยาม มาร้องเพลงแข่งกัน ส่วนของพ่อบุญโทน ลาดาก็เข้าไป ตอนนั้นก็ไม่ได้ซ้อมอะไรเลยนะคะ จะเป็นอารมณ์ร้องกันสนุกๆ ทำเป็นตอนพิเศษขึ้นมา แล้วบังเอิญผู้ใหญ่ก็ได้เห็นว่าคาแรกเตอร์ของเราเข้ากับทางค่ายอาร์สยาม และช่วงนั้นก็อยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนศิลปินด้วยพอดี เราก็เลยได้มีโอกาสเข้ามาออดิชั่น ได้เข้ามาแคสต์ ก่อนจะได้เป็นศิลปินฝึกหัดอยู่ 1 ปีค่ะ (ยิ้ม)

ตอนนี้มีซิงเกิลปล่อยออกมาไม่ถึงสองเดือน ได้สองล้านวิว ก็ตกใจเหมือนกันนะคะ เพราะเราไม่ได้คิดว่าคนจะดู พอปล่อยเพลงไปนานๆ ยอดวิวแต่ละวันก็เพิ่มมากขึ้น เร็วขึ้น ก็รู้สึกดีมาก คอมเมนต์ในยูทิวบ์ส่วนมากก็เป็นไปในทางที่ดี (ยิ้ม)

   • แสดงว่าคุณพ่อผลักดันให้เราเป็นนักร้องใช่ไหม เพราะคุณพ่อก็เป็นศิลปินอยู่

ผลักดันค่ะ (ตอบเร็ว) คล้ายๆ กับว่าคนเป็นหมอ เขาก็อยากให้ลูกได้เป็นหมอ แต่ลูกบางคนเขาอาจจะไม่ได้อยากเป็นตามที่พ่อแม่อยากให้เป็น ส่วนพ่อเราเป็นนักร้อง ท่านก็อยากให้เราเป็นนักร้อง แล้วเราก็ชอบด้วยพอดี ก็เลยได้ไปในทางเดียวกันค่ะ (ยิ้ม) คือมันพอดีกันจริงๆ เราเองก็ไม่ได้ดื้ออยากไปทำอย่างอื่นด้วย (หัวเราะ) แต่พูดตามจริงเลยนะคะ พ่อเคยอยากให้ลาดาเป็นผู้พิพากษา คือแตกต่างกันเลย เป็นคนละโลกกันเลย แต่เขาก็ให้เราเลือก เพราะถ้าจะไปสายนั้น ก็ให้ไปจริงจังกับทางนั้นเลย แต่เราเลือกที่จะยืนอยู่ตรงนี้ เป็นนักร้อง ซึ่งเขาก็โอเคค่ะ

มีบางกระแสเข้ามาเหมือนกันนะคะที่คนจะมองว่าพ่อเราดัน เรามีเส้น แต่ถ้าพูดว่าพ่อดัน พูดจริงๆ ถ้าพ่อเราไปดันคนอื่น มันก็จะแปลกๆ เนอะ เราเป็นลูก พ่อดันเราก็ถูกแล้ว (หัวเราะ) แต่บังเอิญว่าเราทำได้และชอบ ก็เลยสานต่อยาว (ยิ้ม) พอมีกระแสว่าเราเป็นลูกบุญโทน ถ้าเกิดเราทำดีก็เสมอตัว แต่ถ้าทำไม่ดีปุ๊บ.. “อ้าว นี่ลูกบุญโทนนี่ ทำได้แค่นี้เองหรือ” อะไรประมาณนี้ค่ะ เราก็ต้องพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าเราทำได้จริงๆ

ลาดายอมรับว่าเราอาจจะมีเชื้อสายของศิลปิน เรามีต้นทุนเดิมก็คือเราเป็นลูกของพ่อบุญโทน โอเคเรามีความภูมิใจในตรงนั้นแล้ว เพราะพ่อเราผลักดันเรามาครึ่งหนึ่งแล้ว แต่ว่าที่เหลืออีก 50 เปอร์เซ็นต์ คือมันเป็นตัวเราทั้งหมด คือเราอาจจะเหนื่อยมากกว่าคนอื่นก็ได้ เพราะเราจะมีความกดดันในตัวเองสูงมากนะคะ ทั้งแรงกดดันจากสังคมและทั้งจากตัวเองด้วย พอเราโดนกระแสทางสังคมข้างนอกมา เราก็จะมีนอยด์ๆ บ้าง ก็จะอาศัยนั่งคุยกับคุณแม่

คุณแม่จะบอกลาดาเสมอว่าเราไม่เห็นจะต้องนอยด์อะไรเลย คุณก็ทำหน้าที่ของคุณให้ดีก็พอแค่นั้น แต่เอาจริงๆ ต้นทุนในการร้องเพลงของลาดามันไม่ได้เวอร์ ไม่ได้เพราะพริ้งมากนะคะ เพราะลาดาก็ไม่ได้ถนัดไปทางลูกทุ่งแท้ แต่ลาดาคิดว่าลาดาเป็นตัวของตัวเอง มีสไตล์เป็นของตัวเอง พอบวกกับการแหล่ที่เราได้มาจากพ่อบุญโทน มันเลยชัดเจน คาแรกเตอร์เราเลยชัดเจนยิ่งขึ้นมากกว่าค่ะ

   • อยากมีชื่อเสียงเหมือนคุณพ่อบุญโทนหรืออยากอยู่ในวงการร้องเพลงยาวนานเหมือนคุณพ่อเลยหรือเปล่า

อยากค่ะ อยากแน่นอน (ตอบเร็ว) อันนี้มันเป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้ว แต่เราก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร เราอยากอยู่ยาวๆ อยากให้ทุกคนได้เห็นว่าเราเป็นศิลปินที่ดีได้ ก็เป็นไปตามขั้นตอน เป็นไปตามระยะเวลาด้วยวัย ด้วยอะไรต่างๆ ซึ่งตรงนี้มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของลาดาที่เรามีซิงเกิลออกมาให้ทุกคนได้เห็น ทีนี้ต้องอยู่ที่ทุกคนแล้วค่ะว่าจะติดตามลาดามากแค่ไหน (ยิ้ม)

ส่วนตัวตอนนี้ก็มีคนรู้จักมากขึ้นนะคะ (ยิ้ม) ไม่ได้คิดว่าตัวเองดัง เพราะมันเป็นแค่จุดเริ่มต้น แต่ก็รู้สึกดีใจมากๆ ค่ะที่คนดูฟังเพลงเรา ดูเพลงเรา และร้องเพลงเราได้ ดีใจที่มีคนติดตามผลงานเรา

   • เห็นว่าเคยประกวด Miss Teen Thailand 2013 มาก่อนหน้านี้ด้วยใช่ไหมคะ

จากที่ไปประกวดเวทีนางงาม ตอนนั้นลาดาอยากลองมากกว่าค่ะว่ามันเป็นยังไง แต่พอไปลองแล้วถามว่าทำได้ไหม เราก็ทำได้นะคะ แต่มันไม่ใช่ตัวตนของเรา ต่างกันกับที่เรายืนจับไมค์ร้องเพลงอยู่บนเวที นั่นคือตัวตนของเราที่สุดแล้วค่ะ (ยิ้ม)

แต่ลาดารู้สึกดีนะคะ รู้สึกดีมากๆ อย่างเจอพี่ๆ ช่างแต่งหน้าเขาก็จะบอกเป็นประจำว่าลาดาเธอต้องประกวดนางงามนะ เพราะเขาเห็นว่าหุ่นเราและหน้าเราเข้ากับเวทีนางงามจริงๆ แต่เราขอเป็นนักร้องดีกว่า (หัวเราะ) เพราะมันเป็นตัวตนที่สุดแล้ว คนทักลาดาให้ไปเป็นนางงามเยอะนะคะ ทักเยอะจนตกใจเลย แต่ว่าเราไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบไปเดินสวยๆ เราจะเป็นคนกระฉับกระเฉง จะออกซนๆ รั่วๆ หน่อย แล้วพอได้มาเป็นศิลปิน มันสามารถสื่อตัวตนของเราออกมาให้ทุกคนได้เห็นว่าเราเป็นตัวของตัวเองจริงๆ เราก็เลยชอบตรงนี้มากกว่าค่ะ

    ได้มาอยู่ในวงการเพลง คุณพ่อว่ายังไงคะ เหมือนกับว่าเขาปั้นลูกคนหนึ่งให้เดินตามรอยเขาได้

ลาดารู้นะคะว่าเขาภูมิใจและก็ดีใจกับเรามากๆ เพราะเราก็เป็นลูกสาวคนเดียวแล้วก็ได้ดั่งใจเขาด้วย แต่เขาจะไม่ได้มาพูดกับเราโดยตรงนะคะ เพราะเขากลัวเราเหลิง เขาก็จะไปพูดกับคุณแม่แทนค่ะ แล้วคุณแม่ก็จะเป็นฝ่ายมาพูดให้เราฟังว่าพ่อโอเคกับเรานะ

พ่อจะเข้มงวดกับเรื่องงาน เรื่องซ้อมมากๆ เลยนะคะ อย่างเมื่อก่อนก็จะมีเรื่องเรียนด้วย แต่เดี๋ยวนี้เรื่องเรียนเขาจะให้เราเรียนพอให้ผ่าน ให้รอดไป เพราะเราก็ทำงานเยอะ มีโปรโมตเพลง โปรโมตละครด้วย เรื่องงานเราจะพลาดไม่ได้เลย เพราะเราเป็นลูกพ่อบุญโทน เป็นศิลปินในนามอาร์สยามด้วย ถ้าเกิดมีผลเสียอะไรออกมามันก็จะเสียที่ตัวเรา พ่อก็เลยค่อนข้างเข้มงวดเรื่องงานมากๆ ค่ะ (ยิ้ม)

   • ในฐานะที่เป็นลูกสาวของนักร้องแหล่ แถมยังคลุกคลีอยู่แต่กับเพลงแหล่มาตั้งแต่เด็ก คิดยังไงกับเพลงแนวนี้

ถ้าเราไม่ช่วยกันฟัง ไม่ช่วยกันอนุรักษ์ มันอาจจะหายไป อย่างภาษาไทย มันมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอด มีศัพท์วัยรุ่นหรือศัพท์ใหม่เข้ามา อาจจะมีคนที่ใช้ถูก แต่ในทางกลับกัน ก็อาจจะมีคนที่ใช้ผิดเหมือนกัน อย่างน้อยก็ขอให้เราช่วยกันฟัง มันก็จะอยู่กับเราไปได้นาน

ส่วนตัวลาดาเองจะเป็นคนฟังเพลงทุกแนวค่ะ ทุกแนวจริงๆ ทั้งลูกทุ่ง แหล่ ไทยเดิม ฮิปฮอป เกาหลี เคป็อป ลาดาฟังหมด ขึ้นอยู่กับแต่ละวันว่าเราอารมณ์ไหน เราจะเลือกฟังอะไร แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่มันถูกจริตเราที่สุด ก็คือเพลงไทย ไม่รู้นะ ลาดาว่าให้ไปเจองานไฮโซแค่ไหน ใส่เพชรหรูหรา ฟังแต่เพลงสากล สุดท้ายคนก็อยากฟังเพลง “สามสิบยังแจ๋ว” อยู่ดี เหมือนกับข้าว ข้าวญี่ปุ่น ข้าวไทย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวเจ้า ข้าวเหนียวนู่นนี่นั่น ทุกคนยังไงก็ต้องอร่อยกับข้าวไทยมากที่สุด คือมันเป็นอะไรที่เป็นของไทยเรา ก็ยิ่งต้องช่วยกันอนุรักษ์เอาไว้ อยากให้ฟังกันเยอะๆ แต่ก็เข้าใจว่าคนเรามีสไตล์ไม่เหมือนกัน แต่เดี๋ยวนี้ แนวเพลงมันมิกซ์กันได้ ก็อยากให้ลองปรับเปลี่ยนทัศนคติแล้วหันมาฟังเพลงไทยกันค่ะ

ส่วนตัวลาดารู้สึกดีนะคะที่เราเป็นส่วนหนึ่งที่ได้อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยของเรา และก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้เผยแพร่ตรงนี้ออกไป อย่างวันก่อน ลาดาไปโฟนอินในรายการหนึ่ง ก็มีน้องคนหนึ่งโทร.เข้ามาร้องท่อนแหล่ให้เราฟัง เรารู้สึกดีนะคะที่เราได้ปล่อยอะไรที่เป็นไทยออกไปให้คนรุ่นต่อๆ ไปได้ยิน (ยิ้ม)

   • ส่วนตัวเราหลงใหลอะไรในเพลงลูกทุ่งบ้างคะ

เราโตมากับสิ่งนี้ เรารักไปแล้ว ส่วนตัวลาดาก็เคยคิดนะคะว่าเราจะร้องเพลงไทยสากลดีไหม เพราะเราก็ร้องได้ แต่คิดไปคิดมา เราโตมากับสิ่งนี้แล้ว ถ้าเราไปยืนร้องเพลงสตริงอยู่บนเวที ถามว่าทำได้ไหม ก็ทำได้ แต่มันไม่ใช่ตัวตน

ลาดาว่าเพลงลูกทุ่งชัดเจนดีนะคะ รักคือรัก เกลียดคือเกลียด ร้องไห้คือร้องไห้ แต่เพลงสตริงจะประมาณว่าฉันนอยด์ ฉันก็จะนอยด์เฉยๆ แต่ถ้าเพลงลูกทุ่ง นอยด์คือนอยด์จริงๆ เห็นได้ชัด คือความชัดเจนของคนไทย สำเนียงมันจะชัดมากกว่า ภาพมันจะมามากกว่า

เพลงก็เหมือนขนมแหละค่ะที่คนจะเลือกซื้อ เลือกบริโภคต่างกัน แต่ละคนเขาก็จะมีสไตล์ของแต่ละคน แต่ลาดาคิดว่าวัยรุ่นที่เขาฟังเพลงลูกทุ่งก็มีอีกเยอะ ทั้งเพลงลูกทุ่งที่เป็นเพลงลูกทุ่งแท้ๆ กับเพลงลูกทุ่งที่เป็นลูกทุ่งป็อปแบบอาร์สยาม

   • อยากให้พูดถึงคนที่อยากเป็นนักร้อง แต่เขายังไม่มีโอกาสได้เข้าวงการ มีอะไรอยากบอกพวกเขาไหมคะ

ถามว่ามันยากไหมกับการที่จะได้เข้ามาศิลปินตรงนี้ ลาดาว่ามันยากมาก คนอื่นมองว่าลาดามีต้นทุนที่ดีเพราะมีพ่อเป็นนักร้อง แต่ลาดาเองยังมองว่ามันยากเลยค่ะ ยุคนี้ลาดาว่ามันโชคดีตรงที่โลกโซเชียลมันเปิดกว้าง มันมาไกลแล้ว มีหลายคนที่เขาดังมาจากโลกโซเชียลเยอะมาก ลาดาก็อยากให้ทุกคนเริ่มจากตัวเราเอง ช่องทางนี้มันยากก็จริง แต่มันก็กว้าง อยากให้ทุกคนลองทำ อยากจะทำอะไรก็ต้องลองเลยค่ะ

อีกอย่างเดี๋ยวนี้มีรายการประกวดเยอะมาก มีโครงการอะไรเยอะแยะมากเลยอย่างในค่ายอาร์เอส เดี๋ยวนี้จะมีศิลปินฝึกหัด เป็นโครงการที่เรียนด้วยกัน ชื่อโครงการว่า RSATP เข้ามาสมัครเรียน เป็นศิลปินฝึกหัด อย่างลาดาเองก็เหมือนกันค่ะ (ยิ้ม)

ลาดาว่าจะร้องเพลงได้ หนึ่งเลยต้องมีพรสวรรค์ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือพรแสวง เดี๋ยวนี้โลกไปไกลมาก สอนร้องเพลงในยูทิวบ์ก็มี ลาดามั่นใจว่าทุกคนทำได้และมันก็ไม่น่าจะยากจนเกินไป เราอยากทำอะไร ให้เสพสิ่งนั้นเยอะๆ ฟังเยอะๆ หัดร้องเยอะๆ (ยิ้ม)

ส่วนตัวลาดา เทคนิคส่วนมากจะจำจากคุณพ่อแล้วเอามาใช้มากกว่าค่ะ แต่คุณพ่อจะไม่เคยสอนลาดาร้องเพลงโดยตรงหรือสอนแหล่โดยตรงเลย แต่เราจะฟัง เราจะมองแล้วก็เอามาใช้ จะใช้การลองผิดลองถูก แล้วก็อาศัยครูพักลักจำมาโดยตลอด ทั้งการวางตัวในวงการด้วย ซึ่งเราจะได้เห็นมาตั้งแต่เด็ก เราก็จะทำตาม ซึ่งแต่ละเรื่องเป็นเรื่องที่ดีทุกอย่างเลยค่ะ (ยิ้ม)

   • เราวาดฝันเส้นทางในอนาคตไว้ยังไงบ้างคะ

ลาดาอยากทำหน้าที่ของเราตรงนี้ให้เต็มที่ค่ะ อยากจะมอบความสุขให้ทุกคน คือมันเสมอกันนะคะ เพราะลาดาก็ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักมอบให้ทุกคน ทุกคนรักลาดา มอบคืนลาดากลับมา มันเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วค่ะ คือผลข้างหน้าเราก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง แต่เราจะทำตรงนี้ให้ดีที่สุดค่ะ

ส่วนเรื่องเรียนตอนนี้ลาดาก็เรียนอยู่ชั้น ม.6 เอกดนตรีไทยสากลด้วยค่ะ ในอนาคต ลาดาจะเรียนนิเทศศาสตร์แน่นอนค่ะ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นเอกไหน ที่อยากเรียนนิเทศศาสตร์เพราะเหมือนเราทำงานอยู่ในวงการแบบนี้อยู่แล้วทุกวัน แล้วเราก็ชอบมาก ชอบจริงๆ จนเราอยากรู้ลึกมากกว่านั้นว่าตรงนั้นมันทำยังไงบ้าง อย่างเราเป็นคนเบื้องหน้า เราก็อยากลองทำงานเบื้องหลังดูบ้างว่าเขาทำยังไง แล้วมันก็สามารถทำให้เราเอามาปรับใช้กับงานให้ดียิ่งขึ้นได้ค่ะ (ยิ้ม)

 
 










Profile
ชื่อ นามสกุล : อาภาภัทร สุขสวัสดิ์ชล
ชื่อเล่น : ลาดา
ชื่อในวงการ : ลาดา อาร์สยาม
วันเกิด : 23 พฤศจิกายน 2540
การศึกษา : กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ สาขาดนตรีไทยสากล
งานอดิเรก : ซ้อมเต้น, ร้องเพลง, ฟังเพลง, ชอบดูหนังสือแฟชั่น, ชอบถ่ายเซลฟี่
ความฝันในวัยเด็ก : นักร้อง
ความสามารถพิเศษ : โต้วาที, สวดมนต์ทำนองสรภัญญะ, เต้น, ร้องเพลง, ร้องแหล่
คติในการทำงาน : ทำวันนี้ให้เต็มที่ จะได้ไม่มีคำว่าเสียใจในวันข้างหน้า

ผลงานที่ผ่านมา :
-รับเชิญภาพยนตร์เรื่อง รวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน
-ประกวด Miss Teen Thailand 2013 ได้ตำแหน่ง Miss Smart Teen
-ละครเรื่อง ธิดาแดนซ์ รับบท ธารทิพย์
-ร้องเพลงคู่กับคุณพ่อบุญโทนกับค่ายนพพรซิลเวอร์โกลด์ เพลง ปัญหาโลกแตก, แหล่อวยพร

ผลงานปัจจุบัน :
-เพลง แชะ แชะ (อยากเซลฟี่กับเธอ)
-ละครเรื่อง มนต์รักอสูร ทางช่อง 8


 

 

ลาดา อาร์สยาม และ พ่อบุญโทน คนหนุ่ม
ลาดา อาร์สยาม และ พ่อบุญโทน คนหนุ่ม
ลาดา อาร์สยามและครอบครัว

เรื่อง : วรัญญา งามขำ, กมลชนก บุญเพ็ง
ภาพ : พงษ์ฤทธิ์ฑา ขวัญเนตร และ Instagram : lada_rsiam

กำลังโหลดความคิดเห็น