ASTVผู้จัดการรายวัน- กระทรวงพลังงานเตรียมหารือ”คสช.”วันนี้หวังรอนโยบายชัดเจนกำหนดชี้ชะตาภาพรวมโครงสร้างราคาพลังงาน โดยเฉพาLPGครัวเรือนที่ครบกำหนดจะต้องขึ้นอีก 50 สต./กก.1มิ.ย.นี้ขณะที่LPGขนส่งตรึงไว้ยิ่งทำให้ราคาต่ำกว่ามาก ผู้ค้าLPGเล็งยื่นหนังสือคสช.หนุนเบรกขึ้นLPGครัวเรือนมิ.ย.นี้ออกไปก่อนชั่วคราวเพื่อพิจารณาแนวทางขึ้นLPGภาคขนส่งให้มาเท่ากัน
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้(30 พ.ค.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศและรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจและทีมที่ปรึกษาศก.มีกำหนดการจะเดินทางมาหารือภาพรวมด้านพลังงานที่กระทรวงฯโดยสาระสำคัญที่กระทรวงจะขอความชัดเจนจะหารือจะว่าด้วยนโยบายด้านพลังงานภาพรวมโดยเฉพาะการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ครัวเรือน และภาคขนส่ง ที่ปัจจุบันมีราคาต่างกันซึ่งมีหลายกระแสต้องการให้ตรึงราคาไปก่อนนั้นคงจะต้องรอนโยบายจากคสช.
“กระทรวงพลังงานได้เตรียมข้อมูลพร้อมที่จะชี้แจงสถานการณ์ที่ผ่านมาและแนวทางที่ควรจะดำเนินการพร้อมข้อดีและข้อเสียซึ่งก็อยู่ที่คสช.จะกำหนดนโยบายออกมา”นายสุเทพกล่าว
นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)กล่าวว่า สนพ.ได้ทำรายงานถึงนโยบายสำคัญๆเร่งด่วนที่จะต้องขอความชัดเจนเพื่อเดินหน้าปฏิบัติให้ปลัดกระทรวงเสนอต่อคสช.แล้วโดยเฉพาะกรณีนโยบายด้านราคาพลังงานซึ่งจะยึดหลักการสะท้อนกลไกตลาดและหลักความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคทุกฝ่ายโดยเฉพาะราคาแอลพีจีที่ปัจจุบันภาคครัวเรือนมีราคาสูงกว่าขนส่งถึง 1.25 บาทต่อกก.ซึ่งตามกรอบแอลพีจีครัวเรือนจะต้องปรับขึ้นอีกต่อเนื่องเดือนละ 50 สต.ต่อกก.ดังนั้นความต่างของราคาที่จะมากขึ้นกังวลว่าจะทำให้เกิดการลักลอบใช้ผิดประเภทซึ่งตามหลักการควรจะต้องขึ้นราคาขนส่งให้เท่าครัวเรือน
“กรณีแอลพีจีก็จะเกี่ยวโยงไปยังราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ NGV กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงภาพรวมด้วยโดยกองทุนน้ำมันฯล่าสุดก็ต้องขออนุมัติการกู้เงินเพิ่มสภาพคล่องตามวงเงินเดิมที่กำหนดกรอบไว้แล้ว 3 หมื่นล้านบาทเนื่องจากติดลบกว่า 7,000ล้านบาท ก็ห่วงว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอาจทำให้ยิ่งเป็นภาระกองทุนฯในการดูแลและขณะนี้การใช้ดีเซลก็เพิ่มขึ้นมากเพราะมีการตรึงราคาเอาไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรจุดนี้ก็ต้องมาดู”นายเสมอใจกล่าว
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าแอลพีจี กล่าวว่า สมาคมฯกำลังพิจารณาที่อาจทำหนังสือถึงคสช.ให้ช่วยกำหนดตรึงราคาแอลพีจีครัวเรือนที่จะปรับขึ้นในวันที่ 1 มิ.ย.นี้อีก 50 สตางค์ต่อกก.ออกไปก่อนชั่วคราวเพราะจะทำให้แอลพีจีครัวเรือนจะขึ้นไปอยู่ที่ 23.13 บาทต่อกก.ทันทีขณะที่แอลพีจีขนส่งยังคงถูกตรึงไว้ที่ 21.38 บาทต่อกก.ซึ่งจะมีผลให้ราคา 2ชนิดต่างกันถึง 1.75 บาทต่อกก.ดังนั้นควรจะตรึงราคาแอลพีจีครัวเรือนออกไปก่อนแล้วให้ไปพิจารณาแนวทางการขึ้นราคาภาคขนส่งให้มาเท่ากับครัวเรือนหลังจากนั้นจึงกำหนดให้ทยอยขึ้นราคาของ 2 ชนิดไปพร้อมๆกันเพื่อให้สะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซฯที่ 24.82 บาทต่อกก.
“แอลพีจีครัวเรือนสูงกว่าขนส่งก็เริ่มพบเห็นประชาชนเอาถังแอลพีจีครัวเรือนไปเติมปั๊มแก๊สแล้วมันอันตราย และราคาต่างกันมากจะยิ่งคุมยากควรจะทบทวนจุดนี้ก่อนและอีกอย่างเห็นว่าร้านค้าหาบเร่ไม่ค่อยมาขึ้นทะเบียนใช้แอลพีจีราคาเดิมที่กระทรวงพลังงานช่วยลดภาระมากนักเกรงว่าส่วนนี้จะไปผลักไว้ในราคาอาหารได้ถ้าตรึงไว้รอให้ปรับตัวสักหน่อยเพื่อรอทยอยขึ้นขนส่งก็จะดีแต่ถ้าคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรก็ขึ้นขนส่งเลยทันที 1.75 บาทต่อกก.ไปเลยก็ได้ยังไงก็ถูกกว่าน้ำมันนะ ”นายชิษณุพงศ์กล่าว
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้(30 พ.ค.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศและรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจและทีมที่ปรึกษาศก.มีกำหนดการจะเดินทางมาหารือภาพรวมด้านพลังงานที่กระทรวงฯโดยสาระสำคัญที่กระทรวงจะขอความชัดเจนจะหารือจะว่าด้วยนโยบายด้านพลังงานภาพรวมโดยเฉพาะการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ครัวเรือน และภาคขนส่ง ที่ปัจจุบันมีราคาต่างกันซึ่งมีหลายกระแสต้องการให้ตรึงราคาไปก่อนนั้นคงจะต้องรอนโยบายจากคสช.
“กระทรวงพลังงานได้เตรียมข้อมูลพร้อมที่จะชี้แจงสถานการณ์ที่ผ่านมาและแนวทางที่ควรจะดำเนินการพร้อมข้อดีและข้อเสียซึ่งก็อยู่ที่คสช.จะกำหนดนโยบายออกมา”นายสุเทพกล่าว
นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)กล่าวว่า สนพ.ได้ทำรายงานถึงนโยบายสำคัญๆเร่งด่วนที่จะต้องขอความชัดเจนเพื่อเดินหน้าปฏิบัติให้ปลัดกระทรวงเสนอต่อคสช.แล้วโดยเฉพาะกรณีนโยบายด้านราคาพลังงานซึ่งจะยึดหลักการสะท้อนกลไกตลาดและหลักความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคทุกฝ่ายโดยเฉพาะราคาแอลพีจีที่ปัจจุบันภาคครัวเรือนมีราคาสูงกว่าขนส่งถึง 1.25 บาทต่อกก.ซึ่งตามกรอบแอลพีจีครัวเรือนจะต้องปรับขึ้นอีกต่อเนื่องเดือนละ 50 สต.ต่อกก.ดังนั้นความต่างของราคาที่จะมากขึ้นกังวลว่าจะทำให้เกิดการลักลอบใช้ผิดประเภทซึ่งตามหลักการควรจะต้องขึ้นราคาขนส่งให้เท่าครัวเรือน
“กรณีแอลพีจีก็จะเกี่ยวโยงไปยังราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ NGV กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงภาพรวมด้วยโดยกองทุนน้ำมันฯล่าสุดก็ต้องขออนุมัติการกู้เงินเพิ่มสภาพคล่องตามวงเงินเดิมที่กำหนดกรอบไว้แล้ว 3 หมื่นล้านบาทเนื่องจากติดลบกว่า 7,000ล้านบาท ก็ห่วงว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอาจทำให้ยิ่งเป็นภาระกองทุนฯในการดูแลและขณะนี้การใช้ดีเซลก็เพิ่มขึ้นมากเพราะมีการตรึงราคาเอาไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรจุดนี้ก็ต้องมาดู”นายเสมอใจกล่าว
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าแอลพีจี กล่าวว่า สมาคมฯกำลังพิจารณาที่อาจทำหนังสือถึงคสช.ให้ช่วยกำหนดตรึงราคาแอลพีจีครัวเรือนที่จะปรับขึ้นในวันที่ 1 มิ.ย.นี้อีก 50 สตางค์ต่อกก.ออกไปก่อนชั่วคราวเพราะจะทำให้แอลพีจีครัวเรือนจะขึ้นไปอยู่ที่ 23.13 บาทต่อกก.ทันทีขณะที่แอลพีจีขนส่งยังคงถูกตรึงไว้ที่ 21.38 บาทต่อกก.ซึ่งจะมีผลให้ราคา 2ชนิดต่างกันถึง 1.75 บาทต่อกก.ดังนั้นควรจะตรึงราคาแอลพีจีครัวเรือนออกไปก่อนแล้วให้ไปพิจารณาแนวทางการขึ้นราคาภาคขนส่งให้มาเท่ากับครัวเรือนหลังจากนั้นจึงกำหนดให้ทยอยขึ้นราคาของ 2 ชนิดไปพร้อมๆกันเพื่อให้สะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซฯที่ 24.82 บาทต่อกก.
“แอลพีจีครัวเรือนสูงกว่าขนส่งก็เริ่มพบเห็นประชาชนเอาถังแอลพีจีครัวเรือนไปเติมปั๊มแก๊สแล้วมันอันตราย และราคาต่างกันมากจะยิ่งคุมยากควรจะทบทวนจุดนี้ก่อนและอีกอย่างเห็นว่าร้านค้าหาบเร่ไม่ค่อยมาขึ้นทะเบียนใช้แอลพีจีราคาเดิมที่กระทรวงพลังงานช่วยลดภาระมากนักเกรงว่าส่วนนี้จะไปผลักไว้ในราคาอาหารได้ถ้าตรึงไว้รอให้ปรับตัวสักหน่อยเพื่อรอทยอยขึ้นขนส่งก็จะดีแต่ถ้าคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรก็ขึ้นขนส่งเลยทันที 1.75 บาทต่อกก.ไปเลยก็ได้ยังไงก็ถูกกว่าน้ำมันนะ ”นายชิษณุพงศ์กล่าว
