นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าได้ร่วมประชุมกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ โดยสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้รายงานความคืบหน้าและอุปสรรคในการทำงานให้กับพล.ต.อ.อดุลย์ ได้รับทราบ
ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณประจำปี 2557 ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้มีการเบิกจ่ายไปแล้วประมาณ 2,000 ล้านบาท จากทั้งหมดประมาณ 7,000 ล้านบาท คิดเป็น 29 % ซึ่งงานของสภาฯ ที่พบความล่าช้ามากที่สุดคือ การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งสาเหตุมาจากปัญหาการส่งมอบพื้นที่ ที่มีความล่าช้าจากกำหนดเดิมมาก ทำให้ขณะนี้งานก่อสร้างต้องล่าช้าไปมากกว่า 200 วัน โดยเฉพาะการสร้างโรงเรียนโยธินบูรณะแห่งใหม่
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเลขาธิการสภาฯ คาดว่าจะสามารถก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่แล้วเสร็จภายในปี 2559
"จากการหารือกับ คสช.ก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้รับความชัดเจนว่า สำนักงานเลขาธิการสภาฯ จะได้รับผิดชอบงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สภาปฎิรูปการเมือง เพราะต้องรอความชัดเจนจากรัฐธรรมนูญชั่วคราวก่อน แต่ไม่ว่าจะได้รับมอบหมายงานใด ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ก็มีบุคคลากรที่พร้อมให้การสนับสนุน" นายสุวิจักขณ์ กล่าว
ด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ถ้าไม่แก้ปัญหาอย่างถูกทาง ระยะเวลาที่ล่าช้า จะเกินกว่า200 วันแน่นอน ซึ่งถ้าไม่เข้าไปควบคุมการก่อสร้าง และเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้โรงเรียนโยธินบูรณะ ซึ่งการดำเนินการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เกิดปัญหาสะสมมานานพอสมควรแล้ว เนื่องจากทั้งการรื้อย้ายอาคารของราชการ ทั้งของทหาร และโรงเรียนโยธินบูรณะ ทำไม่ได้ตามแผน และบริษัทที่ปรึกษา ก็ไม่มีอำนาจที่จะไปเร่งรัดในส่วนงานราชการต่างๆ คิดว่าเรื่องนี้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้ยิ่งขาดการตรวจสอบจากฝ่ายการเมือง ไม่มีประธานสภา รองประธานสภา และคณะกรรมาธิการชุดต่างๆที่คอยดูแล ซึ่งปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การสร้างอาคารของโรงเรียนโยธินบูรณะ ขณะนี้ขาดงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท จนต้องตัดการสร้างอาคารที่สำคัญออกไป ทั้งอาคารที่เป็นโรงอาหาร และบ่อสุขาภิบาล จึงขอให้ทาง คสช. และผู้ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ เร่งรัดแก้ปัญหาเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมา ติดขัดอยู่ที่ว่า ใครจะเข้ามาแก้ปัญหา ระหว่างสภาหรือ กระทรวงฯ ที่รับผิดชอบ
นอกจากนี้ นายบุญยอด ยังเปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจากข้าราชการสภาว่า มีการจัดสัมนาพาข้าราชการสภาไปยังประเทศแถบอาเซียน โดยไม่มีการเสนอแผนงานโครงการมาก่อน และเรียกร้องว่า หากจะโยกงบประมาณใดๆ ที่เป็นการสิ้นเปลือง ก็ขอให้คำนึงถึงวินัยทางการเงินด้วย เช่น การจัดสัมมนาไปที่ประเทศญี่ปุ่น อาจน่าสงสัยว่า เป็นการจัดทัวร์เพื่อเอาใจข้าราชการซึ่งเป็นลูกน้องของตนเอง หรืออื้อประโยชน์ต่อบริษัททัวร์ ที่เป็นพวกพ้องกันหรือไม่
ส่วนเรื่องของการส่อว่าจะทุจริตในการจัดซื้ออุปกรณ์หลายอย่างในสภาก่อนหน้านี้ เช่น นาฬิกาดิจิตอล และเครื่องกรองน้ำราคาแพง รวมถึง การปรับปรุงห้องต่างๆ เช่น ห้องผู้สื่อข่าว ห้องพักตำรวจสภา ก็ยังได้ยินว่าไม่สามารถรับมอบงานได้ อาจมีการทำผิดสเปก ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เร่งตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณประจำปี 2557 ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้มีการเบิกจ่ายไปแล้วประมาณ 2,000 ล้านบาท จากทั้งหมดประมาณ 7,000 ล้านบาท คิดเป็น 29 % ซึ่งงานของสภาฯ ที่พบความล่าช้ามากที่สุดคือ การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งสาเหตุมาจากปัญหาการส่งมอบพื้นที่ ที่มีความล่าช้าจากกำหนดเดิมมาก ทำให้ขณะนี้งานก่อสร้างต้องล่าช้าไปมากกว่า 200 วัน โดยเฉพาะการสร้างโรงเรียนโยธินบูรณะแห่งใหม่
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเลขาธิการสภาฯ คาดว่าจะสามารถก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่แล้วเสร็จภายในปี 2559
"จากการหารือกับ คสช.ก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้รับความชัดเจนว่า สำนักงานเลขาธิการสภาฯ จะได้รับผิดชอบงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สภาปฎิรูปการเมือง เพราะต้องรอความชัดเจนจากรัฐธรรมนูญชั่วคราวก่อน แต่ไม่ว่าจะได้รับมอบหมายงานใด ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ก็มีบุคคลากรที่พร้อมให้การสนับสนุน" นายสุวิจักขณ์ กล่าว
ด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ถ้าไม่แก้ปัญหาอย่างถูกทาง ระยะเวลาที่ล่าช้า จะเกินกว่า200 วันแน่นอน ซึ่งถ้าไม่เข้าไปควบคุมการก่อสร้าง และเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้โรงเรียนโยธินบูรณะ ซึ่งการดำเนินการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เกิดปัญหาสะสมมานานพอสมควรแล้ว เนื่องจากทั้งการรื้อย้ายอาคารของราชการ ทั้งของทหาร และโรงเรียนโยธินบูรณะ ทำไม่ได้ตามแผน และบริษัทที่ปรึกษา ก็ไม่มีอำนาจที่จะไปเร่งรัดในส่วนงานราชการต่างๆ คิดว่าเรื่องนี้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้ยิ่งขาดการตรวจสอบจากฝ่ายการเมือง ไม่มีประธานสภา รองประธานสภา และคณะกรรมาธิการชุดต่างๆที่คอยดูแล ซึ่งปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การสร้างอาคารของโรงเรียนโยธินบูรณะ ขณะนี้ขาดงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท จนต้องตัดการสร้างอาคารที่สำคัญออกไป ทั้งอาคารที่เป็นโรงอาหาร และบ่อสุขาภิบาล จึงขอให้ทาง คสช. และผู้ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ เร่งรัดแก้ปัญหาเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมา ติดขัดอยู่ที่ว่า ใครจะเข้ามาแก้ปัญหา ระหว่างสภาหรือ กระทรวงฯ ที่รับผิดชอบ
นอกจากนี้ นายบุญยอด ยังเปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจากข้าราชการสภาว่า มีการจัดสัมนาพาข้าราชการสภาไปยังประเทศแถบอาเซียน โดยไม่มีการเสนอแผนงานโครงการมาก่อน และเรียกร้องว่า หากจะโยกงบประมาณใดๆ ที่เป็นการสิ้นเปลือง ก็ขอให้คำนึงถึงวินัยทางการเงินด้วย เช่น การจัดสัมมนาไปที่ประเทศญี่ปุ่น อาจน่าสงสัยว่า เป็นการจัดทัวร์เพื่อเอาใจข้าราชการซึ่งเป็นลูกน้องของตนเอง หรืออื้อประโยชน์ต่อบริษัททัวร์ ที่เป็นพวกพ้องกันหรือไม่
ส่วนเรื่องของการส่อว่าจะทุจริตในการจัดซื้ออุปกรณ์หลายอย่างในสภาก่อนหน้านี้ เช่น นาฬิกาดิจิตอล และเครื่องกรองน้ำราคาแพง รวมถึง การปรับปรุงห้องต่างๆ เช่น ห้องผู้สื่อข่าว ห้องพักตำรวจสภา ก็ยังได้ยินว่าไม่สามารถรับมอบงานได้ อาจมีการทำผิดสเปก ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เร่งตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย
