xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยรอแผนกระตุ้นศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หุ้นไทยไปต่อ นักลงทุนรอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อต่างชาติเหลือขายออกไม่มาก และมีลุ้นได้เห็นเม็ดเงินไหลกลับ โบรกฯประเมินการเมืองคลี่คลาย ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุนในประเทศ แนะเก็งกำไรกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นตัว ส่วนบูลชิพยังต้องทำใจ เพราะมีแรงขายจากนอกประเทศไหลออก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สัปดาห์ที่ผ่านมา (26-30 พ.ค.) ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากมุมมองเชิงบวกต่อการจัดตั้งรัฐบาล โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,415.73 จุด เพิ่มขึ้น 1.35% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 21.73% มาอยู่ที่ 47,963.91 ล้านบาท โดยนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบันและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 13,025 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 444.48 จุด เพิ่มขึ้น 5.94%

ภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในวันจันทร์ โดยนักลงทุนลดการถือครองหุ้นเพื่อรอดูสถานการณ์ทางการเมือง ก่อนที่จะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยมีแรงซื้ออย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนในประเทศ ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการจัดตั้งรัฐบาล

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ 2-6 มิ.ย.2557 บล.กสิกรไทย มองว่าดัชนีอาจปรับตัวผันผวน โดยต้องระวังแรงขายทำกำไร ขณะที่การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนี ISM ภาคการผลิต, ภาคบริการเดือน พ.ค. และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่าดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,408 และ 1,394 จุด ขณะที่แนวต้านคาดอยู่ที่ 1,420-26 และ 1,442 จุด ตามลำดับ

ด้าน นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้ยังปรับขึ้นได้ต่อ และมีแนวโน้มผันผวนในขาขึ้นต่อไปในสัปดาห์นี้ในกรอบ 1,400-1,425 จุด และหากผ่านระดับ 1,425 จุดไปได้ แนวต้านต่อไปอยู่ที่ระดับ 1,460 จุด จากความคาดหวังจะเห็นการประกาศมาตรการเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม และคลายการใช้เคอร์ฟิวบางพื้นที่ เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์

"ภาพรวมบรรยากาศการลงทุนดีขึ้น หลังการเมืองคืบหน้า รายชื่อทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจของคสช.ก็ดูดี ทำให้มีแรงซื้อจากนักลงทุนในประเทศเข้ามาต่อเนื่อง จนอาจลืมมองไปว่ามูลค่าตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับสูง หรือแพงแล้ว แต่ต่างชาติยังขายไม่หยุด ประเมินได้ยากว่าจะขายออกมาอีกเท่าใด เชื่อแรงขายจะมี ไม่มากเหมือนปีที่ผ่านมา เพราะก่อนหน้านี้ได้ขายออกไปเยอะแล้ว อีกทั้งขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะมีการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจ และดัชนีตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น เพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง และการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ

นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รอง กรรมการผู้จัดการ บล.เคทีซีมิโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับบวกได้แข็งแกร่ง หลังจากภาพบรรยากาศทางการเมืองที่ลดความตึงเครียดไปมาก รวมถึงความคาดหวังการผลักดันเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังให้เติบโต ทำให้เกิดมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนในประเทศ จนสามารถที่จะเอาชนะแรงขายของต่างชาติที่ติดเงื่อนไขการลงทุนในประเทศที่มีสถานการณ์ทางการเมืองฉุกเฉินได้

ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นไทยยังสามารถปรับขึ้นต่อเนื่อง ด้วยมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนในประเทศต่อสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจ ที่คาดว่าเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังดีขึ้น หลังจากที่ในช่วงครึ่งปีแรงถูกกดดันจากปัญหาทางการเมือง จนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ออกมาไม่ดี ด้านกลยุทธ์ แนะเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ เพราะคาดว่ายังเห็นแรงขายของต่างชาติในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่

นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยส่งท้ายเดือนพฤษภาคม ว่า มีการเปลี่ยนแปลงหลายๆ ด้าน ตลาดหุ้นสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่ม Energy และ Bank ขณะที่ตลาดหุ้นรอบบ้านเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง โดยตลาดยังคงมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่ม Domestic ที่อิงกับการบริโภคในประเทศซึ่งได้รับผลดีจากปัญหาการเมืองที่คลี่คลายลง

พร้อมคาดการณ์แนวโน้มสัปดาห์นี้ประเมินแนวโน้มจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ โดยมีแนวรับที่ 1,410 จุด และแนวต้านที่ 1,426 จุด เนื่องจากนักลงทุนจับตาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหญ่ เห็นได้จากแต่หุ้นที่เกี่ยวกับการก่อสร้างก็วิ่งล้ำหน้าไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ค่าเงินบาทนั้นอ่อนลงแบบน่ากลัว เพราะต่างชาติเทขายหุ้นออกมาแล้วกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท การที่เงินบาทอ่อนค่าย่อมส่งผลดีกับธุรกิจส่งออกโดยตรง ขณะเดียวกันก็ต้องรดดูแผนการกระตุ้นการส่งออกด้วย อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาปัจจัยในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ทั้งการประชุมธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB และตัวเลขเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ

ทั้งนี้ แนะนำ นักลงทุนระยะกลางขึ้นไปเลือกลงทุนหุ้นพื้นฐานดีราคาเหมาะสม ส่วนผู้รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำ เก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จากนโยบายเร่งด่วนที่ราคายังขยับไม่มาก พร้อมคาดว่า เมื่อสถานการณ์การเมืองคลี่คลายลงอย่างต่อเนื่องนักลงทุนต่างชาติอาจกลับมาซื้อสุทธิสลับการขายได้ในสัปดาห์นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น