**ใจคออำมหิตผิดมนุษย์ สำหรับเหตุ “โจรใจทราม”ลอบยิงระเบิด เอ็ม 79 ตามด้วยการกระหน่ำยิงปืนเอ็ม 16 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน กลางดึกวันที่ 15 พ.ค. ทำให้ผู้ชุมนุมกปปส. เสียชีวิตไป 3 ราย
ตามสูตรสำเร็จ เมื่อก่อเหตุเสร็จคนร้ายมักจะหนีเงื้อมมือ “ตำรวจ”ได้เสมอ โดยเฉพาะในยุค“สมุนแม้ว”ครองเมือง ใครที่เลือกฝั่งอยู่ข้างเสื้อแดง ทำอะไรก็ไม่ผิด-จับไม่ได้
“ถาวร เสนเนียม”แกนนำกปปส. ตั้งข้อสังเกตทันทีว่า ตำรวจตั้งด่านปิดรอบพื้นที่ แต่ไม่สามารถจับ หรือปิดล้อมเส้นทางหนีของ คนร้ายไว้ได้เลย
**สะท้อนให้เห็นเลยว่า "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" ไม่ได้แยแสกับการบาดเจ็บ ล้มตาย ของผู้ชุมนุม กปปส. เลยแม้แต่น้อย
และหากโยงไปถึง “ผู้บังคับบัญชาระดับสูง”ของรัฐบาล คงหนีไม่พ้นความรับผิดชอบของ “เป็ดเหลิม”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะที่ยังอ้างว่า มีอำนาจนั่งสั่งการในศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.)
หนำซ้ำเป็น “เป็ดเหลิม”เองที่ขู่ตลอดเวลาว่า จะมีการยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ที่ผู้ชุมนุมกปปส. แม้จะอ้างว่าที่พูดนั้น เป็นการเตือน แต่คน “สันดานการเมือง”อย่าง “เป็ดเหลิม”รู้กันอยู่ว่าพูดเตือนเพื่อจะทำ-พูดเตือนเพื่อปัดความรับผิดชอบ
**ฟันธงเลยว่า “เป็ดเหลิม”รู้อยู่แก่ใจว่าใครทำ แต่อาจจะทำเป็นหลับตา หรือมองไปทางอื่น เหมือนไม่รู้ ไม่เห็น
ทว่า ประเมินจากผลงานรอบนี้ดูแล้วไม่หวังแค่สร้างสถานการณ์ หรือข่มขู่ให้มวลชนเสียขวัญเท่านั้น
มองไปได้ถึงภารกิจเด็ดส่วนยอดหมายหัวไปที่ "กำนันสุเทพ" เลขาธิการ กปปส. เลยทีเดียว
เพราะระยะที่ระเบิดเอ็ม79 ตก จุดหนึ่งคือ “บ้านดินสอ ณ ราชดำเนิน”ซึ่งเป็นอาคาร 4 ชั้น ปรับปรุงเป็นโรงแรม และเป็นรู้กันว่า “กำนันสุเทพ" เคยเหมาทั้งตึก ใช้เป็นเซฟเฮ้าส์ส่วนตัว ในช่วงที่ยังปักหลักชุมนุมอยู่ที่ราชดำเนิน
นอกจากนี้ สุเทพ ยังเคยใช้ “บ้านดินสอ ณ ราชดำเนิน”เป็นที่ประชุมวางแผนในการเตรียมขบวนเคลื่อนไหวใหญ่
ฉะนั้น “แกนนำ”ระดับมันสมองของ กปปส. จะมาสุมหัวกันอยู่ที่ “บ้านดินสอ ณ ราชดำเนิน”แห่งนี้ แทบไม่ขาดสาย
และหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ “ชายชุดดำ”ได้ก่อเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 พร้อมใช้อาวุธปืน เอ็ม16 กราดยิงลักษณะนี้มาแล้ว แต่ผิดเป้าไปโดนผู้ชุมนุมแทน ซึ่งมาถึงทุกวันนี้ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้เหมือนเดิม
ดังนั้นเมื่อ “กำนันสุเทพ”ประกาศที่จะมานัดรวมพลคน กปปส. ให้มาชุมนุมกันที่ “ราชดำเนิน”อีกครั้ง เพื่อรอวันประกาศชัยชนะ บรรดา“ชายชุดดำ”ที่รับงานใหญ่มา ก็จัดแจงต้อนรับด้วยระเบิด เอ็ม 79 นัยหนึ่งเพื่อเป็นการเช็คระยะจุดยุทธศาสตร์ ไปในตัว
ว่ากันว่างวดนี้ “ชายชุดดำ”เหมือนถูกหวย เพราะค่าหัวของ “แกนนำกปปส.”มีราคาแพงระยับ
ยิ่งถ้าเป็นราคาค่าหัวของ “กำนันสุเทพ”อยู่ในระดับทำครั้งเดียว รวยทั้งชาติ
นั่นเพราะเดิมพันการเมืองไทยชั่วโมงนี้ สูงลิบ หาก“นายใหญ่-คนเสื้อแดง”ชนะขึ้นมา มีหวังอยู่ในฐานอำนาจการเมืองไทยอีกยาวนาน ยากที่จะหาใครมาล้มได้
“เครือข่ายนายใหญ่”ทั้งใต้ดิน-บนดิน จึงต้องเร่งสร้างผลงาน เพราะหากผลงานของใครเข้าตา“นายใหญ่”คงนั่งกิน-นอนกินกันยาว แถมยังมีหวังได้ลาภ-ยศ-สรรเสริญ มาประดับบารมีอีกเพียบ
**ค่าหัว “กำนันสุเทพ”จึงมีค่ามากกว่าการตีราคาเป็นเงิน เพราะนี่คือเดิมพันเกมอำนาจของเมืองไทย กลับ“ราชดำเนิน”ถิ่นเก่า ครั้งนี้ ไม่ง่ายสำหรับ“กำนันสุเทพ”ที่จะรักษาเนื้อรักษาตัวให้ปลอดภัยตลอดรอดฝั่ง
เสือกระดาษ
ตามสูตรสำเร็จ เมื่อก่อเหตุเสร็จคนร้ายมักจะหนีเงื้อมมือ “ตำรวจ”ได้เสมอ โดยเฉพาะในยุค“สมุนแม้ว”ครองเมือง ใครที่เลือกฝั่งอยู่ข้างเสื้อแดง ทำอะไรก็ไม่ผิด-จับไม่ได้
“ถาวร เสนเนียม”แกนนำกปปส. ตั้งข้อสังเกตทันทีว่า ตำรวจตั้งด่านปิดรอบพื้นที่ แต่ไม่สามารถจับ หรือปิดล้อมเส้นทางหนีของ คนร้ายไว้ได้เลย
**สะท้อนให้เห็นเลยว่า "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" ไม่ได้แยแสกับการบาดเจ็บ ล้มตาย ของผู้ชุมนุม กปปส. เลยแม้แต่น้อย
และหากโยงไปถึง “ผู้บังคับบัญชาระดับสูง”ของรัฐบาล คงหนีไม่พ้นความรับผิดชอบของ “เป็ดเหลิม”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะที่ยังอ้างว่า มีอำนาจนั่งสั่งการในศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.)
หนำซ้ำเป็น “เป็ดเหลิม”เองที่ขู่ตลอดเวลาว่า จะมีการยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ที่ผู้ชุมนุมกปปส. แม้จะอ้างว่าที่พูดนั้น เป็นการเตือน แต่คน “สันดานการเมือง”อย่าง “เป็ดเหลิม”รู้กันอยู่ว่าพูดเตือนเพื่อจะทำ-พูดเตือนเพื่อปัดความรับผิดชอบ
**ฟันธงเลยว่า “เป็ดเหลิม”รู้อยู่แก่ใจว่าใครทำ แต่อาจจะทำเป็นหลับตา หรือมองไปทางอื่น เหมือนไม่รู้ ไม่เห็น
ทว่า ประเมินจากผลงานรอบนี้ดูแล้วไม่หวังแค่สร้างสถานการณ์ หรือข่มขู่ให้มวลชนเสียขวัญเท่านั้น
มองไปได้ถึงภารกิจเด็ดส่วนยอดหมายหัวไปที่ "กำนันสุเทพ" เลขาธิการ กปปส. เลยทีเดียว
เพราะระยะที่ระเบิดเอ็ม79 ตก จุดหนึ่งคือ “บ้านดินสอ ณ ราชดำเนิน”ซึ่งเป็นอาคาร 4 ชั้น ปรับปรุงเป็นโรงแรม และเป็นรู้กันว่า “กำนันสุเทพ" เคยเหมาทั้งตึก ใช้เป็นเซฟเฮ้าส์ส่วนตัว ในช่วงที่ยังปักหลักชุมนุมอยู่ที่ราชดำเนิน
นอกจากนี้ สุเทพ ยังเคยใช้ “บ้านดินสอ ณ ราชดำเนิน”เป็นที่ประชุมวางแผนในการเตรียมขบวนเคลื่อนไหวใหญ่
ฉะนั้น “แกนนำ”ระดับมันสมองของ กปปส. จะมาสุมหัวกันอยู่ที่ “บ้านดินสอ ณ ราชดำเนิน”แห่งนี้ แทบไม่ขาดสาย
และหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ “ชายชุดดำ”ได้ก่อเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 พร้อมใช้อาวุธปืน เอ็ม16 กราดยิงลักษณะนี้มาแล้ว แต่ผิดเป้าไปโดนผู้ชุมนุมแทน ซึ่งมาถึงทุกวันนี้ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้เหมือนเดิม
ดังนั้นเมื่อ “กำนันสุเทพ”ประกาศที่จะมานัดรวมพลคน กปปส. ให้มาชุมนุมกันที่ “ราชดำเนิน”อีกครั้ง เพื่อรอวันประกาศชัยชนะ บรรดา“ชายชุดดำ”ที่รับงานใหญ่มา ก็จัดแจงต้อนรับด้วยระเบิด เอ็ม 79 นัยหนึ่งเพื่อเป็นการเช็คระยะจุดยุทธศาสตร์ ไปในตัว
ว่ากันว่างวดนี้ “ชายชุดดำ”เหมือนถูกหวย เพราะค่าหัวของ “แกนนำกปปส.”มีราคาแพงระยับ
ยิ่งถ้าเป็นราคาค่าหัวของ “กำนันสุเทพ”อยู่ในระดับทำครั้งเดียว รวยทั้งชาติ
นั่นเพราะเดิมพันการเมืองไทยชั่วโมงนี้ สูงลิบ หาก“นายใหญ่-คนเสื้อแดง”ชนะขึ้นมา มีหวังอยู่ในฐานอำนาจการเมืองไทยอีกยาวนาน ยากที่จะหาใครมาล้มได้
“เครือข่ายนายใหญ่”ทั้งใต้ดิน-บนดิน จึงต้องเร่งสร้างผลงาน เพราะหากผลงานของใครเข้าตา“นายใหญ่”คงนั่งกิน-นอนกินกันยาว แถมยังมีหวังได้ลาภ-ยศ-สรรเสริญ มาประดับบารมีอีกเพียบ
**ค่าหัว “กำนันสุเทพ”จึงมีค่ามากกว่าการตีราคาเป็นเงิน เพราะนี่คือเดิมพันเกมอำนาจของเมืองไทย กลับ“ราชดำเนิน”ถิ่นเก่า ครั้งนี้ ไม่ง่ายสำหรับ“กำนันสุเทพ”ที่จะรักษาเนื้อรักษาตัวให้ปลอดภัยตลอดรอดฝั่ง
เสือกระดาษ