คนร้ายลอบวางเพลิงห้องประชุมนิคมฮาลาล ปัตตานี เจ้าหน้าที่ระงับเหตุทัน กลิ่นน้ำมันเบนซินคลุ้ง ด้านเหตุป่วน จ.ปัตตานี สรุป 15 จุด เสาไฟฟ้าล้ม 14 ต้น ไฟฟ้าดับทั้งเมือง เซเว่น-อีเลฟเว่นพัง 4 สาขา ตาย 3 เจ็บ 73 ราย มีสาหัส 5 ราย แพทย์ผ่าตัดช่วยชีวิตแล้ว กองทัพเรือเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด หลังเรือ ต. 229 ถูกลอบยิง แม่ทัพภาคที่ 4 ยอมรับปฏิบัติงานบกพร่อง
เมื่อเวลา 16.30 น. วานนี้ (25 พ.ค.) พ.ต.อ.ปัญญวัฒน์ เพชรชุม ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารศูนย์บริการเบ็ดเสร็จครบวงจร นิคมอุตสาหกรรมฮาลาลปัตตานี บ้านท่าสู หมู่ 3 ต.น้ำบ่อ จึงประสานรถดับเพลิงไปที่เกิดเหตุ พบควันไฟออกมาจากห้องประชุมอาคารอำนวยการ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบพบว่าห้องประชุมถูกไฟไหม้เสียหาย ห้องโถงเสียหายเล็กน้อย กระจกหน้าต่างแตก มีกลิ่นน้ำมันเบนซินคละคลุ้ง
จากการสอบสวนคาดว่าคนร้ายคงลอบเข้ามาทุบกระจกหน้าต่างห้องประชุม แล้วราดน้ำมันจุดไฟ โชคดีที่มีชาวบ้านเห็นก่อน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาดับไฟไว้ได้ เบื้อต้นเชื่อเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบพยายามสร้างสถานการณ์
ส่วนความคืบหน้ากรณีลอบวางระเบิดหลายจุดในอ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เรียกประชุมชุดสืบสวน สอบสวน ชุดพิสูจน์หลักฐาน ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) เพื่อสรุปสถานการณ์ พร้อมกับประสานชุดอีโอดีตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 444 และชุดอโนทัยของทหาร เข้ามาเสริมปฏิบัติการตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากนั้นได้แยกย้ายลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยเสาไฟฟ้าริมถนนปัตตานี-นราธิวาส ต.ตะลุโบะ อ.เมือง พบระเบิดแสวงเครื่องผูกติดกับโคนเสา คาดว่าคนร้ายน่าจะกดระเบิดแล้วแต่เกิดด้าน จึงได้เก็บกู้ ขณะที่เสาไฟฟ้าริมถนนปัตตานี-นราธิวาส ต.ปะกาฮารัง และริมถนนปัตตานี-ยะลา ถูกระเบิดล้มขวางถนน 14 ต้น จนถึงเช้าวันที่ 25 พฤษภาคม ไฟก็ยังดับอยู่
ขณะที่ชุดพิสูจน์หลักฐานแบ่งกำลังเป็น 5 ชุด ตรวจหาพยานหลักฐานที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น สาขาวิทยาลัยการอาชีพปัตตานี พบว่าถูกระเบิดเสียหายอย่างหนัก มีผูัเสียชีวิต 1 ราย พบชิ้นส่วนกล่องเหล็กที่คนร้ายบรรจุระเบิดซุกไว้ในภายร้าน เช่นเดียวกันร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น อีก 3 แห่ง คือ สาขาเจริญประดิษฐ์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนสาขามะกรูด และสาขานาเกลือได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ขณะที่การตรวจสอบปั๊มน้ำมันทั้ง 4 แห่ง โดยเฉพาะที่ปั๊ม ปตท.สาขารูสะมิแล คนร้ายขับรถจักรยานยนต์ซุกระเบิดเข้ามาเติมน้ำมัน และได้จอดรถทิ้งไว้แล้ววิ่งหนี จากนั้นได้กดชนวนระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ปั๊มเสียหาย เช่นเดียวกับที่ปั๊มเอสโซ่ ถนนรามโกมุท ปั๊มปตท.วงเวียนหอนาฬิกา และปั๊มน้ำมันปตท.นาเกลือ
ส่วนที่ สภ.เมือง คนร้ายใช้เครื่องยิงเอ็ม 79 ยิงตกหน้าสภ. แต่ไม่ระเบิด เจ้าหน้าที่จึงเก็บกู้ไว้ได้ นอกจากนี้ยังใช้เอ็ม 79 ยิงใส่เรือ ต.229 ของทหารที่จอดเทียบท่าเรือพิเทพ 3 ลูก ถูกหลังคาเรือ 1 ลูก ได้รับความเสียหาย
สรุปความเสียหายเบื้องต้น 15 จุด มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายอภิสิทธิ์ มุ่งหมายธนา อายุ 28 ปี นางสมพร ลาเฮศักด์สิทธิ์ อายุ 47 ปี และ ด.ช.มูฮำหมัดอิลฟาน สิเดะ อายุ 5 ปี
ส่วนที่ จ.นราธิวาส พ.ต.ท.เนติธร วัตตธรรม นักวิทยาศาสตร์ สบ.3 กลุ่มงานตรวจสถานีที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ร.ต.ท.พลวัฒน์ เทพษร รองหัวหน้าชุดอีโอดี นปพ.ภ.จว.นราธิวาส ร.ต.ท.มารุต นิลโกสีย์ ร้อยเวรสภ.รือเสาะ ตรวจสอบเหตุคนร้ายวางระเบิดเสาไฟฟ้า 2 จุด เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคม ที่โค้งมะโย่ง บ้านยะบะ หมู่ 2 ต.รือเสาะ และที่บ้านลูดบ๊ะปูดล๊ะ หมู่ 3 ต.สามัคคี เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายวางแผนตัดกระแสไฟฟ้าในอ.รือเสาะ เพื่อให้คนร้ายอีกชุดก่อเหตุเหมือนกับในจ.ปัตตานี แต่โชคดีเสาไฟฟ้าไม่หักโคน จึงไม่เกิดเหตุรุนแรงตามเป้าหมาย
พล.ร.ต.กาญจน์ ดีอุบล เลขานุการกองทัพเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า เหตุคนร้ายลอบยิงเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 229 เป็นเหตุสุดวิสัย เกิดขึ้นในขณะที่ไฟฟ้าดับ ทำให้ร.อ.ภานุวัฒน์ อัตชู ผู้ควบคุมเรือ ต. 229 จ.อ.เอกลักษณ์ สิรินก จ่าปืนประจำเรือ และจ.อ.กชสร นามสนิท ช่างกลประจำเรือ บาดเจ็บเล็กน้อย และปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติแล้ว โดยนำเรือ ต.229 กลับไปที่ฐานทัพเรือสงขลา เนื่องจากเสียหายเล็กน้อย เรือไม่มีปัญหาอะไร
"พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ รับทราบเรื่องแล้ว และกำชับให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ยกระดับระบบการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด รวมถึงพื้นที่อากาศยาน และหน่วยทหารด้วย"
เวลา 11.00 น. พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.)ตรวจดูความเสียหายในจ.ปัตตานี จากนั้นไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลปัตตานี พร้อมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติ
พล.ท.วลิต กล่าวว่า ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยย้ำให้กลับไปทบทวนแผนปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่า เกิดจากการปฏิบัติงานที่บกพร่องส่วนหนึ่ง เพราะเห็นได้ว่าคนร้ายยังคงมุ่งเป้าการทำลายเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ ส่วนการเฝ้าระวังป้องกันนั้น เห็นได้ว่าทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และทหาร ร่วมกันสั่งการและสามารถควบคุมได้ในเวลาชั่วโมงเศษ แสดงว่าการปฏิบัติตามแผนระหว่างเกิดเหตุยังใช้ได้อยู่ จากนี้จะเน้นติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ รวมถึงเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
"พล.อ.ประยุทธื์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้นโยบายไว้ 3 ขั้น คือ เฝ้าระวัก่อนเกิดเหตุ ช่วงเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ซึ่งขั้นที่ 2-3 นั้นมั่นใจว่ากำลังทั้งหมดดูแลได้ แต่ในขั้นแรกต้องเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น และอยากขอร้องประชาชนให้ช่วยกัน เพราะใครก็ไม่อยากให้เกิดเหตุขึ้น โดยออกมาช่วยกันปฏิเสธความรุนแรงให้เป็นรูปธรรม"
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า รายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 73 ราย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิด แพทย์ให้กลับบ้านแล้ว 51 ราย รักษาในโรงพยาบาล 22 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลปัตตานี 20 ราย ผ่าตัด 5 ราย อาการหนักอยู่ห้องไอ.ซี.ยู. อีก 2 รายส่งต่อโรงพยาบาลยะลา อยู่ในห้องไอ.ซี.ยู. เป็นเด็กอายุ 2 ขวบถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะหลายแห่ง มีเลือดออกในสมอง อีกรายเป็นหญิงอายุ 29 ปี
นพ.สุภาพ ไพศาลศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปัตตานี กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บอาการหนักมี 5 ราย ประกอบด้วย เด็กอายุ 5 ขวบถูกระเบิดจนเท้าแหลกละเอียด ต้องตัดขาระดับต่ำกว่าเข่า นางพยาบาลโรงพยาบาลโคกโพธิ์ ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าท้อง ลำไส้ใหญ่ฉีกขาด อีก 3 รายถูกสะเก็ดระเบิดช่วงอกและช่องท้อง ทั้งหมดได้รับการผ่าตัดแล้ว
เมื่อเวลา 16.30 น. วานนี้ (25 พ.ค.) พ.ต.อ.ปัญญวัฒน์ เพชรชุม ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารศูนย์บริการเบ็ดเสร็จครบวงจร นิคมอุตสาหกรรมฮาลาลปัตตานี บ้านท่าสู หมู่ 3 ต.น้ำบ่อ จึงประสานรถดับเพลิงไปที่เกิดเหตุ พบควันไฟออกมาจากห้องประชุมอาคารอำนวยการ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบพบว่าห้องประชุมถูกไฟไหม้เสียหาย ห้องโถงเสียหายเล็กน้อย กระจกหน้าต่างแตก มีกลิ่นน้ำมันเบนซินคละคลุ้ง
จากการสอบสวนคาดว่าคนร้ายคงลอบเข้ามาทุบกระจกหน้าต่างห้องประชุม แล้วราดน้ำมันจุดไฟ โชคดีที่มีชาวบ้านเห็นก่อน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาดับไฟไว้ได้ เบื้อต้นเชื่อเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบพยายามสร้างสถานการณ์
ส่วนความคืบหน้ากรณีลอบวางระเบิดหลายจุดในอ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เรียกประชุมชุดสืบสวน สอบสวน ชุดพิสูจน์หลักฐาน ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) เพื่อสรุปสถานการณ์ พร้อมกับประสานชุดอีโอดีตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 444 และชุดอโนทัยของทหาร เข้ามาเสริมปฏิบัติการตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากนั้นได้แยกย้ายลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยเสาไฟฟ้าริมถนนปัตตานี-นราธิวาส ต.ตะลุโบะ อ.เมือง พบระเบิดแสวงเครื่องผูกติดกับโคนเสา คาดว่าคนร้ายน่าจะกดระเบิดแล้วแต่เกิดด้าน จึงได้เก็บกู้ ขณะที่เสาไฟฟ้าริมถนนปัตตานี-นราธิวาส ต.ปะกาฮารัง และริมถนนปัตตานี-ยะลา ถูกระเบิดล้มขวางถนน 14 ต้น จนถึงเช้าวันที่ 25 พฤษภาคม ไฟก็ยังดับอยู่
ขณะที่ชุดพิสูจน์หลักฐานแบ่งกำลังเป็น 5 ชุด ตรวจหาพยานหลักฐานที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น สาขาวิทยาลัยการอาชีพปัตตานี พบว่าถูกระเบิดเสียหายอย่างหนัก มีผูัเสียชีวิต 1 ราย พบชิ้นส่วนกล่องเหล็กที่คนร้ายบรรจุระเบิดซุกไว้ในภายร้าน เช่นเดียวกันร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น อีก 3 แห่ง คือ สาขาเจริญประดิษฐ์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนสาขามะกรูด และสาขานาเกลือได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ขณะที่การตรวจสอบปั๊มน้ำมันทั้ง 4 แห่ง โดยเฉพาะที่ปั๊ม ปตท.สาขารูสะมิแล คนร้ายขับรถจักรยานยนต์ซุกระเบิดเข้ามาเติมน้ำมัน และได้จอดรถทิ้งไว้แล้ววิ่งหนี จากนั้นได้กดชนวนระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ปั๊มเสียหาย เช่นเดียวกับที่ปั๊มเอสโซ่ ถนนรามโกมุท ปั๊มปตท.วงเวียนหอนาฬิกา และปั๊มน้ำมันปตท.นาเกลือ
ส่วนที่ สภ.เมือง คนร้ายใช้เครื่องยิงเอ็ม 79 ยิงตกหน้าสภ. แต่ไม่ระเบิด เจ้าหน้าที่จึงเก็บกู้ไว้ได้ นอกจากนี้ยังใช้เอ็ม 79 ยิงใส่เรือ ต.229 ของทหารที่จอดเทียบท่าเรือพิเทพ 3 ลูก ถูกหลังคาเรือ 1 ลูก ได้รับความเสียหาย
สรุปความเสียหายเบื้องต้น 15 จุด มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายอภิสิทธิ์ มุ่งหมายธนา อายุ 28 ปี นางสมพร ลาเฮศักด์สิทธิ์ อายุ 47 ปี และ ด.ช.มูฮำหมัดอิลฟาน สิเดะ อายุ 5 ปี
ส่วนที่ จ.นราธิวาส พ.ต.ท.เนติธร วัตตธรรม นักวิทยาศาสตร์ สบ.3 กลุ่มงานตรวจสถานีที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ร.ต.ท.พลวัฒน์ เทพษร รองหัวหน้าชุดอีโอดี นปพ.ภ.จว.นราธิวาส ร.ต.ท.มารุต นิลโกสีย์ ร้อยเวรสภ.รือเสาะ ตรวจสอบเหตุคนร้ายวางระเบิดเสาไฟฟ้า 2 จุด เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคม ที่โค้งมะโย่ง บ้านยะบะ หมู่ 2 ต.รือเสาะ และที่บ้านลูดบ๊ะปูดล๊ะ หมู่ 3 ต.สามัคคี เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายวางแผนตัดกระแสไฟฟ้าในอ.รือเสาะ เพื่อให้คนร้ายอีกชุดก่อเหตุเหมือนกับในจ.ปัตตานี แต่โชคดีเสาไฟฟ้าไม่หักโคน จึงไม่เกิดเหตุรุนแรงตามเป้าหมาย
พล.ร.ต.กาญจน์ ดีอุบล เลขานุการกองทัพเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า เหตุคนร้ายลอบยิงเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง 229 เป็นเหตุสุดวิสัย เกิดขึ้นในขณะที่ไฟฟ้าดับ ทำให้ร.อ.ภานุวัฒน์ อัตชู ผู้ควบคุมเรือ ต. 229 จ.อ.เอกลักษณ์ สิรินก จ่าปืนประจำเรือ และจ.อ.กชสร นามสนิท ช่างกลประจำเรือ บาดเจ็บเล็กน้อย และปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติแล้ว โดยนำเรือ ต.229 กลับไปที่ฐานทัพเรือสงขลา เนื่องจากเสียหายเล็กน้อย เรือไม่มีปัญหาอะไร
"พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ รับทราบเรื่องแล้ว และกำชับให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ยกระดับระบบการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด รวมถึงพื้นที่อากาศยาน และหน่วยทหารด้วย"
เวลา 11.00 น. พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.)ตรวจดูความเสียหายในจ.ปัตตานี จากนั้นไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลปัตตานี พร้อมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติ
พล.ท.วลิต กล่าวว่า ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยย้ำให้กลับไปทบทวนแผนปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่า เกิดจากการปฏิบัติงานที่บกพร่องส่วนหนึ่ง เพราะเห็นได้ว่าคนร้ายยังคงมุ่งเป้าการทำลายเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ ส่วนการเฝ้าระวังป้องกันนั้น เห็นได้ว่าทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และทหาร ร่วมกันสั่งการและสามารถควบคุมได้ในเวลาชั่วโมงเศษ แสดงว่าการปฏิบัติตามแผนระหว่างเกิดเหตุยังใช้ได้อยู่ จากนี้จะเน้นติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ รวมถึงเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
"พล.อ.ประยุทธื์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้นโยบายไว้ 3 ขั้น คือ เฝ้าระวัก่อนเกิดเหตุ ช่วงเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ซึ่งขั้นที่ 2-3 นั้นมั่นใจว่ากำลังทั้งหมดดูแลได้ แต่ในขั้นแรกต้องเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น และอยากขอร้องประชาชนให้ช่วยกัน เพราะใครก็ไม่อยากให้เกิดเหตุขึ้น โดยออกมาช่วยกันปฏิเสธความรุนแรงให้เป็นรูปธรรม"
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า รายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 73 ราย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิด แพทย์ให้กลับบ้านแล้ว 51 ราย รักษาในโรงพยาบาล 22 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลปัตตานี 20 ราย ผ่าตัด 5 ราย อาการหนักอยู่ห้องไอ.ซี.ยู. อีก 2 รายส่งต่อโรงพยาบาลยะลา อยู่ในห้องไอ.ซี.ยู. เป็นเด็กอายุ 2 ขวบถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะหลายแห่ง มีเลือดออกในสมอง อีกรายเป็นหญิงอายุ 29 ปี
นพ.สุภาพ ไพศาลศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปัตตานี กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บอาการหนักมี 5 ราย ประกอบด้วย เด็กอายุ 5 ขวบถูกระเบิดจนเท้าแหลกละเอียด ต้องตัดขาระดับต่ำกว่าเข่า นางพยาบาลโรงพยาบาลโคกโพธิ์ ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าท้อง ลำไส้ใหญ่ฉีกขาด อีก 3 รายถูกสะเก็ดระเบิดช่วงอกและช่องท้อง ทั้งหมดได้รับการผ่าตัดแล้ว