ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติยึดอำนาจ และมีการโยกย้าย"บิ๊กตำรวจ"ในเครือข่ายระบอบทักษิณกันขนานใหญ่ ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงเรียกร้องจากสังคมให้ถือโอกาสนี้ รื้อคดีสังหาร "เอกยุทธ อัญชันบุตร" นักธุรกิจชื่อดังเจ้าของ เว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์
เพราะเชื่อว่าเบื้องลึกของการฆาตรกรรมครั้งนี้ ไม่ได้มีเพียง"ไอ้บอล" สันติภาพ เพ็งด้วง กับพวกเพียงไม่กี่คนที่ถูกจับกุมเท่านั้น แต่ยังมีขบวนการของ "คนมีสี" เป็นผู้ร่วมลงมือตามใบสั่ง เนื่องจากเอกยุทธ รู้ไส้ รู้พุง เป็นโจทก์คนสำคัญตลอดกาลของ ทักษิณ ชินวัตร เป็นเหมือนหนามแหลมที่คอยทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา
กรณี "ว.5โฟร์ซีซั่นส์ ชั้น 7 " อันอื้อฉาว ของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มาจากเอกยุทธคนนี้ ที่เป็นผู้เปิดโปง และยังมีข้อมูลเด็ด เกี่ยวกับนักการเมือง-ข้าราชการเลี่ยงภาษี-ขบวนการฟอกเงินโกงชาติ เตรียมแฉอีกระลอก จึงน่าจะเป็นชนวนในการถูกสั่งเก็บ
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.56 ที่เอกยุทธหายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้เป็นเวลาถึง 2 วัน พี่สาวพร้อมญาติจึงได้เข้าแจ้งความตำรวจ สน.วังทองหลาง ในคืนวันที่ 8 มิ.ย. และแจ้งกองปราบปรามอีกในวันที่ 9 มิ.ย.โดยระบุว่า เอกยุทธ โทรศัพท์มาถามหากุญแจเข้าบ้านพักย่านทาวน์อินทาวน์ ช่วงกลางดึกของวันที่ 6 มิ.ย. และในช่วงสายวันที่ 7 มิ.ย. ก็ให้เลขาส่วนตัวนำเช็คเงินสด มาให้เซ็นที่ลานจอดรถรับส่งผู้โดยสาร สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีนายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ ไอ้บอล เป็นคนขับรถให้ โดยไม่มีใครพบกับนายเอกยุทธ แต่อย่างใด
คนสุดท้ายที่ได้โทรศัพท์พูดคุยกับเอกยุทธ คือ พนักงานธนาคาร ที่โทรศัพท์เข้ามาสอบถามเอกยุทธ เกี่ยวกับการเซ็นอนุมัติจ่ายเงินจำนวน 5 ล้านบาท ให้กับเลขาฯ คนดังกล่าว ที่ทำหน้าที่ไปเบิกเงินหลังเอกยุทธ เซ็นเช็คให้
หลังจากพี่สาวไปแจ้งความ ก็กลายเป็นข่าวครึกโครม "เอกยุทธ ถูกอุ้มหายตัวลึกลับ" ตำรวจควานหาตัว แต่ยังไร้วี่แวว
จนกระทั่งตำรวจพบภาพบันทึกกล้องวงจรปิดใน จ.สุราษฎร์ธานี ที่จับภาพรถตู้ ยี่ห้อโฟล์คสวาเก้น สีดำ หมายเลขทะเบียน ฮพ 9304 กรุงเทพมหานคร ของเอกยุทธไว้ได้ขณะแล่นผ่านลงไปภาคใต้
ตำรวจควานหาตัวเอกยุทธไปทั้งภาคใต้ และได้เช็กประวัติ "ไอ้บอล" คนขับรถซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ที่ จ.พัทลุง น่าจะเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนา การหายตัวไปของเอกยุทธ
ต่อมาช่วงเที่ยงวันที่ 10 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวไอ้บอล ได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ย่าน จ.สมุทรสงคราม โดยผู้ที่จับกุมคือ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส หรือ ชื่อเดิมว่า พ.ต.ท.ชัดชัย เลี่ยมสงวน รอง ผกก.ป.(ยศและตำแหน่งขณะนั้น) ซึ่งเคยตกเป็นผู้ต้องหา ในคดีการหายตัวไปอย่างลึกลับของ นายสมชาย นีละไพจิตร ทนายมุสลิม ที่มีข้อพิพาทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี กรณีจับแพะผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน ต่อมางศาลมีคำสั่งยกฟ้อง จึงได้กลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้ง และเปลี่ยนชื่อเป็น พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน นั่งตำแหน่ง ผกก.ดส ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์
มีการนำตัวไอ้บอล มาแถลงข่าวที่ บช.น.ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งการแถลงข่าวครั้งนี้ ผิดไปจากปกติ โดยตำรวจให้ไอ้บอลเล่าเหตุการณ์ให้นักข่าวฟังมากกว่า จะนำตัวมาแถลงข่าวในฐานะผู้ต้องสงสัย หรือผู้ต้องหา ซึ่งไอ้บอล บอกว่า เอกยุทธ ไปพม่า โดยไม่บอกญาติ ทำให้มีคนคิดไปว่า เอกยุทธอุ้มตัวเองสร้างกระแส
ในช่วงเที่ยงวันเดียวกันนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาเปิดประเด็นเป็นคนแรกว่า เอกยุทธ น่าจะถูกฆ่าตายแล้ว โดยคนขับรถประสงค์ต่อทรัพย์
ตกเย็น ไอ้บอล ก็ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่าเอกยุทธ เพื่อชิงเงิน 5 ล้านบาท ที่เพิ่งเบิกจากธนาคาร แล้วนำศพไปฝังไว้ที่ เขาจิงโจ้ อ.ชัยบุรี จ.พัทลุง พร้อมซัดทอดผู้ร่วมก่อเหตุอีก 5 คนคือ นายสุทธิพงษ์ หรือ เบิ้ม พิมพิสาร ,นายทิวากร หรือ ทิว เกื้อทอง , นายชวลิต หรือเชา วุ่นชุม ทำหน้าที่ร่วมฝังศพนายเอกยุทธ อีก 2 คน เป็นพ่อและแม่ ของไอ้บอลเอง โดยเป็นผู้รับฝากเงินสดกว่า 4 ล้านบาท ที่ได้จากตัว เอกยุทธ
เมื่อเรื่องคลี่คลายลง เจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังตำรวจพัทลุง ให้เข้าควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมคุมตัวไอ้บอล ลงไปหาหลักฐานสำคัญของคดี นั่นคือศพของเอกยุทธ ที่ถูกฝังไว้ เมื่อให้ญาติมาตรวจสอบ หฏยืนยันเป็นศพของเอกยุทธจริง จึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด กลับมายังกรุงเทพฯ พร้อมเค้นสอบเพิ่มเติม
โดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้น ลงมาควบคุมการทำคดีด้วยตัวเอง
ขณะที่ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความเอกยุทธ ออกมาให้สัมภาษณ์ ไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาที่อ้างว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ เพราะจากคำให้การที่เชื่อมโยง ทำให้เชื่อได้ว่ามีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง เป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองที่มีปัญหากับ เอกยุทธมาโดยตลอด จากกรณีที่เปิดโปงจนเป็นประเด็นอื้อฉาว โดยการสังหารก็มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนมาก่อนล่วงหน้า ใช้ทีมงานที่เป็นมืออาชีพเป็นผู้ลงมือ
การจับกุมตัวของตำรวจ และคำสารภาพของไอ้บอล เป็นการจัดฉากขึ้นทั้งสิ้น เรื่องเงิน 5 ล้านบาทนั้นเป็นของแถม หรือเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ไอ้บอลกับพวกถูกส่งตัวขึ้นฟ้องศาล และต้องเป็นนักโทษอยู่ในเรือนจำ
ต่อมาในเดือนสิงหาคม นายสุวัตร ก็ได้รับการติดต่อจากไอ้บอล ผ่านทางญาติขอให้ไปพบ จึงได้ส่งทีมทนายไปพบ ซึ่งคราวนี้ ไอ้บอล ได้ยืนยันกับทนายความว่า ไม่ได้เป็นคนฆ่าเอกยุทธ แต่เป็นการลงมือของคนมีสี มีการลงมือ 3 ครั้ง ใน 2 ครั้งแรก ไอ้บอล ลงมือ แต่ไม่สำเร็จ และครั้งที่ 3 คนจ้างวาน จึงให้ทีมคนมีสีลงมือ มีค่าจ้าง 3 ล้านบาท ส่วนแบ่งไอ้บอล ได้ระดับแสนบาท มีหน้าที่รับส่ง พาไปทิ้งศพ จนงานสำเร็จในครั้งที่ 3 แต่ก็ถูกเบี้ยวค่าจ้าง จึงนำเรื่องนี้มาสารภาพกับทีมทนายความ
นายสุวัตร นำเรื่องดังกล่าวนี้มาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว เพื่อให้ตำรวจได้รื้อฟื้นเรื่องนี้ เพื่อสาวไปให้ถึงทีมฆ่าตัวจริง และถึงตัวผู้บงการ พร้อมบอกว่า ตัวเองจะไม่เดินหน้าเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะยิ่งขุดคุ้ยไป ทางญาติเอกยุทธ ก็บอกให้เลิก เพราะญาติกลัวหัวหด ตัวเองก็ถูกขู่ฆ่ารายวัน
เมื่อยิ่งลักษณ์ ถูกยึดอำนาจ ระบอบทักษิณถูกโค่นล้มลง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถูกย้ายพ้นบช.น. จึงมีเสียงเรียกร้องให้รื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาพิจารณาใหม่
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ. ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้มาช่วยราชการ รอง ผบช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ก็ได้มีการประชุมหารือกันอีกครั้ง ทำให้ผู้สื่อข่าวรอฟังผลหการประชุมด้วยใจจดจ่อ
เมื่อประชุมเสร็จ พล.ต.ต.อำนวย ก็ออกมาชี้แจงว่า ที่ผ่านมาทีมสืบสวนได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล เบื้องต้นได้ตรวจสอบทั้งใน และนอกระบบตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรรมาธิการในสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทีมทนายความ และสื่อมวลชน รวมทั้งประชาชนทั่วไป ที่ให้ความสนใจกับคดีนี้ หากคดีนี้ไม่สมบูรณ์ ก็เป็นเรื่องของทางพนักงานอัยการ ที่จะสั่งให้สอบเพิ่มเติมเอง
ที่มีการประชุมครั้งนี้ ก็เพื่อเตรียมนำพยานไปเบิกความต่อศาล แต่ไม่สามารถจะไปสอบปากคำพยานเพิ่มเติมได้ เพราะคดีอยู่ในขั้นตอนของศาล หมดอำนาจของพนักงานสอบสวนแล้ว
จึงขอทำความเข้าใจว่า การรื้อคดีใหม่นั้น เป็นการ มโนไปเอง