xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ทหารหล่อบอกด้วย ทหารสวยบอกต่อ ปรากฏการณ์ฟรุ้งฟริ้งรับกฎอัยการศึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพทหารหล่อที่มีการเผยแพร่กันในโลกสังคมออนไลน์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ในชั่วระยะเวลาไม่ช้าไม่นาน หลังสาธารณชนได้รับรู้ว่า กองทัพบกโดย “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร สายๆ ของวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ต่อเนื่องไปตลอดทั้งวัน โลกสังคมออนไลน์ก็ได้แสดงอารมณ์ความรู้สึก “ดีใจ” และ “ชื่นชม” กับการออกมาทำหน้าที่ของทหารกันอย่างสนุกสนาน

ปรากฏการณ์แรกที่ได้เห็นบนโลกออนไลน์ก็คือปรากฏการณ์ที่รู้จักกันในชื่อของ “เซลฟี่” โดยเฉพาะบรรดาสาวๆ ที่พากันไปถ่ายรูปคู่กับทหารแล้วนำไปเผยแพร่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเฟชบุ๊ก ทวิตเตอร์ รวมถึงอินสตราแกรม กระทั่งสำนักข่าวต่างประเทศอย่าง “เอพี” ถึงกับนำไปรายงานข่าว โดยพาดหัวว่า “Thailand’s martial law gives rise to selfie”

สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ว่าบรรยากาศในเมืองหลวงของประเทศไทยไม่ตึงเครียดเท่าที่คิด แม้กองทัพจะประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึก การกระจายกำลังรักษาความสงบและควบคุมพื้นที่ตามสถานที่สำคัญในกรุงเทพฯ โดยทหารจำนวนมากพร้อมรถถังและยานยนต์หุ้มเกราะ เกิดขึ้นในบรรยากาศผ่อนคลาย จากการที่ประชาชนทยอยนำอาหารและเครื่องดื่มมาให้กำลังใจ พร้อมกับขอบันทึกภาพ "เซลฟี" กับเหล่าทหารตลอดทั้งวัน ซึ่งทหารทุกนายแสดงออกอย่างเป็นมิตรกับประชาชน ด้วยการเข้าร่วมถ่ายภาพแต่โดยดี

ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พลเมืองชาวไทยในกรุงเทพฯ นอกจากจะดูไม่ตื่นตระหนกกับเรื่องกฎอัยการศึกแล้ว ต่างยังตื่นเต้นนำโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปคู่กับทหารและยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ตั้งอยู่ตามจุดตรวจค้นต่างๆ ด้วย แถมยังมีประชาชนบางคนตะโกนให้กำลังใจทหาร “สู้ สู้” เมื่อเดินผ่านจุดตรวจค้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนไทยบางส่วนรู้สึกยินดีที่เห็นทหารเข้ามาแทรกแซงปัญหาทางการเมืองที่ยืดเยื้อยาวนาน

สำหรับความหมายและที่มาของคำว่าเซลฟี่นั้น จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า เซลฟี่เป็นคำศัพท์ที่ถูกคณะผู้จัดทำพจนานุกรม ภาษาอังกฤษ ที่เรารู้จักกันดีชื่อ “ออกซฟอร์ด ดิกชันนารี” Oxford Dictionary จัดให้เป็นคำศัพท์แห่งปี 2013 (Word of the Year 2013)

จูดี้ เพียร์ซอลล์ บรรณาธิการพจนานุกรมออกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า คำว่าเซลฟี่ เริ่มใช้ครั้งแรกในออสเตรเลีย เมื่อปี 2545 ต่อมาพบการใช้เป็นคำสืบค้นหรือ แฮชแท็ก #selfie บนเว็บไซต์แชร์ภาพถ่าย Flickr ในปี 2547 แต่การใช้อย่างแพร่หลายเกิดขึ้นพร้อมกับกระแสนิยมของสื่อสังคมออนไลน์ และกลายเป็นคำที่ใช้กันทั่วไปเมื่อปีที่ 2556 ซึ่งนักวิจัยพบความถี่ของการใช้คำนี้เพิ่มขึ้นถึง 17,000%

ส่วนในประเทศไทย ในยุคที่คนนิยมใช้สื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น พบว่าคนไทยจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา นักกีฬา ดารา เซเลบฯ หรือแม้กระทั่งคนทำงานมีพฤติกรรมที่เรียกว่า "เซลฟี่" (Selfie) กันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนดังแห่กันมาถ่ายรูปลงกระจายไปทั่วโลกออนไลน์ดังที่ปรากฏให้เห็นมาก่อนหน้านี้และในขณะนี้หลังมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก

ทั้งนี้ เซลฟี (Selfie) หมายถึงพฤติกรรมของคนที่ชอบถ่ายภาพตัวเองในอิริยาบถต่าง ๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ทำอะไร กินอะไร โดยใช้ สมาร์ทโฟน (Smartphone) หรือ กล้องคอมพิวเตอร์ (Webcam) แล้วนำไปแชร์หรือเผยแพร่ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก (Social Network) เพื่อรอให้เพื่อน ๆ มากดไลค์ หรือเขียนข้อความแสดงความเห็นต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีแค่เพียงการบันทึกภาพถ่ายในลักษณะของเซลฟี่เท่านั้นที่มีการแพร่หลายในโลกสังคมออนไลน์ หากแต่การถ่ายภาพร่วมกับทหารที่ออกมาประจำการตามจุดต่างๆ บนท้องถนน หรือการถ่ายภาพตัวเองในชุดเครื่องแต่งกายแบบทหารในรูปแบบปกติก็มีเผยแพร่ให้เห็นในโลกสังคมออนไลน์ในวันประกาศกฎอัยการศึกเช่นกัน

ถัดจากเรื่อง “เซลฟี่” ช่วงบ่ายก็เกิดอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่ต้องเรียกได้ว่า ไม่ธรรมดา เมื่อ “คำสืบค้น” หรือ “แฮชแทก(Hashtaq) ” ซึ่งมีเครื่องหมาย # นำหน้าคำว่า ทหารหล่อบอกด้วย และ #SoldierCuteboy ได้รับความนิยมจากชาวทวิตเตอร์ไทยจนติดชาร์ตฮิตอีกต่างหาก โดยบรรดาสาวๆ ทั้งสาวจริงและสาวประเภทอื่นๆ ต่างพากันสรรหาภาพทหารหล่อๆ มาโพสต์กันจนเป็นที่ครื้นเครงอย่างแทบไม่น่าเชื่อ

และตามต่อด้วยแฮชแทกที่มาแรงไม่แพ้กันคือ #ทหารสวยบอกต่อ จนกลายเป็นประโยคฮิตในโลกไซเบอร์ว่า ทหารหล่อบอกด้วย ทหารสวยบอกต่อ

“กอ.รส. ยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ได้กังวลหรือมีมาตรการใดๆมาควบคุม ในกรณีที่มีการตั้งแฮชแท็กบนโลกโซเชียล เช่น #ทหารหล่อบอกด้วย และ #soidercuteboy รวมถึงการโพสต์รูปถ่ายเซลฟี่กับเหล่านายทหาร ที่ประจำตามพื้นที่ต่างๆ เพราะมองว่าเป็นสีสันหนึ่ง และทหารก็คือประชาชนไทย นอกเหนือเวลาปฏิบัติหน้าที่ก็มีสิทธิ์ที่จะทำกิจกรรมส่วนตัวในรูปแบบต่างๆได้”พ.ท.สุประดิษฐ์ เปล่งฉวี โฆษก กอ.รส.กล่าวถึงปรากฏการณ์ดังกล่าว

แน่นอน การเซลฟี่ด้วยการถ่ายรูปกับทหารหรือการโพสต์รูปทหารหนุ่มหล่อล่ำบึก มิได้เป็นเพียงแค่ความครื้นเครงหรือสนุกสนานแบบไร้สาระเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนให้เห็นวิถีการเมืองแบบไทยๆ และสะท้อนความรู้สึกที่คนไทยมีต่อทหารด้วยว่า ทหารคือส่วนหนึ่งของระบบอำนาจ เป็นส่วนหนึ่งของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่คนไทยจำนวนมากยอมรับ และให้ความมั่นใจในการเข้ามาแก้ปัญหาของประเทศ

และความจริงถ้าจะว่าไปแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนไทยแสดงความชื่นชมต่อทหารด้วยวิธีการในลักษณะนี้ หากยังจำกันได้เมื่อครั้งที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ทำรัฐประหารรัฐบาลนักโทษชายหนีคดีทักษิณ ชินวัตรเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ก็เคยเกิดเหตุการณ์ในทำนองนี้มาแล้ว โดยประชาชนจำนวนมากพร้อมใจกันออกไปมอบดอกไม้ให้ทหารที่ประจำการตามจุดต่างๆ พร้อมทั้งถ่ายรูปเป็นที่ระลึก นอกจากนี้บางคนยังได้นำอาหาร น้ำดื่ม ตลอดจนขนมนมเนยไปมอบให้อีกด้วย จนชาวต่างชาติแปลกใจว่า ทำไมคนไทยถึงไม่รังเกียจการทำรัฐประหาร

ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน การแสดงออกของคนไทยก็สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า คนไทยรู้สึกเช่นไรกับการประกาศกฎอัยการศึก

ต้องบอกว่า....เป็นวัฒนธรรมการเมืองแบบไทยๆ ที่หาที่ไหนไม่ได้ในโลก




ภาพทหารสวยบอกต่อที่กำลังมาแรงไม่แพ้กัน
เว็บไซต์สำนักข่าวเอพีที่รายงานปรากฏการณ์เซลฟี่กับทหารในประเทศไทย
ภาพเซลฟี่ของสาวๆ ไทยในวันประกาศกฎอัยการศึก

กำลังโหลดความคิดเห็น