1) “ผ่าทางตัน”
แล้วทหารก็ทำตามที่คาด
ยึดอำนาจเด็ดขาดรัฐประหาร
เพียงหวังว่าจะได้มีปณิธาน
ทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองอย่างแท้จริง
ปมปัญหาวิกฤตเกินใครแก้
เงื่อนตายทุกตัวแปรรัดแน่นิ่ง
ประเทศชาติไร้หลักจะพักพิง
นิติรัฐรุ่งริ่งล้มละลาย
อำนาจเถื่อนส้องสุมสรรพาวุธ
อำนาจรัฐหัวกุดแต่หางส่าย
ปกาศิตสั่งเป็นและสั่งตาย
มุ่งร้ายมุ่งทำลายสถาบัน
หุ่นเชิดระบอบชั่วชักใยชั่ว
มืดบอดเมามัวเกินขีดขั้น
รักษาการยึกยัก ยักแย่ยัน
เศรษฐกิจตีบตันอันตราย
แนวทางประชาธิปไตยก็จนตรอก
การเมืองไร้ทางออกยากถอนถ่าย
ความขัดแย้งแรงร้อนยากผ่อนคลาย
จึงหนทางสุดท้ายต้องล้มกระดาน
หมุนกงล้อกงเกวียนเวียนรอยเก่า
กลับไปใช้ร่มเงาอำนาจทหาร
ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเผด็จการ
เพื่อตอบโจทย์จัดการบ้านเมืองไทย
เมื่อทหารเสียสละมาแบกรับ
ภาระชาติที่ถมทับเพื่อถอนไถ่
ต้องอุทิศทุ่มเททั้งหัวใจ
อภิวัฒน์ประเทศให้เสร็จสมบูรณ์
แก้กฎปลดเปลื้องทุกบริบท
ล้างคดล้างโกงให้สิ้นสูญ
นิติรัฐธรรมาภิบาลให้ไพบูลย์
การเมืองให้เกื้อกูลอธิปไตย
ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จให้เด็ดขาด
สร้างชาติทุกใยโยงให้โปร่งใส
“ประโยชน์สุขมวลมหาประชาไทย”
ต้องเหนือยิ่งสิ่งใด ในปณิธาน
ไม่ต้องเดินตามก้นตะวันตก
การเมืองไทยมีรากรกที่สืบสาน
การปกครอง พ่อ-ลูก ผูกตำนาน
คือรากเหง้าที่เจือจานสังคมไทย
อย่าลุ่มหลง โลกาภิวัตน์
ที่เสกคนเป็นสัตว์สังคมใหม่
ห่มคลุมด้วยเปลือกประชาธิปไตย
แต่ร้อนรุมสุมไฟ ทุนสามานย์
ฝากข้อคิดจากคนเขียนบทกวี
ตั้งใจเขียนบทนี้ ฝากทหาร
อยากเห็นการยึดอำนาจสร้างตำนาน
อภิวัฒน์สู่พื้นฐาน ชนชาติไทย
อภิวัฒน์สู่พื้นฐาน สังคมไทย
อภิวัฒน์ สู่พื้นฐาน เศรษฐกิจพอเพียง!
2) “ต้องกล้าเปลี่ยนการเมืองไทย”
อาณาจักรประเทศจีนอันยิ่งใหญ่
ปกครองด้วยกลไกอันเชื่อมั่น
“ประโยชน์สุขคนจีนทุกเผ่าพันธุ์”
คือหลักการสำคัญการปกครอง
ประชากรร่วมกันเป็นพันล้าน
สังคมนิยมขับขานอย่างแคล่วคล่อง
อยู่ร่วมสังคมโลกตามครรลอง
ในท่วงทำนองแบบของตน
ไม่เคยตื่นตามโลกาภิวัตน์
ยืนหยัดขนบจีนอย่างเข้มข้น
ปกครองโดยสภาประชาชน
ไม่เดินตามก้นประชาธิปไตย
ทำไมการเมืองไทยวิตกจริต
ตามก้นติดตะวันตกกันยกใหญ่
ไม่พลิกฟื้นพื้นฐานความเป็นไทย
ทำไมต้องตามก้นอเมริกา
เกี่ยวก้อยการเมืองเป็นธุรกิจ
เอาเลือกตั้งทุจริตตั้งบังหน้า
แลกเปลี่ยนอธิปไตยด้วยเงินตรา
เสียงข้างมากจึงได้มาอย่างสามานย์
ระบอบการเมืองไทยจึงโสมม
สร้างปัญหาสะสมอยู่รอบด้าน
ก็ยังดื้อยังด้านยังดักดาน
จะเลือกการปกครองประชาธิปไตย
ถึงเวลาต้องกล้าแหวกแหกคอกแล้ว
กำหนดแนวปกครองประเทศใหม่
สุดแท้แต่จะเรียก ระบอบอะไร?
ขอให้เป็น “ประเทศไทย-แผ่นดินธรรม”
3) “ประเทศใคร ประเทศมัน”
ไอ้ทิดเอ๋ยเอ็งกับข้ามาคุยกัน
เมื่อทางตันจนตรอกเริ่มออกได้
บ้านเมืองเริ่มมีรูหายใจ
เมื่อกองทัพทหารไทยบุกกรุยทาง
เบื้องต้นต้องคุ้ยค้นขยะร้าย
เก็บกวาดทำลายและสะสาง
ต้องเบ็ดเสร็จเด็ดขาดกวาดล้างบาง
ก่อนออกแบบจัดวางประเทศไทย
ข้าเคยคิดข้องใจโว้ยไอ้ทิด
ไม่รู้เอ็งเคยคิดเหมือนข้าไหม?
ว่าทำไมต้องบ้าประชาธิปไตย
แบบถูไถใช่ไม่ใช่ไม่รับรู้
ยัดเยียดระบอบประชาธิปไตย
สั่งสมทุนจัญไรเข้าสมสู่
เป็นธุรกิจการเมืองในทุกอณู
ประชาธิปไตยแบบไถถู ถูลู่ถูกัง
ข้าเห็นจีนปกครองแบบของตน
ไม่ตามก้นตะวันตกเป็นที่ตั้ง
จีนปกครองแบบจีนก็จีรัง
ทำไมไทยต้องฟังอเมริกา
ทำไมไม่เป็นตัวของตัวเอง
กลัวเกรงอันใดจึงไม่กล้า
ดูเพื่อนบ้านอีกหลากหลายล้วนนานา
ลาว เขมร พม่า เวียดนามก็ต่างกัน
ต้องกล้าแหวกแหกคอกโว้ยไอ้ทิด
ช่วยกันคิดช่วยกันทำอย่างเชื่อมั่น
“ประโยชน์สุข ของคนไทย” เป็นสำคัญ
ประเทศใคร ประเทศมัน โว้ยไอ้ทิด!
4) “รอดู...บทสุดท้าย”
ไอ้ทิดเอ๋ยมันไม่ใช่ประชาธิปไตย
แต่มันสู้เพื่ออะไรมันย่อมรู้
อย่าฟังคำมันอ้างข้างๆ คูๆ
เมื่อมันคิดเป็นศัตรูประเทศไทย
หมิ่นชาติศาสน์กษัตริย์อย่างชัดแจ้ง
คิดการณ์เปลี่ยนแปลง “รัฐไทยใหม่”
ใช้เงินหว่านชี้นำเอาตามใจ
แล้วอ้างเป็นประชาธิปไตยแบบสากล
มันไม่ใช่ ประชาธิปไตยโว้ยไอ้ทิด
ตั้งต้นมันก็ผิดตั้งแต่ต้น
แค่หลักคิดเห็นคนไม่ใช่คน
ใช้เงินสนตะพายเป็นควายงาน
ผิดหลักสิทธิเสรีภาพ
เงินบาปซื้อคนบาปล้วนหยาบกร้าน
นอกกรอบเกินกรอบพิกลพิการ
บริหารจนบ้านเมืองแทบมอดมลาย
สร้างความแตกแยกจนย่อยยับ
จนบ้านเมืองติดกับการแบ่งฝ่าย
คนไทยอาจถึงขั้นฆ่ากันตาย
เมื่อเลือกข้างเลือกค่ายคนละทาง
แต่ไม่ใช่เผด็จการกับประชาธิปไตย
ไม่ใช่การต่อสู้ ตามมันอ้าง
เมื่อไม่ใช่ประชาธิปไตยตามจัดวาง
“รัฐประหาร” แค่เปิดทางที่ปิดตาย
เป็นการสู้ระหว่าง “ดี กับ ชั่ว”
“เพื่อตัว” กับ “เพื่อชาติ” ต่างเป้าหมาย
ความกลัวกับความกล้า จักท้าทาย
รอดูบทสุดท้าย...โว้ยไอ้ทิด!
ว.แหวนลงยา