ผบช.น.นำตัว “สันติภาพ” คนขับรถเอกยุทธแถลงข่าว อ้างแค่นำส่งนายต่อรถไปพม่า ปัดไม่รู้เรื่องการหายตัวของนายเอกยุทธ ตร.หิ้วตัวชี้จุดเกิดเหตุที่กล่าวอ้างทันที ขอเวลา 1-2 วันสรุปคดี ด้านภาค 9 พบศพต้องสงสัยที่พัทลุง อยู่ระหว่างตรวจสอบ
เวลา 11.00 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมใหญ่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวควบคุมตัวนายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง อายุ 25 ปี คนขับรถผู้ต้องสงสัยกรณีนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อหลายวันก่อน พร้อมของกลางที่ยึดได้ภายในรถตู้โฟล์ค สีดำ ทะเบียน ฮพ 9304 กทม. ประกอบด้วยเงินสด 66,300 บาท, นาฬิกาข้อมือ, รองเท้าหนังเปื้อนโคลน, บัตรประจำตัวประชาชน และของใช้ส่วนตัวอื่นๆ นอกจากนี้ ยังพบจดหมายเขียนด้วยลายมือของนายสันติภาพ ที่อ้างว่าเป็นการเขียนแจ้งให้คนในสำนักงานทราบ 1 ฉบับ
ด้านนายสันติภาพกล่าวว่า วันพฤหัสที่ 6 มิ.ย.ตนได้ขับรถพานายไปที่ร้านอาหารกระแต ช่วงเวลา 19.00 น. จากนั้นประมาณ 22.00-23.00 น.ก็ขึ้นทางด่วนเพื่อจะพานายเอกยุทธกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่บ้านนายเอกยุทธหากุญแจเปิดบ้านไม่เจอเลยบอกให้ตนไปหากุญแจหลังตู้เย็นมา แล้วเจอกุญแจสำรอง จึงสามารถเข้าบ้านได้ แต่ขณะเดียวกัน นายเอกยุทธก็มีการสนทนาทางโทรศัพท์ตลอดเวลา พร้อมกับเดินไปมาตลอดแต่ไม่รู้ว่าคุยกับใคร ต่อจากนั้นนายเอกยุทธได้ใช้ให้ตนไปถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดออกมาให้ซึ่งตนก็ทำตาม นายเอกยุทธจึงได้นำขึ้นรถพร้อมกระเป๋าเดินทาง 1 ใบแล้วใช้ให้ขับรถออกทันที
เมื่อนายเอกยุทธขึ้นรถก็ถามว่ามีที่พักที่ไหนได้บ้างตนก็เลยแนะนำบ้านพี่สาวย่านลาดกระบังซึ่งมีแอร์ทุกห้อง โดยนายเอามือถือไปด้วยจำนวน 4 เครื่อง เมื่อถึงบ้านพี่สาวนายก็เข้าห้องไปพักผ่อนนตามปกติ
ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 7 มิ.ย.นายก็โทรศัพท์บอกให้ลูกน้องที่บ้านนำเช็คไปให้ พอถึงเวลา 10.00 น.ก็เลยไปจอดรอที่ช่องทางเข้าที่ 8 สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นที่นัดหมาย จากนั้นตนก็ได้ลงไปเอาสมุดเช็คขึ้นมาให้นายเซ็นโดยที่คนนำเช็คมาให้ไม่พบกับนายเอกยุทธโดยตรง เมื่อนายเอกยุทธเซ็นเสร็จจึงนำเช็คมอบให้ไปขึ้นเงิน จากนั้นตนก็ขับรถออกไป พอถึงเวลาประมาณ 15.00 น. นายเอกยุทธก็ให้ตนขับรถพามารับเงินที่ช่อง 8 เหมือนเดิมหลังจากนั้นมีพนักงานผู้หญิงชื่อ “อิง” นำเงินสดมาให้โดยใส่ซองเอกสารสีน้ำตาลใบใหญ่และใส่ถุงพลาสติกอีกชั้นโดยที่ตนไม่รู้ว่าข้างในนั้นคือเงินสด จากนั้นตนก็นำขึ้นมาวางให้นายเอกยุทธที่เบาะด้านหน้าซ้ายนายเอกยุทธ
เมื่อตนขึ้นรถและขับออกจากสนามบินสุวรรณภูมิจากนั้นนายเอกยุทธก็บอกตนว่าขับลงใต้ได้ไหม ตนก็บอกว่าลงได้สบายครับบ้าน ตนอยู่พัทลุงอยู่แล้ว ก็เลยมีการแวะเติมน้ำมันก่อนจำนวน 2 พันบาทที่ย่านมอเตอร์เวย์ ซึ่งตนได้ยินนายเอกยุทธคุยโทรศัพท์กับปลายทางว่า “จะมารับหรือยังเดี๋ยวกูจะไปพม่า”
หลังจากนั้นตนจึงขับมาตามทางจนถึงถนนบายพาสเส้นปราณบุรี นายเอกยุทธได้สั่งให้จอดรถ โดยมีรถเก๋ง 2 คันสีดำ จอดต่อท้ายรถตู้จนไม่เห็นแผ่นป้ายทะเบียน จากนั้นนายเอกยุทธเอกยุทธได้ลงจากรถแล้วยื่นเงินให้ตน 1 พันบาทแล้วบอกกับตนว่าให้กลับไปพักผ่อนก่อนเดี๋ยวค่อยมาทำงานตอนผมกลับมา
“เห็นว่านายถือกระเป๋าไปหนึ่งใบลงไปขึ้นรถเก๋งไป จากนั้นผมก็คิดว่าเป็นวันหยุดตนเองเลยคิดว่าขับรถกลับบ้านที่จ.พัทลุงเพื่อจะโชว์ญาติ เมื่อกลับไปถึงไม่เจอใครอยู่จึงขับรถกลับมากรุงเทพฯ ซึ่งระหว่างกลับมาระหว่างทางก่อนถึงมหาชัย ยางรถเกิดแตกจึงแวะปั๊มน้ำมันที่อยู่ก่อน จ.สมุทรสงคราม 5 ก.ม.เพื่อจะปะยางเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวานนี้ (10 มิ.ย.) แล้วก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ซึ่งผมตกใจมากก่อนถูกนำตัวมาสอบสวนโดยที่ผมไม่ทราบว่านายเอกยุทธหายไปไหนจริงๆ” นายสันติภาพระบุ
นายสันติภาพกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนยังได้เขียนบันทึกที่จะเตรียมมาแปะไว้ที่ออฟฟิศว่า “ถึงบริษัทเน็ตอีสท์ ผมไม่ได้หนีไปไหน แต่นายสั่งให้ผมหลบไปสักพักแล้วค่อยกลับมา ผมไปส่งนายที่ที่นายสั่งว่าห้ามบอกใคร และให้ผมย้อนกลับมาเมื่อนายกลับมา ลงชื่อ BALL”
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมมีการเขียนจดหมายแจ้งไว้ นายบอลกล่าวว่า ตนตั้งใจเอามาติดไว้ที่พวงมาลัยเวลานำรถมาจอดไว้ที่บริษัท เพื่อคนอื่นจะได้ไม่ต้องถามหรือเป็นกังวล
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่่ปักเชื่อในคำให้การของนายสันติภาพ แต่จากการตรวจสอบพยานเป็นไปตามคำให้การของนายสันติภาพเบื้องต้น ตอนนี้ขอเวลาให้ตำรวจชุดสืบสวนประมาณ 1-2 วันในการติดตามพยานหลักฐานว่ามีความคืบหน้าอย่างไร เพราะอาจมีประเด็นที่เกี่ยวข้องหลายอย่างตามมา เช่น เงินสด 5 ล้านบาท ประกอบกับมีคนมารับนายเอกยุทธไปด้วย ซึ่งประเด็นเหล่านี้ต้องใช้เวลาสืบสวนก่อนจะสรุปได้
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ตนได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น.เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดี
ทางด้านนางสุภากร แหวนหล่อ อายุ 56 ปี พี่สาวนายเอกยุทธเปิดเผยว่า โดยส่วนตัวตนเป็นคนไม่ชอบการเมืองเกลียดไม่ยุ่งแต่น้องชายชอบเรื่องการเมืองซึ่งก็เป็นเรื่องของเขา
ผู้สื่อข่าวถามว่าเชื่อหรือไม่ว่านายเอกยุทธถูกอุ้ม นางสุภากรกล่าวว่ายังไม่รู้เหมือนกัน 50-50 รู้แต่ว่ารู้ว่าน้องชายหายไปกับนายสันติภาพแล้วหายตัวไป แล้วจะให้คิดอย่างไร ต้องโมโหเป็นธรรมดา ที่ผ่านมาถ้าจะไปไหนมาไหนก็จะบอกถ้าจะเดินทางไปไหนไกลๆ ก็จะบอกแม้จะไม่บอกล่วงหน้าก็ตาม ที่ผ่านถ้าเดินทางไกลๆ จะไม่ไปรถยนต์แน่นอนเพราะน้องชายไม่ค่อยนั่งรถและคิดว่าเสียเวลาเขาเป็นนักธุรกิจ เวลาเป็นเงินเป็นทอง
เมื่อถามว่าไปพม่าบ่อยไหม นางสุภากรกล่าวว่า เขาไปมาทั่วโลกแล้ว ด้วยวิสัยแล้วไม่มีการนั่งรถยนต์แน่นอน ที่ผ่านมาถ้าหากไม่รับโทรศัพท์ นายเอกยุทธก็จะติดต่อกลับภายใน 5 นาที ซึ่งขณะนี้แม่ที่มีอายุ 80 ปีแล้วเครียดมากเพราะลูกชายหายไปทั้งคน ส่วนตนมีหน้าที่ติดตามน้องที่หายไปซึ่งตนเป็นคนแจ้งความเอง
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นการอุ้มตนเองหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ เพราะตามคำให้การของนายสันติภาพเบื้องต้น ภาพวงจรปิดสถานที่ต่างๆ ตรงกับคำกล่าวอ้างของนายสันติภาพ อย่างไรก็ตาม ต้องพบเจอนายเอกยุทธเสียก่อน ขณะนี้ญาติก็ไม่ทราบ จึงอยากให้ทางญาติรีบแจ้งให้ทราบทันทีหากนายเอกยุทธติดต่อกลับมาเพื่อความจริงจะได้คลี่คลายโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นตำรวจได้นำตัวนายสันติภาพไปชี้จุดเกิดสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทันที
ขณะเดียวกัน เวลา 13.00 น. รายงานข่าวจากตำรวจภูธรภาค 9 แจ้งว่า พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 พร้อมกำลังตำรวจพัทลุง และเจ้าหน้าที่กองวิทยาการ และแพทย์ ไปตรวจสอบศพชายต้องสงสัยในพื้นที่ จ.พัทลุง เพราะมีลักษณะใกล้เคียงกับนายเอกยุทธ ซึ่งต้องรอผลการตรวจทางนิติเวชก่อนว่าจะใช่นายเอกยุทธหรือไม่