ขณะนี้กำลังมีการเผยแพร่ข้อความในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มหนึ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ในสหรัฐอเมริกาและบางประเทศ นำเสนอข่าวสารว่าสหประชาชาติจะคว่ำบาตรประเทศไทย และจะสนับสนุนให้มีการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น
จากนั้นบรรดาสื่อมวลชินทั้งหลายและเครือข่ายก็พากันขยายผล ตีปี๊บ ตีฆ้องกันดังสนั่น ทำนองจะไชโยโห่ฮิ้วว่าสหประชาชาติสนับสนุนและเห็นท่าจะชิงอำนาจกลับคืนแก่ระบอบทักษิณอย่างง่ายดาย
ได้พิเคราะห์สภาพและความจริงทั้งหลายที่ขับเคลื่อนไปในโลกกว้างถึงวันนี้ ก็กล่าวได้ว่าเป็นความตั้งใจที่จะให้เกิดสภาพการณ์อย่างนั้น แต่ทว่าความตั้งใจนั้นมิได้ตั้งอยู่บนฐานแห่งความเป็นจริง จะเรียกว่าเป็นความเพ้อฝันแล้วจะเสกความฝันให้เป็นความจริงก็ว่าได้
ประการแรก การที่สหประชาชาติจะลงมติคว่ำบาตรประเทศใด ประเทศนั้นต้องฝ่าฝืนต่อกฎบัตรของสหประชาชาติอย่างร้ายแรง กระทำการอันเป็นภัยต่อประเทศต่างๆ อย่างร้ายแรง หรือไม่ก็เป็นอาชญากรล้างผลาญฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะสหประชาชาติก็มิได้มีอำนาจที่จะไปล่วงละเมิดเอกราชอธิปไตยของชาติใดในโลกนี้ได้
การที่ คสช.ยึดอำนาจจากผู้ซึ่งไม่ได้มีฐานะเป็นรัฐบาลแล้ว ไม่มีฐานะเป็นคณะรัฐมนตรีแล้ว และเป็นนักการเมืองที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ของประเทศต้องการขับไล่ไสส่ง เพราะมีการโกงบ้านกินเมืองครั้งมโหฬารสะท้านโลก และถูกประชาชนกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มอั้งยี่ซ่องโจรที่เกี่ยวข้องกับการเข่นฆ่าสังหารประชาชนถึง 27 ศพ และบาดเจ็บถึง 807 คน แล้วนำความสงบสุขกลับคืนบ้านเมือง ประชาชนโห่ร้องไชโยทั่วโลก อย่างนี้ไม่เป็นกรณีที่สหประชาชาติจะคว่ำบาตรได้เลย
และการจะคว่ำบาตรนั้นไม่ใช่ไอ้เท่ง ไอ้ทองที่ไหนจะไปประกาศเป็นมติสหประชาชาติได้ กรณีจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเสียก่อน ซึ่งยังไม่มีกรณีเช่นนั้นเกิดขึ้น และถ้ามีกรณีเช่นนั้นดังความฝันแล้วไซร้ ก็ลองหยั่งน้ำใจจีนและรัสเซียดูเสียก่อนว่าจะยอมเออออห่อหมกให้บางประเทศกระทำย่ำยีกับประเทศไทยได้อย่างความฝันนั้นหรือไฉน?
สถานการณ์ในบ้านเมืองของเราวันนี้แม้ว่าต่างชาติบางประเทศจะวางแผนอุบาทว์ชาติชั่วให้คนไทยฆ่ากันเองเพื่อเข้ามายึดครองจัดตั้งรัฐบาลหุ่นขึ้นปกครองประเทศ เพื่อประโยชน์ของต่างชาติ แต่แผนอุบาทว์นั้นก็ยังไปไม่ได้ถึงไหน เพราะคนไทยทั่วประเทศและทั่วโลกไม่เอาด้วย ประเทศกลับคืนสู่ความสงบสุขเป็นที่ประจักษ์ มีการกวาดจับอาวุธสงครามเป็นภูเขาเลากา มีการเปิดเผยข้อมูลการโกงบ้านกินเมืองครั้งมโหฬารที่สุด ความสันติอย่างนี้ไม่มีทางที่ชาติใดหรือสหประชาชาติจะคว่ำบาตรประเทศไทยได้โดยเด็ดขาด
และอยากจะบอกคนไทยทั่วโลก ตลอดจนชาวโลกให้รู้ว่า ณ วันนี้ประชาชาติไทยทั้งผองได้ปรับขบวนก่อตั้งเป็นแนวรบประชาชาติไทยเพื่อคัดค้านการแทรกแซงประเทศไทยและต่อต้านการยึดครองประเทศไทยตามแผนอุบาทว์ชาติชั่วอย่างคึกคักแล้ว ไม่มีทางที่แผนการร้ายที่เคยใช้กับอิรัก ลิเบีย อียิปต์ ซีเรีย และยูเครน จะประสบความสำเร็จได้ในประเทศไทยนี้
ประการที่สอง ที่ใฝ่ฝันกันนักหนาว่ากำลังมีการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ก่อนการยึดอำนาจ แม้ในวันยึดอำนาจก็ยังออกข่าวเท็จว่านายนิวัฒน์รำวง เข้าไปลี้ภัยอยู่ในสถานทูตสหรัฐอเมริกา มีการปะทะกันหลายจุด และมีการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ก็ปรากฏว่าเป็นการโกหกทั้งสิ้น ไม่มีความจริงปรากฏขึ้นดังความฝันนั้นเลย
มาถึงวันนี้มีเพียงการเคลื่อนไหวของนายอัมสเตอร์ดัมฝรั่งขี้ข้า และคณะนักวิชากินและกลุ่มที่แจกข่าวลวงเรื่องการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นดังกล่าว รวมทั้งการแถลงข่าวของนายจักรภพ เพ็ญแข ในเขมรเมื่อไม่กี่วันมานี้เท่านั้น
คนเหล่านี้ไม่มีฐานะเป็นรัฐบาล แล้วจะไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้อย่างไร? เพราะการจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นนั้นจะต้องประกอบด้วย
ข้อแรก มีฐานะเป็นรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมาย และถูกขับไล่ออกไป ซึ่งไม่มีรัฐบาลเช่นว่านี้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ออกหน้าโหวกเหวกโวยวายในเรื่องนี้ไม่มีฐานะเป็นรัฐบาลแม้แต่คนเดียว บางคนเป็นจำเลยหนีคดี บางคนยังคงเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนจรจัด จึงไม่มีฐานะที่จะจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้
ข้อสอง ต้องมีประเทศที่ยินยอมให้ใช้ดินแดนของตนเป็นที่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น และในทันทีที่ประเทศใดยินยอมเช่นว่านั้น ก็ย่อมเป็นอันขาดสัมพันธไมตรีกับประเทศไทยในทันที ซึ่งไม่มีประเทศไหนยอมรับเช่นนั้นได้ เพราะต่างมีมิตรไมตรีอันดีกับประเทศไทย มีผลประโยชน์อยู่ในประเทศไทย หรือเกี่ยวข้องกับประเทศไทย หากร่วมด้วยช่วยกับพวกกบฏ รัฐบาลไทยก็มีอำนาจที่จะยึดทรัพย์สินของรัฐบาลประเทศนั้นในประเทศไทยได้ แล้วใครมันจะยอมบ้าตามนักใฝ่ฝันเล่า? เพราะระหว่างกลุ่มร่อนเร่พเนจรที่หนีคดีอาญา กับรัฐบาลของประเทศไทย ไม่ต้องตัดสินใจอะไรมาก ใครๆ ก็ตัดสินใจได้อย่างง่ายดายว่าจะเลือกข้างไหน
ข้อสาม ทันทีที่มีการประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น บรรดาผู้คนในขบวนการทั้งหมดและทรัพย์สินทั้งหมดของผู้คนในขบวนการเหล่านั้นจะถูกจับกุมและยึดทรัพย์ในทันทีฐานเป็นอริราชศัตรูผู้ก่อกบฏ และกองทัพมีอำนาจที่จะใช้แสนยานุภาพเข้าจัดการอย่างเฉียบขาดด้วย และด้วยความปรารถนาดี ใครเป็นญาติโกโหติกาของกลุ่มคนเหล่านี้ หากเห็นด้วยช่วยกัน ก็ควรจะได้เตรียมตัวอพยพหลบภัยขนย้ายทรัพย์สินออกไปอยู่ต่างประเทศเสียก่อน จะได้ไม่ยากลำบากในภายหลัง เพราะไม่เห็นหรือว่าแค่ไม่มารายงานตัวตามกำหนด ฝ่ายทหารเขาก็สั่งระงับการทำธุรกรรมทางการเงิน อายัดทรัพย์สินไว้จนหมดสิ้น หากถึงขั้นเป็นอริราชศัตรูผู้ก่อกบฏทรยศชาติ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ดังนั้นจึงต้องเตรียมตัวกันเสียให้พร้อมดังที่กล่าวนั่นแล
ข้อสี่ จะต้องมีประเทศรับรองรัฐบาลพลัดถิ่นนั้น ซึ่งในวันนี้คงไม่มีประเทศไหนรับรอง การที่บางประเทศเตือนภัยผู้คนในการเดินทางมาประเทศไทยก็เพราะเชื่อข่าวเท็จที่ขบวนการอุบาทว์จัญไรปั้นข่าวเท็จเอาไปเผยแพร่ต่อชาวโลก ซึ่งไม่นานช้าเมื่อข่าวคราวการเล่นดนตรีดีดสีตีเป่าเคล้าเสียงเพลงบรรเลงพิณ เต้นรำกันสนุกสนาน ที่จัดงานคืนความสุขแก่ประชาชนเผยแพร่ออกไปสู่ชาวโลกแล้ว ก็จะทำลายข่าวเท็จนั้นอย่างสิ้นเชิงได้ จึงยึดถือเอาเรื่องนี้มาโมเมว่าประเทศทั้งหลายจะรับรองรัฐบาลพลัดถิ่น ก็นึกฝันกันให้สบายใจแบบคนเมากัญชานั้นพอได้ แต่จะหาคุณค่าในทางความจริงใดๆ นั้นคงไม่ได้
ดังนั้น จึงอาจสรุปได้ว่า ความใฝ่ฝันของกลุ่มคนที่นึกเอง เออเอง พูดเอง ทำเอง ว่าจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นก็ดี ที่ว่าสหประชาชาติจะคว่ำบาตรประเทศไทยก็ดี จึงมีคุณค่าก็แต่เพียงความฝันอันบรรเจิดของคนที่กำลังเตลิดหนี ว้าเหว่ เดียวดาย เพราะพลัดพรากจากครอบครัวและบ้านเกิดเมืองนอน ซึ่งต้องถือว่าเป็นเรื่องน่าเห็นใจ
แต่ในขณะเดียวกัน คสช.เองที่ได้เสียสละเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้เป็นที่ชื่นใจของประชาชนชาวไทยแล้ว ก็พึงตั้งหน้ามานะบากบั่นทำการให้สำเร็จดังที่ประชาชนชาวไทยคาดหวัง
แล้วเพียรหยั่งความรู้สึกของประชาชนดูว่าที่ทำการมาถึงวันนี้ ได้ทำให้ความหวังของประชาชนสมหวังไปสักแค่ไหน?
เพราะภารกิจในการขุดรากถอนโคนที่พรรคการเมืองและนักการเมืองทำไว้กับบ้านเมืองนั้นใหญ่หลวงนัก
เพราะภารกิจในการรับมือกับพวกโจรสลัดต่างชาติที่คิดจะล้มล้างสถาบันต่างๆ ของประเทศไทยแล้วตั้งหุ่นเชิดมายึดครองประเทศไทย กวาดต้อนเอาความมั่งคั่งของประเทศไปเป็นของเหล่าโจรสลัด ตามแผนการร้ายที่เรียกว่า “ซีเรีย โมเดล” นั้น ใหญ่หลวงนัก
เพราะภารกิจในการกอบกู้ฟื้นฟูประเทศและการปฏิรูปใหญ่ประเทศไทยนั้นใหญ่หลวงนัก
ไม่ใช่สถานการณ์เปลี่ยนเหลือบฝูงใหม่หรือเอาประโยชน์ของประเทศชาติไปตอบแทนบุญคุณส่วนตัวแก่กัน และยิ่งไม่ใช่แค่ยุทธการกินแดง กินเหลือง แล้วตบดำลงหลุม เพราะมันจะเป็นหลุมนรกนะท่าน!
จากนั้นบรรดาสื่อมวลชินทั้งหลายและเครือข่ายก็พากันขยายผล ตีปี๊บ ตีฆ้องกันดังสนั่น ทำนองจะไชโยโห่ฮิ้วว่าสหประชาชาติสนับสนุนและเห็นท่าจะชิงอำนาจกลับคืนแก่ระบอบทักษิณอย่างง่ายดาย
ได้พิเคราะห์สภาพและความจริงทั้งหลายที่ขับเคลื่อนไปในโลกกว้างถึงวันนี้ ก็กล่าวได้ว่าเป็นความตั้งใจที่จะให้เกิดสภาพการณ์อย่างนั้น แต่ทว่าความตั้งใจนั้นมิได้ตั้งอยู่บนฐานแห่งความเป็นจริง จะเรียกว่าเป็นความเพ้อฝันแล้วจะเสกความฝันให้เป็นความจริงก็ว่าได้
ประการแรก การที่สหประชาชาติจะลงมติคว่ำบาตรประเทศใด ประเทศนั้นต้องฝ่าฝืนต่อกฎบัตรของสหประชาชาติอย่างร้ายแรง กระทำการอันเป็นภัยต่อประเทศต่างๆ อย่างร้ายแรง หรือไม่ก็เป็นอาชญากรล้างผลาญฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะสหประชาชาติก็มิได้มีอำนาจที่จะไปล่วงละเมิดเอกราชอธิปไตยของชาติใดในโลกนี้ได้
การที่ คสช.ยึดอำนาจจากผู้ซึ่งไม่ได้มีฐานะเป็นรัฐบาลแล้ว ไม่มีฐานะเป็นคณะรัฐมนตรีแล้ว และเป็นนักการเมืองที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ของประเทศต้องการขับไล่ไสส่ง เพราะมีการโกงบ้านกินเมืองครั้งมโหฬารสะท้านโลก และถูกประชาชนกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มอั้งยี่ซ่องโจรที่เกี่ยวข้องกับการเข่นฆ่าสังหารประชาชนถึง 27 ศพ และบาดเจ็บถึง 807 คน แล้วนำความสงบสุขกลับคืนบ้านเมือง ประชาชนโห่ร้องไชโยทั่วโลก อย่างนี้ไม่เป็นกรณีที่สหประชาชาติจะคว่ำบาตรได้เลย
และการจะคว่ำบาตรนั้นไม่ใช่ไอ้เท่ง ไอ้ทองที่ไหนจะไปประกาศเป็นมติสหประชาชาติได้ กรณีจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเสียก่อน ซึ่งยังไม่มีกรณีเช่นนั้นเกิดขึ้น และถ้ามีกรณีเช่นนั้นดังความฝันแล้วไซร้ ก็ลองหยั่งน้ำใจจีนและรัสเซียดูเสียก่อนว่าจะยอมเออออห่อหมกให้บางประเทศกระทำย่ำยีกับประเทศไทยได้อย่างความฝันนั้นหรือไฉน?
สถานการณ์ในบ้านเมืองของเราวันนี้แม้ว่าต่างชาติบางประเทศจะวางแผนอุบาทว์ชาติชั่วให้คนไทยฆ่ากันเองเพื่อเข้ามายึดครองจัดตั้งรัฐบาลหุ่นขึ้นปกครองประเทศ เพื่อประโยชน์ของต่างชาติ แต่แผนอุบาทว์นั้นก็ยังไปไม่ได้ถึงไหน เพราะคนไทยทั่วประเทศและทั่วโลกไม่เอาด้วย ประเทศกลับคืนสู่ความสงบสุขเป็นที่ประจักษ์ มีการกวาดจับอาวุธสงครามเป็นภูเขาเลากา มีการเปิดเผยข้อมูลการโกงบ้านกินเมืองครั้งมโหฬารที่สุด ความสันติอย่างนี้ไม่มีทางที่ชาติใดหรือสหประชาชาติจะคว่ำบาตรประเทศไทยได้โดยเด็ดขาด
และอยากจะบอกคนไทยทั่วโลก ตลอดจนชาวโลกให้รู้ว่า ณ วันนี้ประชาชาติไทยทั้งผองได้ปรับขบวนก่อตั้งเป็นแนวรบประชาชาติไทยเพื่อคัดค้านการแทรกแซงประเทศไทยและต่อต้านการยึดครองประเทศไทยตามแผนอุบาทว์ชาติชั่วอย่างคึกคักแล้ว ไม่มีทางที่แผนการร้ายที่เคยใช้กับอิรัก ลิเบีย อียิปต์ ซีเรีย และยูเครน จะประสบความสำเร็จได้ในประเทศไทยนี้
ประการที่สอง ที่ใฝ่ฝันกันนักหนาว่ากำลังมีการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ก่อนการยึดอำนาจ แม้ในวันยึดอำนาจก็ยังออกข่าวเท็จว่านายนิวัฒน์รำวง เข้าไปลี้ภัยอยู่ในสถานทูตสหรัฐอเมริกา มีการปะทะกันหลายจุด และมีการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ก็ปรากฏว่าเป็นการโกหกทั้งสิ้น ไม่มีความจริงปรากฏขึ้นดังความฝันนั้นเลย
มาถึงวันนี้มีเพียงการเคลื่อนไหวของนายอัมสเตอร์ดัมฝรั่งขี้ข้า และคณะนักวิชากินและกลุ่มที่แจกข่าวลวงเรื่องการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นดังกล่าว รวมทั้งการแถลงข่าวของนายจักรภพ เพ็ญแข ในเขมรเมื่อไม่กี่วันมานี้เท่านั้น
คนเหล่านี้ไม่มีฐานะเป็นรัฐบาล แล้วจะไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้อย่างไร? เพราะการจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นนั้นจะต้องประกอบด้วย
ข้อแรก มีฐานะเป็นรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมาย และถูกขับไล่ออกไป ซึ่งไม่มีรัฐบาลเช่นว่านี้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ออกหน้าโหวกเหวกโวยวายในเรื่องนี้ไม่มีฐานะเป็นรัฐบาลแม้แต่คนเดียว บางคนเป็นจำเลยหนีคดี บางคนยังคงเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนจรจัด จึงไม่มีฐานะที่จะจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้
ข้อสอง ต้องมีประเทศที่ยินยอมให้ใช้ดินแดนของตนเป็นที่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น และในทันทีที่ประเทศใดยินยอมเช่นว่านั้น ก็ย่อมเป็นอันขาดสัมพันธไมตรีกับประเทศไทยในทันที ซึ่งไม่มีประเทศไหนยอมรับเช่นนั้นได้ เพราะต่างมีมิตรไมตรีอันดีกับประเทศไทย มีผลประโยชน์อยู่ในประเทศไทย หรือเกี่ยวข้องกับประเทศไทย หากร่วมด้วยช่วยกับพวกกบฏ รัฐบาลไทยก็มีอำนาจที่จะยึดทรัพย์สินของรัฐบาลประเทศนั้นในประเทศไทยได้ แล้วใครมันจะยอมบ้าตามนักใฝ่ฝันเล่า? เพราะระหว่างกลุ่มร่อนเร่พเนจรที่หนีคดีอาญา กับรัฐบาลของประเทศไทย ไม่ต้องตัดสินใจอะไรมาก ใครๆ ก็ตัดสินใจได้อย่างง่ายดายว่าจะเลือกข้างไหน
ข้อสาม ทันทีที่มีการประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น บรรดาผู้คนในขบวนการทั้งหมดและทรัพย์สินทั้งหมดของผู้คนในขบวนการเหล่านั้นจะถูกจับกุมและยึดทรัพย์ในทันทีฐานเป็นอริราชศัตรูผู้ก่อกบฏ และกองทัพมีอำนาจที่จะใช้แสนยานุภาพเข้าจัดการอย่างเฉียบขาดด้วย และด้วยความปรารถนาดี ใครเป็นญาติโกโหติกาของกลุ่มคนเหล่านี้ หากเห็นด้วยช่วยกัน ก็ควรจะได้เตรียมตัวอพยพหลบภัยขนย้ายทรัพย์สินออกไปอยู่ต่างประเทศเสียก่อน จะได้ไม่ยากลำบากในภายหลัง เพราะไม่เห็นหรือว่าแค่ไม่มารายงานตัวตามกำหนด ฝ่ายทหารเขาก็สั่งระงับการทำธุรกรรมทางการเงิน อายัดทรัพย์สินไว้จนหมดสิ้น หากถึงขั้นเป็นอริราชศัตรูผู้ก่อกบฏทรยศชาติ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ดังนั้นจึงต้องเตรียมตัวกันเสียให้พร้อมดังที่กล่าวนั่นแล
ข้อสี่ จะต้องมีประเทศรับรองรัฐบาลพลัดถิ่นนั้น ซึ่งในวันนี้คงไม่มีประเทศไหนรับรอง การที่บางประเทศเตือนภัยผู้คนในการเดินทางมาประเทศไทยก็เพราะเชื่อข่าวเท็จที่ขบวนการอุบาทว์จัญไรปั้นข่าวเท็จเอาไปเผยแพร่ต่อชาวโลก ซึ่งไม่นานช้าเมื่อข่าวคราวการเล่นดนตรีดีดสีตีเป่าเคล้าเสียงเพลงบรรเลงพิณ เต้นรำกันสนุกสนาน ที่จัดงานคืนความสุขแก่ประชาชนเผยแพร่ออกไปสู่ชาวโลกแล้ว ก็จะทำลายข่าวเท็จนั้นอย่างสิ้นเชิงได้ จึงยึดถือเอาเรื่องนี้มาโมเมว่าประเทศทั้งหลายจะรับรองรัฐบาลพลัดถิ่น ก็นึกฝันกันให้สบายใจแบบคนเมากัญชานั้นพอได้ แต่จะหาคุณค่าในทางความจริงใดๆ นั้นคงไม่ได้
ดังนั้น จึงอาจสรุปได้ว่า ความใฝ่ฝันของกลุ่มคนที่นึกเอง เออเอง พูดเอง ทำเอง ว่าจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นก็ดี ที่ว่าสหประชาชาติจะคว่ำบาตรประเทศไทยก็ดี จึงมีคุณค่าก็แต่เพียงความฝันอันบรรเจิดของคนที่กำลังเตลิดหนี ว้าเหว่ เดียวดาย เพราะพลัดพรากจากครอบครัวและบ้านเกิดเมืองนอน ซึ่งต้องถือว่าเป็นเรื่องน่าเห็นใจ
แต่ในขณะเดียวกัน คสช.เองที่ได้เสียสละเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้เป็นที่ชื่นใจของประชาชนชาวไทยแล้ว ก็พึงตั้งหน้ามานะบากบั่นทำการให้สำเร็จดังที่ประชาชนชาวไทยคาดหวัง
แล้วเพียรหยั่งความรู้สึกของประชาชนดูว่าที่ทำการมาถึงวันนี้ ได้ทำให้ความหวังของประชาชนสมหวังไปสักแค่ไหน?
เพราะภารกิจในการขุดรากถอนโคนที่พรรคการเมืองและนักการเมืองทำไว้กับบ้านเมืองนั้นใหญ่หลวงนัก
เพราะภารกิจในการรับมือกับพวกโจรสลัดต่างชาติที่คิดจะล้มล้างสถาบันต่างๆ ของประเทศไทยแล้วตั้งหุ่นเชิดมายึดครองประเทศไทย กวาดต้อนเอาความมั่งคั่งของประเทศไปเป็นของเหล่าโจรสลัด ตามแผนการร้ายที่เรียกว่า “ซีเรีย โมเดล” นั้น ใหญ่หลวงนัก
เพราะภารกิจในการกอบกู้ฟื้นฟูประเทศและการปฏิรูปใหญ่ประเทศไทยนั้นใหญ่หลวงนัก
ไม่ใช่สถานการณ์เปลี่ยนเหลือบฝูงใหม่หรือเอาประโยชน์ของประเทศชาติไปตอบแทนบุญคุณส่วนตัวแก่กัน และยิ่งไม่ใช่แค่ยุทธการกินแดง กินเหลือง แล้วตบดำลงหลุม เพราะมันจะเป็นหลุมนรกนะท่าน!